หนังกลางแปลงในความทรงจำ กับการดูหนังสร้างรายได้ในโลกออนไลน์
ในอดีต หากพูดถึง “หนังกลางแปลง” ภาพที่หลายคนคุ้นเคยคือจอผ้าขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางทุ่งหรือลานวัด เสียงเครื่องฉายดังแทรกในความมืด ผู้คนหอบเสื่อมาปูนั่งรอดูหนังกันอย่างตื่นเต้น นั่นคือความสุขยามค่ำของคนไทยในยุคที่โทรทัศน์ยังไม่เข้าถึงทุกบ้าน
"หนังกลางแปลง" เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยเริ่มมีการใช้ “รถเร่ฉายหนังขายยา” เป็นเครื่องมือค้าขายและโฆษณา โดยเฉพาะในชนบทที่ห่างไกลจากโรงหนัง รถเหล่านี้มักดัดแปลงจากรถบรรทุกเก่า ติดตั้งเครื่องฉาย 16 มม. ลำโพง เครื่องปั่นไฟ และจอผ้าไว้พร้อม ตระเวนไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อฉายหนังควบคู่กับการขายยา ยาที่ขายมักเป็นยาลูกกลอน ยาดองเหล้า หรือยาสมุนไพรพื้นบ้าน โดยมี “หมอหนังขายยา” เป็นทั้งพิธีกร นักแสดง และนักขายในคนเดียวกัน เป็นทั้งธุรกิจและศิลปะพื้นบ้านที่คนไทยจดจำ
“รถหนังขายยา สตรีเพ็ญภาค ตราพระยานาค” ถือว่าเป็นหนึ่งในรถเร่ฉายหนังขายยาที่ เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย รถคันนี้เริ่มต้นโดย นายเจือ เพ็ญภาคกุล เจ้าของร้านขายยาชื่อ “สตรีเพ็ญภาค” ได้ซื้อรถยนต์ “ดอดจ์” (Dodge) จากสหรัฐอเมริกาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และดัดแปลงให้เป็นรถฉายหนังพร้อมอุปกรณ์ครบชุด แล้วเริ่มออกเดินสายฉายหนังขายยาทั่วประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2492 โดยรถคันนี้สร้างชื่อเสียงอย่างมาก เพราะไม่ได้มีแค่การฉายหนัง แต่ยังมีการแสดงโชว์ การพูดขายยาสมุนไพร และกิจกรรมสร้างความสนุกก่อนเริ่มฉาย จนกลายเป็น “ตำนานของหนังขายยา” ในยุคหนึ่ง และสำหรับหลายหมู่บ้าน การมาของ “รถหนังขายยา” คือเหตุการณ์ใหญ่ที่ทุกคนรอคอยเหมือนงานวัดประจำปี
เมื่อเทคโนโลยีโทรทัศน์และวิดีโอเทปเข้ามาในช่วงทศวรรษ 2530–2540 หนังกลางแปลงเริ่มลดความนิยมลง รถเร่ขายยาหลายคณะต้องปิดกิจการเพราะผู้คนหันไปดูทีวีในบ้านแทน ความสะดวกและความทันสมัยค่อย ๆ กลืนเสน่ห์ของหนังกลางแปลงกลางทุ่งไปอย่างช้า ๆ แม้จะยังมีคณะหนังกลางแปลงหลงเหลืออยู่บ้างในงานบุญหรืองานวัด แต่บรรยากาศแห่งการรอคอย การรวมตัว และเสียงหัวเราะร่วมกันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 “จากจอผ้าใบสู่จอมือถือ” การดูหนังกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เมื่อเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาแทนที่ ความบันเทิงไม่ได้อยู่แค่บนจอผ้าขาวในทุ่งนาอีกต่อไป แต่ย้ายมาอยู่บน “จอมือถือ” ที่ทุกคนพกติดตัว ยุคใหม่ของการดูหนังเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Netflix, YouTube, TikTok ผู้ชมไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องรอรอบฉาย และสามารถเลือกหนังดูได้ทุกที่ทุกเวลา และที่น่าสนใจคือ แนวคิดการ “ดูหนังแล้วได้เงิน” ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่เปิดให้ผู้ใช้รับชมคลิปวิดีโอ ดูโฆษณา หรือรีวิวภาพยนตร์ เพื่อสะสมแต้มแลกรางวัลหรือเงินสด
ถึงแม้ยุคของหนังกลางแปลงจะจางหายไปจากท้องทุ่ง แต่จิตวิญญาณของมันยังคงอยู่ในรูปแบบใหม่ ความสุขจากการดูหนังร่วมกันยังเกิดขึ้นใน “ห้องแชตไลฟ์” หรือ “กลุ่มดูหนังออนไลน์” ที่คนแปลกหน้ามานั่งหัวเราะ ร้องไห้ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันผ่านหน้าจอ ต่างกันเพียงแสงไฟส่องจากเครื่องฉาย กลายเป็นแสงจากจอ OLED และเสียงหัวเราะของชาวบ้าน กลายเป็นเสียงแจ้งเตือนของผู้ติดตาม
จาก “รถหนังขายยา สตรีเพ็ญภาค ตราพระยานาค” ที่เคยตระเวนฉายหนังกลางแปลงทั่วประเทศ ถึงยุคของแอปดูหนังออนไลน์ที่สร้างรายได้จากการคลิกดู เรื่องราวนี้สะท้อนการเปลี่ยนผ่านของวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง...
ในอดีต... เราดูหนังแล้วเสียเงิน ในวันนี้... เราดูหนังแล้วได้เงิน และในอนาคต... เราอาจเป็นคนสร้างหนังที่เล่าเรื่องของเราเองบนจอที่เชื่อมโยงผู้คนทั้งโลกเข้าไว้ด้วยกัน
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นัดแล้วเปลี่ยน! กัมพูชาขอย้าย GBC ไปมาเลเซีย โยนเหตุผลกลัวไทยไม่ปลอดภัย
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
โรงพักจำปาลาว เดอะวิลล่า ที่พักที่เรานั้นจองสำหรับการพักผ่อนในคืนแรก (วังเวียง)
พืชอาหารที่กินได้ ปลูกตามใจจนกลายเป็นสวนใหญ่ (วังเวียงประเทศลาว)
ความเรียบง่ายที่หรูหรา (วังเวียง ลาว) ด้านในอลังการมากกว่าการมองในส่วนของภายนอก
วังเวียงธรรมชาติ ความงามที่หลายคนยากจะเห็น หลงรักในความงาม


