ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยคิดเลยว่า “พื้นบ้าน” จะมีผลต่อความสุขของสัตว์เลี้ยงในบ้านมากขนาดนี้ จนวันที่น้องหมาวิ่งเล่นแล้วลื่นล้มกลางห้อง หรือกรงเล็บของน้องแมวขูดพื้นจนเป็นรอย… ตอนนั้นถึงได้รู้ว่า การเลือกพื้นให้เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เรื่องเล็กเลย
พอเริ่มศึกษาลึก ๆ ก็พบว่า “ พื้นไวนิล ” คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุด ทั้งกันน้ำ กันรอย และมีพื้นผิวกันลื่น เหมาะกับทั้งน้องหมาน้องแมวที่ชอบวิ่งเล่นในบ้าน บทความนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ และเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่ช่วยให้เลือกพื้นไวนิลได้เหมาะกับสัตว์เลี้ยงจริง ๆ ทั้งในแง่ความปลอดภัย ความทนทาน และความสวยของบ้านที่ยังดูดีเสมอ
1.ทำไมพื้นไวนิลถึงเหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง

พื้นไวนิล ถือเป็นวัสดุปูพื้นที่ตอบโจทย์บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงมากที่สุด เพราะมีพื้นผิวที่นุ่ม ยืดหยุ่น และกันลื่นได้ดี ช่วยลดแรงกระแทกเวลาน้องหมาน้องแมววิ่งเล่น อีกทั้งยังกันน้ำ ทำความสะอาดง่ายเพียงใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ก็กลับมาสะอาดเหมือนใหม่ พื้นไวนิลรุ่นใหม่ยังมีชั้นเคลือบป้องกันรอยขีดข่วนจากเล็บสัตว์เลี้ยง ทำให้พื้นดูสวยงามอยู่เสมอ เหมาะทั้งกับบ้าน คอนโด หรือเพนต์เฮาส์ที่ต้องการพื้นสวย ทน และปลอดภัยสำหรับสมาชิกขนฟูในบ้านทุกตัว
2.เข้าใจค่ากันลื่น R-Rating ก่อนเลือกพื้นให้สัตว์เลี้ยง

ค่า R-Rating คือค่ามาตรฐานสากลที่ใช้บอกระดับ “ความต้านทานการลื่น” ของพื้นผิว โดยจะวัดตั้งแต่ R9 ถึง R13 ยิ่งตัวเลขสูง พื้นก็จะยิ่งกันลื่นได้ดีมากขึ้น
-พื้นที่มีค่า R9–R10 มักเหมาะกับพื้นที่ทั่วไปที่ไม่โดนน้ำบ่อย เช่น ห้องนอนหรือห้องทำงาน
-ส่วน R11–R13 จะให้ผิวสัมผัสที่มีแรงเสียดทานสูง เหมาะกับพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงเดินหรือวิ่งบ่อย เช่น ห้องนั่งเล่น โซนนั่งเล่นนอกบ้าน หรือบริเวณอาบน้ำสัตว์ เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการลื่นล้ม โดยเฉพาะในบ้านที่มีสุนัขหรือแมวสูงวัยที่ข้อขาเริ่มอ่อนแรง
การเลือกพื้นไวนิลที่มีค่า R สูงจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีดูแลความปลอดภัยของเพื่อนสี่ขาได้อย่างใส่ใจ นอกจากค่ากันลื่น R-Rating แล้ว “ค่า AC” ก็เป็นอีกหนึ่งเกณฑ์สำคัญที่ควรรู้ก่อนเลือกพื้นไวนิลหรือพื้นลามิเนตให้บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เพราะเป็นตัวบ่งบอกระดับ “ความทนทานต่อการขีดข่วนและการสึกหรอ” ของพื้น โดยจะมีตั้งแต่ AC1 ถึง AC6 ยิ่งตัวเลขสูง พื้นก็ยิ่งแข็งแรงและทนต่อแรงกระแทกได้ดีขึ้น
3.เทคนิคเลือกพื้นไวนิลแบบไหนเหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง?

– เลือกพื้นกันลื่น (R11–R13): พื้นที่มีค่า R สูงจะช่วยลดโอกาสที่น้องหมาน้องแมวลื่นล้ม โดยเฉพาะในโซนที่มีความชื้น เช่น ห้องน้ำ โซนล้างตัว หรือโซนนอกบ้าน
– เลือกพื้นกันรอย (AC4–AC5): เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนจากเล็บสัตว์หรือของตกกระแทก พื้นที่มีค่า AC ระดับนี้มักใช้ในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น บ้านพักอาศัย โรงแรม หรือคาเฟ่
– กันน้ำได้: เลือกพื้นไวนิล ที่เกรดคุณภาพสูง
– พื้นผิวสัมผัสแบบ Matte หรือ Embossed: ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เดินสบายเท้า ไม่ลื่น และช่วยพรางรอยเล็บได้ดี
– วัสดุปลอดสารพิษ (มาตรฐาน E1 / FloorScore): เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงและคนในบ้าน พื้นไวนิลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจะปลอดภัยจากสารฟอร์มัลดีไฮด์และ VOCs
4.เทคนิคดูแลพื้นไวนิลให้ดูใหม่เสมอ แม้มีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน

- ทำความสะอาดประจำวันด้วยไม้ถูพื้นชุบน้ำหมาด ๆ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไป เพราะอาจซึมเข้ารอยต่อของพื้นได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง เพื่อคงความเงางามของผิวพื้น และไม่ทำลายชั้นเคลือบป้องกันรอย
- ตัดเล็บสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ ลดโอกาสเกิดรอยขีดข่วนจากเล็บบนพื้น
- วางพรมกันลื่นในจุดที่สัตว์เลี้ยงชอบนอนหรือวิ่งเล่น เพื่อช่วยซับแรงกระแทกและลดรอย
- ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์ ป้องกันรอยขีดข่วนเมื่อสัตว์เลี้ยงชนหรือขยับเฟอร์นิเจอร์
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรงหรือเครื่องขัดไฟฟ้า เพราะอาจทำลายผิวเคลือบของพื้นได้
- หมั่นตรวจเช็กสภาพพื้นบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น โซนล้างตัวหรือใกล้ประตู เพื่อป้องกันการยกตัวหรือบวมของพื้น
พื้นไวนิลถือเป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับคนรักสัตว์ เพราะทั้งดูแลง่าย ทนต่อรอยเล็บ กันน้ำ และปลอดภัยต่อสุขภาพของทั้งคนและเพื่อนขนฟู หากเลือกพื้นคุณภาพที่มีมาตรฐานทั้งค่า R กันลื่น และค่า AC กันรอยขีดข่วน ก็จะช่วยให้บ้านดูสวยสะอาดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีหรือมีเจ้านายสี่ขากี่ตัวก็ตาม เพราะ “พื้นบ้านที่ดี” ไม่ได้แค่เพิ่มความสวยงามให้พื้นที่อยู่อาศัย แต่ยังสร้างความสบายใจให้ทุกคนในบ้านได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างอิสระและมีความสุขในทุกวัน