รู้หรือไม่ ?...ถ้ามนุษย์อยากมีสายตาที่ดีเหมือนนกฮูก เราต้องมีดวงตาโตเท่ากับผลส้มโอ
ในบรรดานกนานาชนิดบนโลก “นกฮูก” คือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเสน่ห์เฉพาะตัว ดวงตากลมโตสีเข้มที่มักสะท้อนแสงระยับยามค่ำคืน คือสัญลักษณ์ของความฉลาด สติปัญญา และการมองทะลุในความมืด แต่แท้จริงแล้ว “ดวงตา” ของนกฮูกไม่ได้มีไว้เพื่อความน่าหลงใหลเท่านั้น หากแต่เป็นอวัยวะที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและการออกแบบจากธรรมชาติที่ชาญฉลาดเกินจินตนาการ
ดวงตาของนกฮูกมีขนาดใหญ่ผิดสัดส่วน เมื่อเทียบกับร่างกาย โดยอาจมีน้ำหนักถึง 1–5% ของน้ำหนักตัวทั้งหมด แล้วแต่ชนิดของนกฮูก ขนาดตาที่ใหญ่เช่นนี้ช่วยให้พวกมันรับแสงได้มากกว่านกทั่วไปหลายเท่า ทำให้มองเห็นได้ดีแม้ในสภาพแสงน้อยยามค่ำคืน สิ่งนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญของสัตว์นักล่ายามรัตติกาล
อีกหนึ่งความสามารถพิเศษของนกฮูก คือการมองเห็นแบบ “Binocular Vision” ซึ่งหมายถึงการใช้ดวงตาทั้งสองข้างมองเห็นวัตถุเดียวกันในเวลาเดียวกัน ด้วยขอบเขตการมองเห็นกว้างถึง 110 องศา และมุมมองแบบสามมิติที่ชัดเจนถึง 70 องศา ส่งผลให้นกฮูกสามารถประเมินระยะทาง ความลึก และทิศทางได้อย่างแม่นยำไม่ต่างจากมนุษย์ ช่วยให้การจับเหยื่อในความมืดเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของนกฮูกไม่ได้มีลักษณะกลมเหมือนของคน แต่กลับเป็น รูปทรงยาวคล้ายท่อ (tubular eyes) และถูกยึดติดอยู่ภายในกะโหลกศีรษะด้วยวงกระดูกที่เรียกว่า “Sclerotic Rings” ทำให้นกฮูกไม่สามารถกลอกตาไปมาด้านข้างได้เลย มันจึงต้องหันศีรษะเพื่อเปลี่ยนมุมมอง ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้นกฮูกสามารถหมุนศีรษะได้ไกลถึง 270 องศา ทั้งซ้ายและขวา โดยไม่เป็นอันตรายต่อหลอดเลือดหรือเส้นประสาท — ความสามารถอันน่าทึ่งที่ธรรมชาติออกแบบมาอย่างลงตัว
ดวงตาของนกฮูกยังมีโครงสร้างภายในที่ซับซ้อนและทรงพลัง เริ่มจาก กระจกตา (Cornea) ขนาดใหญ่ที่ช่วยรวบรวมแสงเข้าสู่ดวงตา ต่อด้วย รูม่านตา (Pupil) ที่สามารถขยายและหดตัวได้กว้างกว่าสัตว์ทั่วไป เพื่อปรับปริมาณแสงที่เข้าสู่ เลนส์ (Lens) และส่งต่อไปยัง เรตินา (Retina) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อรับแสงที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงให้กลายเป็นภาพ
ภายในเรตินาของนกฮูกเต็มไปด้วย เซลล์รับแสงแบบแท่ง (Rod Cells) ที่ไวต่อแสงและการเคลื่อนไหว แต่มีเซลล์รับสีหรือ Cone Cells น้อยมาก จึงทำให้พวกมันมองเห็นเป็นภาพโทนขาว–ดำมากกว่าการรับรู้สีสันเหมือนมนุษย์ แต่ในทางกลับกัน นี่คือจุดแข็งที่ทำให้นกฮูกสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในคืนที่มืดสนิท
ข้อเข้าใจผิดที่ว่านกฮูก “ตาบอดในเวลากลางวัน” นั้นไม่เป็นความจริงเลย เพราะรูม่านตาของพวกมันสามารถหดตัวลงได้มากเพื่อควบคุมปริมาณแสงเข้าสู่ดวงตา ทำให้นกฮูกยังคงมองเห็นได้ดีในสภาพแสงจ้า เพียงแต่ไม่ถนัดเท่าช่วงกลางคืนเท่านั้น
อีกหนึ่งกลไกสำคัญของดวงตานกฮูกคือ “เปลือกตาที่สาม” หรือ nictitating membrane ซึ่งเป็นเยื่อบาง ๆ สีขุ่นที่เลื่อนจากด้านในออกด้านนอกของตาในแนวทแยง มีหน้าที่คล้ายกระจกนิรภัย ช่วยปกป้องดวงตาจากฝุ่น ลม และเศษดินในระหว่างการบิน รวมถึงช่วยหล่อลื่นและทำความสะอาดดวงตาโดยไม่ต้องหลับตาทั้งหมด
เมื่อนำทุกองค์ประกอบมารวมกัน ดวงตาของนกฮูกจึงเปรียบเสมือน “กล้องส่องทางไกลชีวภาพ” ที่ถูกออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับการดำรงชีวิตในยามค่ำคืน — มันสามารถจับแสงเพียงเล็กน้อยแล้วขยายความชัดเจนให้กลายเป็นภาพของเหยื่อที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดได้ทันที
ดวงตาคู่นั้นไม่เพียงเป็นหน้าต่างแห่งการมองเห็นของนกฮูกเท่านั้น หากยังสะท้อนถึงภูมิปัญญาแห่งธรรมชาติ ที่สร้างสมดุลระหว่างความงาม ความลึกลับ และการเอาตัวรอดไว้อย่างสมบูรณ์แบบในสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่ผู้คนทั่วโลกต่างยกให้เป็น “สัญลักษณ์ของปัญญาในยามรัตติกาล”.
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ



