ไอศกรีมของชาวเอสกิโม
คุณรู้หรือไม่ ว่าชาวเอสกิโมมีไอศกรีมกินกันด้วย แถมยังเป็นเมนูประจำบ้านที่สืบทอดกันมานาน เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวเอสกิโม สงสัยรึเปล่า ว่าหนาวขนาดนั้นแล้วจะยังทำไอศกรีมกินกันอีกทำไม ลองมาดูสูตรไอศกรีมพิเศษ ต้นตำรับของชาวเอสกิโมที่ไม่เหมือนใครที่ไหนในโลก
ไอศกรีมของชาวเอสกิโม มีชื่อเรียกจริงๆ คือ akutaq (อ่านว่า อกูดัก) ไม่ได้ทำมาจากครีมเหมือนไอศกรีมทั่วๆไป แต่ทำมาจากไขมันและเนื้อของสัตว์ที่ล่าได้แถวๆนั้น เช่น ไขมันแมวน้ำ ไขมันหมีขั้วโลก หรือไขมันกวางเรนเดียร์ ผสมกับเนื้อปลา และกับลูกเบอร์รี่ต่างๆ ที่หาได้จากในป่า แล้วตีด้วยมือจนขึ้นเป็นครีม พอทิ้งไว้ในอากาศเย็นก็จะเปลี่ยนเป็นไอศกรีมนั่นเอง อ่านดูแล้วไม่น่ากินเท่าไหร่ แต่ชาวเอสกิโมชอบกันมาก เพราะว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง เหมาะกับการใช้ชีวิตในที่หนาวๆ นั่นเอง
โดยปกติแล้วผู้หญิงชาวเอสกิโมจะทำไอศกรีมในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานศพ งานฉลองการล่าสัตว์ครั้งแรกของเด็กหนุ่มในหมู่บ้าน แต่ละบ้านจะมีไอศกรีมสูตรเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจะเลือกเองว่าอยากใส่ลูกเบอร์รี่ชนิดไหน และจะทำโดยใช้สูตรนั้นเท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ละบ้านจะรับประทานไอศกรีมของคนอื่นได้ แต่ถ้าบ้านไหนทำไอศกรีมสูตรอื่นที่ไม่ใช่ของบ้านตัวเองจะเสียสิทธิ์ในสังคม ทันทีที่โดนจับได้
ปัจจุบันนี้ ไอศกรีมเอสกิโมส่วนมากจะใช้เนยขาวแทนพวกไขมันสัตว์ และใส่ลูกเกดกับน้ำตาลลงไปด้วย แต่ยังคงมีการใส่เนื้อปลาแซลมอนและผลเบอร์รี่ต่างๆ ลงไปเหมือนเดิม ของว่างชนิดนี้มักจะถูกเสิร์พให้กับแขกที่มาเที่ยว หรือผู้ที่ย้ายมาใหม่เป็นการต้อนรับ (ดูเหมือนเป็นการลองใจมากกว่าว่ากล้ากินไหม) โดยมารยาทอันดีแล้ว แขกก็ไม่ควรปฏิเสธ ควรจะลองชิมดูสักหน่อย หรือไม่ถ้ากินไม่ไหวจริงๆ ก็สามารถยกไปเสิร์ฟให้กับผู้อาวุโสที่สุดในห้องได้ เป็นการแสดงความเคารพแทน แต่เท่าที่อ่านดูมา คนที่เคยกินก็บอกว่าอร่อยกันทั้งนั้น ถ้าใครอยากลองต้องไปแถวรัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา ถึงจะได้กินรสชาติแบบต้นตำรับ