หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

นางร้องไห้คนสุดท้ายแห่งรัตนโกสินทร์ 1/3

โพสท์โดย mata

นางร้องให้  ราชประเพณีแห่งวังหลวง

 

"นางร้องไห้" เป็นราชประเพณีเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณ จัดขึ้นเพื่อแสดงอาการโศกเศร้าเสียใจ ร้องไห้ รำพันต่อการล่วงลับของผู้ที่มีความสำคัญต่อแผ่นดิน อันเป็นการแสดงออกถึงเกียรติยศตามราชประเพณี ซึ่งถือปฏิบัติมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา นิยมทำกันในหมู่ราชวงศ์ชั้นสูงระดับพระเจ้าแผ่นดิน พระมเหสี พระราชชนนีและพระมหาอุปราช (วังหน้า)

การประกอบพิธีนางร้องไห้เป็นหน้าที่ของสตรีชาวววัง เช่น เจ้าจอม พระสนม นางกำนัล โดยคัดเลือกมาจำนวน 100 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นลูกคู่ร้องรับกับต้นเสียงอีก 4 คน และคัดเลือกหญิงที่มีเสียงไพเราะมาหนึ่งคน เพื่อประจำอยู่ใกล้พระบรมโกศ พร้อมกับขับร้องบทเพลงคร่ำครวญ ทำนองและเนื้อเศร้าโศก เยือกเย็น ซึ่งสตรีทุกคน ต้องนุ่งขาวห่มขาว และต้องสยายผมลงเช็ดพื้นเพื่อแสดงความโศกเศร้าอาลัย
เหล่านางร้องไห้ต้องร้องเพลงกล่อมบท ในงานพระบรมศพ ซึ่งส่วนใหญ่มีอยู่ 5 บทคือ เพลงพระยอดฟ้าสุเมรุทอง พระทูลกระหม่อมแก้ว พระร่มโพธิ์ทอง พระเสด็จผ่านพิภพแห่งใด ข้าพระบาทจะขอตามเสด็จไปและพระเสด็จสู่สวรรค์ชั้นใด โดยเนื้อร้องทั้ง 5 บทนี้อาจร้องสลับกันได้ในบางบทดังนี้


"พระร่มโพธิ์ของพระพุทธเจ้าข้าเอย
พระทูลกระหม่อมแก้วพระพุทธเจ้าข้าเอย
พระเสด็จไปสู่สวรรค์ชันใด  ละข้าพระบาทยุคลไว้พระพุทธเจ้าข้าเอย
พระทูลกระหม่อมแก้วพระพุทธเจ้าข้าเอย
พระยอดฟ้าพระสุเมรุทองพระพุทธเจ้าข้าเอย
พระทูลกระหม่อมแก้วพระพุทธเจ้าข้าเอย
พระเสด็จผ่านพิภพแห่งใด  ข้าพระบาทจะตามเสด็จไปพระพุทธเจ้าข้าเอย
พระทูลกระหม่อมแก้ว  พระพุทธเจ้าข้าเอย
พระทูลกระหม่อมแก้ว  พระพุทธเจ้าข้าเอย
พระทูลกระหม่อมแก้ว  พระพุทธเจ้าข้าเอย”

 ราชประเพณีนางร้องไห้ถือปฏิบัติกันเรื่อยมาจนถึงในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ในพระราชพิธีพระบรมศพ โดยมี "เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์" เป็นต้นเสียงนางร้องไห้ ซึ่งนับเป็นต้นเสียงคนสุดท้ายของกรุงรัตนโกสินทร์  เนื่องจากราชประเพณีนี้ไม่เป็นที่โปรดของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  เพราะทรงเห็นว่าเป็นการเสแสร้งไม่ใช่การร้องไห้จริง  โดยมีพระราชหัตถเลขาปรากฏข้อความเอ่ยถึงการห้ามไม่ให้มีนางร้องไห้ว่า

"มีสิ่งที่รู้สึกโล่งไปอีกอย่างหนึ่งคือนางร้องไห้ได้หยุดไปแล้ว ในเวลาก่อนๆ เมื่อลงไปที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พอถึงเวลาประโค มพระบรมศพ และนางร้องไห้เริ่มส่งเสียงขึ้น ให้รู้สึกรกหูเสียจริงๆ จะข่มใจให้นึกชอบเท่าไหร่ก็ไม่ได้เลย เพราะอดรู้สึกไม่ได้ว่า มันเป็นของไม่จริงจัง ช่างเรียกชื่อผิดเสียจริงๆ เพราะมันไม่ใช่ร้องไห้แต่เป็นร้องเพลงแท้ๆ และเพลงนั้นเนื้อร้องก็ซ้ำซากไม่เห็นไพเราะอะไร..."

นอกจากนี้ยังทรงระบุในพระราชพินัยกรรมของพระองค์อยู่ตอนหนึ่งว่า "ในเวลาตั้งพระบรมศพที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและในเวลาอื่นๆ ต่อไปนี้ตลอด ห้ามมิให้มีการ้องไห้ ถ้าผู้ใดรักใคร่ข้าพเจ้า ปรารถนาจะร้องไห้ก็ร้องไห้จริงๆ เถิดอย่างร้องเล่นอย่างละครเลย"

 ...........................................

 

 

 

 

 

ที่มา: http://pakxe.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
mata's profile


โพสท์โดย: mata
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
192 VOTES (4/5 จาก 48 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สำนักงานพุทธฯ สั่งตรวจสอบ พ่อแม่ "น้องไนซ์" เชื่อมจิตเอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?
ตั้งกระทู้ใหม่