ใบไม้คู่สุดท้าย
ใบไม้คู่สุดท้าย
อักษราลัย
แพทย์หนุ่มเก็บปากกาลงในกระเป๋าเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด สายตาเขาจับอยู่กับใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของผู้ชายชราที่นั่งอยู่ตรงหน้า
"คุณลุงสมชาย... วันนี้มาเช็คผลตรวจคนเดียวเหรอครับ?" หมอถามเบา ๆ น้ำเสียงอ่อนโยน
สมชายส่ายหน้า มือเหี่ยวย่นยกขึ้นปัดหยดน้ำที่เอ่อล้น "ครับ ใบไม้อีกใบร่วงไปแล้ว"
-----------------
42 ปีก่อน
กลิ่นควันจากการเผาไหม้ลอยคลุ้งไปทั่ว ทั้งบริเวณนั้นมีแต่ไอสีดำร้อนแรง ไม่ต่างจากไฟบรรลัยกัลป์ที่พร้อมแผดเผาทุกสิ่งที่อยู่ใกล้ให้มอดไหม้กลายเป็นจุณ ผู้คนต่างวิ่งกรูกันออกมาจากอาคารที่เพลิงกำลังโหมลุกไหม้ สมชายในวัย 28 ปี ผลักประตูห้องแล้วรีบวิ่งหนี ควันดำทำให้หายใจไม่ออก เขาเกือบจะถึงทางออกอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงนั้น
เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากปลายสุดทางเดิน ทำให้เท้าที่กำลังก้าวของใครหลายคนชะงัก ก่อนจะรีบไปต่อเพื่อให้พ้นจากหายนะเบื้องหน้า คงมีเพียงเขาที่ชะงักยืนนิ่ง
"ช่วยด้วย... ช่วยลูกฉันด้วย!"
เขาหันกลับไปมอง ผู้หญิงคนหนึ่งดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง มือเธอชี้ไปที่ห้องปลายทางเดิน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาหันหลังกลับ แทนที่จะวิ่งออกไปข้างนอก ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีบางอย่างที่แข็งแกร่งกว่าผลักดันให้เขาวิ่งฝ่าควันกลับเข้าไปในห้องปลายทางเดิน
ประตูห้องนั้นร้อนจัด เขาใช้เสื้อพันมือก่อนจะผลักเข้าไป แรงระเบิดของความร้อนซัดเข้าใส่ แต่เขาก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั่งกอดตุ๊กตาตัวสั่นเทาอยู่มุมห้อง
"มาเร็ว!" เขาตะโกน พร้อมยื่นมือออกไป
เด็กน้อยมองเขาด้วยดวงตาเต็มไปด้วยความกลัว แต่ก็ยอมวิ่งมาหา สมชายอุ้มเธอขึ้นมา เขาถอดเสื้อนอกคลุมศีรษะเด็กน้อยไว้ ก่อนจะพยายามหาทางออก
แต่เปลวไฟได้ปิดกั้นทางเดิมแล้ว
"ไม่ต้องกลัวนะ เราจะรอดไปด้วยกัน" เขาปลอบ แม้ว่าหัวใจตัวเองจะเต้นรัวด้วยความตระหนก
เขาหันไปเห็นหน้าต่าง จึงรีบวิ่งไปเปิดมัน ยื่นหน้าออกไปจึงรู้ว่าพวกเขาอยู่ชั้นสอง ไกลพอที่จะกระโดดลงไปได้โดยปลอดภัย
"เกาะคอลุงแน่น ๆ นะ เราจะกระโดดลงไป" เขากระซิบที่หูเด็กน้อย "หลับตาไว้"
ขณะกำลังเตรียมตัวกระโดด ความร้อนจากเพลิงที่โหมเข้ามาจนแผดเผาผิวหลัง เขาแทบจะทนไม่ไหว แต่ชีวิตในอ้อมแขนนี้สำคัญกว่า
เขากระโดด…
-------------
ความเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วร่าง สมชายลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในห้องพยาบาลสีขาว ความทรงจำสุดท้ายคือการกระโดดออกจากหน้าต่างพร้อมกับเด็กผู้หญิงในอ้อมแขน
"คุณตื่นแล้วเหรอ?" เสียงหวานดังขึ้นข้าง ๆ
เขาพยายามหันไปมอง เห็นพยาบาลสาวในชุดขาวยืนอยู่ข้างเตียง
"เด็ก... เด็กคนนั้น?" เขาถามเสียงแห้ง
"ปลอดภัยแล้วค่ะ" เธอยิ้ม "น้องนาราน่ะคะ แม่ของเธอดีใจมากที่คุณช่วยชีวิตลูกสาวเอาไว้ได้ พวกเขากลับบ้านไปหลายวันแล้ว ส่วนคุณเอง... กระดูกขาหักและมีแผลไฟไหม้ที่หลังค่อนข้างรุนแรง คงต้องพักฟื้นอีกพักใหญ่"
"ผมชื่อสมชายครับ" เขาแนะนำตัว พยายามฝืนยิ้มทั้งที่ความเจ็บปวดยังแล่นไปทั่วร่าง
"ฉันเรขาค่ะ" เธอตอบ ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย "ทำไมคุณถึงวิ่งกลับเข้าไปในห้องที่กำลังไฟไหม้แบบนั้น? คุณไม่รู้จักเด็กคนนั้นด้วยซ้ำ!"
คำถามนั้นทำให้สมชายเงียบไป เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
"บางที... เพราะผมไม่อยากมีชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ช่วยใครสักคน หลังจากได้ยินเสียงกรีดร้องนั้น"
เรขาจ้องมองเขานิ่ง ดวงตาของเธอเป็นประกายประหลาด "ผู้ชายแบบคุณนี่หายากนะ"
ห้าเดือนในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและการบำบัดฟื้นฟู ทุก ๆ วัน เรขาจะมาเยี่ยม ความสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลและคนไข้ค่อย ๆ มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
"ฉันไปร้องขอเป็นพยาบาลประจำตัวคุณนะ" เธอสารภาพในวันหนึ่ง ขณะกำลังทำแผลที่หลังให้เขา "หัวหน้าพยาบาลคงคิดว่าฉันบ้าไปแล้ว"
"ทำไมคุณถึง..."
"เพราะฉันเห็นหัวใจของคุณน่ะสิ" เธอตอบเรียบ ๆ "คนที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเด็กที่ไม่รู้จัก... ฉันอยากรู้จักคนแบบนั้นให้มากกว่านี้"
สมชายหันไปมองหน้าเธอ รอยยิ้มของเรขาเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดที่เขาเคยเห็น
"แผลที่หลังของคุณจะเป็นรอยแผลเป็นไปตลอดนะ" เธอพูดเบา ๆ
"ไม่เป็นไรครับ" เขาตอบ "ถ้าไม่มีมัน ผมคงไม่ได้พบคุณ"
------------
30 ปีต่อมา
"พิซซ่ามาแล้ว!" สมชายพูดเสียงดังด้วยน้ำเสียงร่าเริง ขณะเดินถือกล่องพิซซ่าร้อน ๆ เข้ามาในบ้าน
เรขาเงยหน้าขึ้นจากงานถักไหมพรมที่กำลังทำอยู่ รอยยิ้มระบายบนใบหน้าที่เริ่มมีริ้วรอย "น้ำหนักเธอขึ้นอีกแล้วนะ"
"ไม่เห็นเกี่ยวเลย" เขาวางกล่องลงบนโต๊ะ "ฉลองวันครบรอบแต่งงาน 30 ปีของเรา ห้ามพูดเรื่องน้ำหนักและคอเลสเตอรอลวันนี้" ทั้งคู่หัวเราะประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน ใบหน้าเอิบอิ่มยิ้มแย้ม
ห้องนั่งเล่นของพวกเขาเต็มไปด้วยภาพถ่ายครอบครัว บนโต๊ะมีภาพวันแต่งงานของพวกเขา ข้าง ๆ กันคือภาพลูกสาวของพวกเขาในชุดรับปริญญา และหลานชายวัย 5 ขวบที่มีรอยยิ้มกว้าง
เรขาวางงานถักลง ลุกขึ้นเดินมาหาสามี รอยแผลเป็นที่คอของเธอเผยให้เห็นชัดเจนเมื่อเธอขยับตัว มันเป็นร่องรอยจากการผ่าตัดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเมื่อห้าปีก่อน
"นี่ เดี๋ยวก่อน" สมชายพูด หยิบกล่องเล็ก ๆ จากกระเป๋า "ของขวัญวันครบรอบ"
"อะไรกัน พิซซ่าไม่ใช่ของขวัญแล้วเหรอ?" เธอหยอก รับกล่องมาเปิดออก ข้างในเป็นสร้อยคอทองคำขนาดเล็ก มีจี้รูปใบไม้สองใบซ้อนกัน
"สวยจัง..." เธอกระซิบ
"เหมือนใบไม้คู่สุดท้ายที่ไม่ยอมร่วงหล่นในฤดูหนาว" เขาอธิบาย "เหมือนเราสองคน ไม่ว่าพายุชีวิตจะพัดแรงแค่ไหน เราก็ยังอยู่ด้วยกัน"
เรขามองสร้อยด้วยดวงตาเป็นประกาย "ใบไม้คู่สุดท้ายที่ไม่ยอมร่วงหล่น... ชอบจังเลย"
-----------
40 ปีหลังเหตุการณ์ไฟไหม้
"คุณตรวจสอบผลอีกครั้งได้ไหมครับหมอ?" สมชายถามเสียงสั่น มือจับแน่นที่มือของเรขาซึ่งนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล
หมอส่ายหน้า "เราตรวจสอบหลายครั้งแล้วนะครับ ตอนนี้เซลล์มะเร็งกระจายไปทั่วร่างกายแล้ว ระยะนี้เราทำได้แค่ประคับประคอง"
เรขามองสามีด้วยดวงตาอ่อนล้า ริมฝีปากยังมีรอยยิ้ม "ไม่เป็นไรนะ เราสู้กันมาหลายรอบแล้ว"
เมื่อหมอออกไปแล้ว สมชายกุมมือภรรยาแน่น น้ำตาเอ่อล้น
"คุณรู้ไหม" เรขาพูดเบา ๆ "ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่ได้พบคุณ"
"อย่าพูดแบบนั้น เหมือนกำลังจะลาจากกัน" เขาบอก
"เราทุกคนต้องจากกันสักวัน" เธอกระซิบ "แต่รักแท้ไม่เคยจากไป"
สมชายสั่นศีรษะ พยายามกลั้นสะอื้น "เราเป็นเหมือนใบไม้คู่สุดท้ายไม่ใช่เหรอ? ที่ไม่ยอมร่วงหล่น?"
"ใช่ค่ะ..." เรขายิ้ม มือเหี่ยวย่นของเธอยกขึ้นสัมผัสใบหน้าเขา "แต่บางครั้ง ใบไม้ใบหนึ่งต้องร่วงหล่นก่อน เพื่อให้อีกใบหนึ่งแข็งแกร่งพอที่จะอยู่รอต่อไป"
"ผมไม่อยากอยู่โดยไม่มีคุณ"
เรขาสวมสร้อยคอรูปใบไม้คู่ มือของเธอเลื่อนไปสัมผัสมัน "คุณต้องแข็งแกร่ง... เพื่อลูกและหลานของเรา และอีกอย่าง..."
เธอหยุดพูด มองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา
"อีกอย่าง?"
"ฉันไม่เคยบอกคุณ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "วันที่คุณถูกส่งเข้ามาในโรงพยาบาลหลังเหตุการณ์ไฟไหม้ ฉันเป็นพยาบาลฝึกหัดที่เพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วัน"
สมชายมองเธอด้วยความสงสัย
"ฉันได้ยินคนในโรงพยาบาลพูดถึงคุณ... ชายหนุ่มธรรมดาที่วิ่งเข้าไปในตึกไฟไหม้เพื่อช่วยเด็กที่ไม่รู้จัก ฉันเฝ้าดูคุณทุกวันจากระยะไกล แอบมองผ่านหน้าต่างห้องพยาบาล ก่อนจะรวบรวมความกล้าขอเป็นพยาบาลดูแลคุณ"
เธอหยุดหายใจเล็กน้อย "สิ่งที่คุณทำ... มันสอนฉันเรื่องความเสียสละที่แท้จริง ฉันไม่เคยบอกเพราะกลัวคุณจะคิดว่าฉันแค่หลงใหลในภาพฮีโร่ที่ฉันวาดขึ้นในหัว"
น้ำตาไหลอาบแก้มของสมชาย "แต่ไม่ใช่..."
"ไม่ใช่ค่ะ" เธอส่ายหน้า "ฉันประทับใจการกระทำของคุณในตอนแรก แต่ฉันตกหลุมรักกับตัวจริงที่ฉันได้รู้จักในทุก ๆ วัน... คนที่อดทนกับความเจ็บปวด คนที่ยิ้มให้ฉันทุกเช้า คนที่มองโลกในแง่ดีแม้ในยามที่ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส คนที่ไม่ยอมท้อ หรือยอมแพ้ต่อโชคชะตา"
เธอจับมือเขาแน่น "ตอนนั้นฉันไม่รู้หรอกว่าเราจะมาไกลขนาดนี้ ได้ใช้ชีวิตร่วมกันนานขนาดนี้... แต่ถ้าให้เลือกอีกครั้ง ฉันก็จะเลือกเดินเข้าไปในห้องพยาบาลของคุณวันนั้น วันที่ฉันเห็นรอยแผลเป็นบนหลังของคุณเป็นครั้งแรก และรู้ว่าคุณคือคนที่ฉันอยากใช้ชีวิตร่วมด้วย"
เธอดึงสร้อยออกจากคอ วางในมือของสมชาย "ถึงเวลาที่ใบไม้ใบนึงต้องปล่อยมือแล้ว"
----------------
ปัจจุบัน
แพทย์หนุ่มมองชายชราตรงหน้าด้วยความเห็นใจ "คุณลุงควรพักผ่อนนะครับ สุขภาพเริ่มไม่ดีแล้ว"
สมชายจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างโรงพยาบาล ต้นไม้ใหญ่ข้างนอกกำลังสลัดใบในฤดูใบไม้ร่วง "ไม่เป็นไรหรอกหมอ ผมมาวันนี้แค่อยากรู้ว่า... มันเหลือเวลาอีกนานแค่ไหน"
หมอหนุ่มก้มหน้ามองผลตรวจ "เราเคยคุยกันแล้วนะครับ..."
"ผมแค่อยากยืนยัน" สมชายพูดเรียบ ๆ "ผมไม่กลัวความตายหรอก แค่อยากรู้ว่าผมต้องรอนานแค่ไหนกว่าจะได้เจอเธออีกครั้ง"
มือเหี่ยวย่นของเขากำสร้อยรูปใบไม้คู่ที่สวมอยู่ที่คอ ใบไม้เงินแกะสลักเล็ก ๆ สองใบที่ยังคงแนบชิดกัน
"คุณ... คิดถึงภรรยามากสินะครับ" หมอพูดเบา ๆ
สมชายยิ้มบาง "ผมมีชีวิตอยู่สองครั้ง หมอรู้ไหม ครั้งแรกตั้งแต่เกิด และครั้งที่สองตั้งแต่วันที่ผมได้พบเธอ ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงครึ่งหลังของชีวิตครั้งที่สาม... ตั้งแต่วันที่เธอจากไป"
เขาลุกขึ้นยืน หยิบไม้เท้า "ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะหมอ แต่ผมคงไม่กลับมาหาอีกแล้วนะ"
"คุณลุงครับ เรายังต้องติดตามอาการ..."
"ไม่จำเป็นแล้ว" สมชายพูดพลางเดินไปที่ประตู "ผมอยู่มานานพอแล้ว"
บนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วยที่บ้าน สมชายวางรูปถ่ายเก่า ๆ ของเขากับเรขา กรอบสุดท้ายเป็นภาพวันแต่งงานที่มีคราบน้ำตาเปื้อนตรงมุม เขานั่งลงบนเตียง หยิบสร้อยคอจากคอตัวเอง วางคู่กับอีกเส้นที่เป็นของเรขา สองใบไม้เงินวางเคียงข้างกัน
สมชายค่อย ๆ เอนตัวลงนอน ดวงตาจับจ้องที่ภาพบนผนัง เขายิ้มบาง
"รอผมอีกนิดนะ" เขากระซิบ "ใบไม้คู่นี้กำลังจะร่วงหล่นพร้อมกันแล้ว"
ข้างนอกหน้าต่าง มีใบไม้สองใบปลิวว่อนอยู่ในสายลม ก่อนจะร่วงหล่นลงบนพื้นโดยพร้อมเพรียงกัน
............... จบ ................
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
7 อาหารทำร้ายผิว ควรเลี่ยง ถ้าไม่อยากผิวเสีย
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
ใครที่ยังตั้งรหัสผ่านง่ายๆ รีบเปลี่ยนด่วน! เพราะไม่ปลอดภัยอาจโดนเจาะได้
จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 2/1/69
เปิดตำนานอาถรรพ์ "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" แห่งวัดกุฎีดาว: ความลี้ลับที่อยู่คู่แผ่นดินอยุธยา
ไขข้อสงสัย! ลืมอุ่นอาหารจาก 7-11 เอากลับไปขอเวฟที่ร้านทีหลังได้หรือไม่? เปิดคำตอบจาก "น้องเปาเซเว่น"
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิม
หลังหยุดยิง จีนบริจาคเงินและของให้เขมร มูลค่า 20 ล้านหยวน
พระสงษ์ชาวเวียดนาม ผู้เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องศาสนา
อศาสนิก SBNR (Spiritual But Not Religious) เชื่อเรื่องธรรม จิตวิญญาณ แต่ไม่นับถือศาสนา
เจาะระบบเตือนภัย J-ALERT ระบบเตือนภัยที่ทรงพลังที่สุดในโลก
10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวที่คุณอาจเข้าใจผิด


