ดื่มน้ำให้เป็นยา ตามหลักอายุรเวท แล้วอายุรเวท คืออะไร
อายุรเวท เป็นแนวทางการรักษาแบบโบราณ ที่เน้นการปรับสมดุลและการประสานระหว่างร่างกายกับสิ่งต่างๆ รอบตัว โดยมีหลักการว่า “สรรพสิ่งรอบตัวเราล้วนเป็นอยู่กับเรา” เช่น เมื่ออากาศเย็นก็จะสวมเสื้อผ้าเพิ่มความอบอุ่น หรือ ดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ นั่นคือ เรากำลังปรับสมดุลระหว่างความเย็นและความร้อน แต่ถ้าเราไม่ฟังและไม่ตอบสนองความต้องการของร่างกาย จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่สมดุล เช่น การเดินตากฝนโดยไม่มีร่ม หรือ เสื้อกันฝนทุกวัน เราก็จะเป็นหวัด ไอ มีไข้
อายุรเวทจึงเป็นการอธิบายธรรมชาติหรือสภาวะต่าง ๆ เช่น ร้อน เย็น เปียก แห้ง เป็นการวัดความไม่สมดุลของร่างกายเพื่อประโยชน์ในการรักษาโรค เช่น ถ้ามีผู้ป่วย 3 คนที่เป็นโรคเดียวกัน คือ ไมเกรน
1.คนแรก มีผิวหนังและริมฝีปากแห้ง รูปร่างผอมบาง มีอาการปวดหัวอย่างหนัก แนวทางก็อายุรเวทก็จะให้การบำบัดโดยการใช้น้ำมันร้อน ดื่มชาสมุนไพรร้อน เพื่อต่อต้านความแห้งกร้าน ช่วยให้ระบบประสาทและอาการหงุดหงิดสงบลง
2.คนที่สอง มีความรู้สึกว่าดวงตาร้อนผ่าว มีอาการปวดหัวรุนแรงและมีไข้สูง จะได้รับคำแนะนำให้ใช้ยาสมุนไพรประคบเย็น และ เครื่องดื่มเย็น เพื่อลดไข้และความร้อนในร่างกาย
3.คนที่สาม มีอาการปวดหัว หนักหน่วงซ้ำ ๆ กัน พบเลือดคั่ง จะได้รับยาสมุนไพรชูกำลังแบบเจือจาง เพื่อปรับสมดุลให้ความรู้สึกหนักและล้าของร่างกายบรรเทาลง
แนวคิดหลักของอายุรเวทเชื่อว่า ในร่างกายมนุษย์ทุกคนถูกหล่อเลี้ยง และ ดำเนินไปด้วยสมดุลของธาตุทั้งห้า ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ คือ คนที่รักษาสมดุลของธาตุต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาวะปกติได้จากการเลือกกินอาหารให้เหมาะสมกับสภาวะธาตุของตนเอง
หนึ่งในอาหารที่มนุษย์ทุกคนขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะมีสภาวะธาตุแตกต่างกันแค่ไหนก็คือ ‘น้ำ’ ตามหลักอายุรเวท เพียงดื่มน้ำให้ถูกวิธี ก็สามารถเปลี่ยนของเหลวธรรมดาชนิดนี้ให้เป็น ยาดีต่อร่างกายได้อย่างน่าอัศจรรย์
1.ดื่มน้ำทันทีที่ตื่นนอน การดื่มน้ำอุณหภูมิห้องในช่วงท้องว่างในตอนเช้าอย่างน้อย 1 – 4 แก้ว แบบค่อย ๆ จิบ จะช่วยป้องกันอาการเจ็บคอ โรคไขข้อ โรคหอบหืดหลอดลม ลดอาการท้องผูก เพราะน้ำจะช่วยกระตุ้นระบบทางเดินอาหารทำให้การขับถ่ายคล่องและเป็นปกติ ซึ่งจำเป็นต่อการกำจัดสารพิษในร่างกาย ส่วนใครที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก ควรดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญอาหาร
หากอิงตามหลักอายุรเวทแบบดั้งเดิม น้ำที่เหมาะจะดื่มที่สุดตอนท้องว่างยามเช้า คือ น้ำที่เก็บไว้ในภาชนะทองแดงค้างคืน เพราะเชื่อกันว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว เนื่องจากภาชนะทองแดงช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ แต่ต้องเป็นน้ำที่เก็บไว้ในภาชนะทองแดงเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกันเท่านั้น จึงเน้นว่าควรเป็นน้ำที่เก็บไว้ในภาชนะทองแดง ‘ค้างคืน’
2.ดื่มน้ำในท่านั่ง อายุรเวทศาสตร์แนะนำว่าไม่ควรยืนดื่มน้ำ เพราะจะทำให้เกิดอาการปวดเข่าและข้อต่อ เนื่องจากน้ำหนักของร่างกายลงไปอยู่ที่เท้า อีกทั้งการนั่งดื่มน้ำจะช่วยให้ดูดซึมได้ดีกว่า
3.จิบน้ำทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง ดีกว่าการดื่มน้ำทีละมากๆ ในครั้งเดียว เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการน้ำของร่างกาย ช่วยเพิ่มพลังทางเดินอาหาร เพราะน้ำจะทำหน้าที่เสมือนยาหากเกิดอาการอาหารไม่ย่อ การดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ จะทำให้ไตทำงานหนัก เพราะต้องกรองน้ำส่วนเกินออกจากเลือด อาจส่งผลให้เกิดโรคไตเรื้อรัง รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
4.ไม่ดื่มน้ำก่อนกินข้าวอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพราะจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ และ เกิดการอ่อนเพลีย
5.ไม่ดื่มน้ำทันทีหลังอาหาร ควรดื่มน้ำหลังมื้ออาหาร 1 ชั่วโมง เพราะการดื่มน้ำทันทีหลังอาหารเป็นการขัดขวางการดูดซึมของสารอาหารในระหว่างกระบวนการย่อยอาหาร และ การดูดซึมธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้เสียงมากกว่าคนปกติ เช่น นักร้อง พิธีกร ครู ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำทันทีหลังอาหาร เพราะน้ำจะไปชะล้างน้ำมันที่กินเข้าไปพร้อมกับอาหารจนหมด ซึ่งน้ำมันเหล่านี้ช่วยให้ชุ่มคอและผ่อนคลาย หากกำจัดออกไปจะทำให้คอแห้ง และ เกิดอาการเจ็บคอได้
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ชายวัย 60 ปี กินแต่ "ของต้ม" หวังสุขภาพดี แต่กลับมีปัญหาสมองตื้อและความจำเสื่อม
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เขมรเรียกร้องให้ไทยหยุดโกหกเพื่อปกปิดการรุกราน
สะพานไม้ ตำนานของความแข็งแรงนั้นเกิดขึ้นจากความพยายามจะใช้งาน (สังขละบุรี)
ชายวัย 60 ปี กินแต่ "ของต้ม" หวังสุขภาพดี แต่กลับมีปัญหาสมองตื้อและความจำเสื่อม








