"เสือปลา" หนึ่งในแมวป่าที่โปรดปรานในการลงน้ำ
เสือปลา (Fishing cat) หรือที่คนไทยบางพื้นที่เรียกว่า “เสือแผ้ว” คือหนึ่งในแมวป่าที่น่าทึ่งที่สุดในโลก เพราะต่างจากแมวส่วนใหญ่ที่กลัวน้ำ แต่เจ้าเสือปลากลับใช้ชีวิตผูกพันกับสายน้ำอย่างแนบแน่น มันไม่เพียงลงน้ำได้อย่างไม่กลัวเปียก แต่ยังว่ายน้ำ ดำน้ำ และล่าปลาได้อย่างชำนาญราวกับเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำเสียเอง
เสือปลาจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลแมว (Felidae) ขนาดกลาง มีรูปร่างอ้วนป้อม ขนสั้นและหนาแน่น สีเทาอมน้ำตาลหรือเทาอมเขียวมะกอก ลำตัวประดับด้วยจุดสีดำเรียงขนานไปตามแนวยาว ขนของมันมีสองชั้น ชั้นในสั้นแน่นช่วยกันน้ำไม่ให้ซึมถึงผิวหนัง จึงทำให้ตัวแห้งและรักษาความอบอุ่นได้ดี ส่วนขนชั้นนอกมันวาวและเป็นเกราะกำบังจากความเย็นของสายน้ำ เหมาะสมอย่างยิ่งกับชีวิตที่ต้องล่าเหยื่อในแหล่งน้ำตื้น
ลักษณะเด่นอีกอย่างของเสือปลาคือ “พังผืดบางระหว่างนิ้วเท้า” โดยเฉพาะที่เท้าหน้า ซึ่งช่วยให้ว่ายน้ำได้รวดเร็วและทรงพลังยิ่งขึ้น แม้ไม่สามารถเก็บเล็บได้เหมือนแมวหรือเสือชนิดอื่น ๆ แต่กลับกลายเป็นข้อได้เปรียบในการจับเหยื่อในน้ำได้มั่นคง หัวของมันใหญ่ ดวงตาสีเขียวสด หูสั้นและมีกรอบดำด้านหลัง ซึ่งช่วยพรางตัวในยามซุ่มรอเหยื่อ
เสือปลามีความยาวลำตัวราว 70–90 เซนติเมตร หางยาว 20–30 เซนติเมตร น้ำหนักโดยเฉลี่ย 7–11 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับแหล่งอาศัยและอาหารในพื้นที่นั้น ๆ โดยทั่วไปพวกมันจะกระจายพันธุ์ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินเดีย บังกลาเทศ จีน เมียนมา ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มักอาศัยอยู่ในป่าพรุ ป่าชายเลน หรือป่าเบญจพรรณใกล้แหล่งน้ำ เพราะอาหารหลักของมันคือ “ปลา” รวมถึงกบ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และสัตว์บกขนาดเล็กอย่างหนูหรือนกที่มาอาศัยใกล้น้ำ
พฤติกรรมการล่าของเสือปลาน่าทึ่งอย่างยิ่ง มันจะนั่งหมอบเงียบ ๆ ริมน้ำ จ้องมองผิวน้ำอย่างนิ่งราวรูปปั้น ก่อนจะพุ่งเข้าตะครุบปลาด้วยความแม่นยำสูง หรือบางครั้งจะค่อย ๆ เดินลงน้ำตื้น ใช้เท้าตะกุยเบา ๆ ให้ปลาเคลื่อนไหว แล้วจึงตะปบจับขึ้นมากินสด ๆ เสือปลายังสามารถดำน้ำไล่จับเหยื่อได้อีกด้วย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่หาได้ยากในสัตว์ตระกูลแมว
ถึงแม้เสือปลาจะเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ แต่มันกลับมีนิสัยดุร้ายและปกป้องอาณาเขตอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในฤดูผสมพันธุ์ แม่เสือจะสร้างรังอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หรือในโพรง และให้กำเนิดลูกครั้งละ 1–4 ตัว แม่จะเลี้ยงลูกอยู่ราว 10–12 เดือน ก่อนแยกให้ลูกออกหากินด้วยตนเองตามธรรมชาติ ลูกเสือปลาช่วงวัยรุ่นจะใช้เวลาฝึกว่ายน้ำและดักปลา จนกระทั่งพร้อมออกล่าด้วยตัวเอง
ในฤดูแล้ง เมื่อระดับน้ำลดลงและปลาเริ่มหายาก เสือปลามักออกมาหากินใกล้พื้นที่ชุมชนมนุษย์มากขึ้น บางครั้งจึงเกิดการเผชิญหน้ากับคน หรือคุกคามปศุสัตว์ขนาดเล็กอย่างลูกวัวหรือไก่ในฟาร์ม ซึ่งเป็นเหตุให้มันตกเป็นเป้าการล่าและสูญเสียถิ่นอาศัยอย่างต่อเนื่อง
ทุกวันนี้ เสือปลาได้รับการจัดให้อยู่ในสถานะ “เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์” (Vulnerable) ตามบัญชีแดงของ IUCN เนื่องจากพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นบ้านของมันลดลงอย่างรวดเร็วจากการพัฒนาและบุกรุกของมนุษย์ การอนุรักษ์เสือปลาจึงไม่ใช่เพียงการรักษาสัตว์นักล่าชนิดหนึ่ง แต่ยังหมายถึงการปกป้องระบบนิเวศของป่าพรุและป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของโลก
เสือปลา คือสัญลักษณ์แห่งความกลมกลืนระหว่างความสง่างามของแมวป่ากับพลังของสายน้ำ มันแสดงให้เห็นว่าในธรรมชาติ ไม่มีขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างผืนดินกับผืนน้ำ มีเพียงชีวิตที่รู้จักปรับตัวตามจังหวะของโลก และยังคงต่อสู้อย่างงดงามเพื่ออยู่รอดภายใต้เงาแห่งผืนป่าและระลอกคลื่นที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง.
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
งูหลามเผือกพม่า งูสวยงามขนาดใหญ่ที่มีผู้นิยมเลี้ยงกันมากเลยทีเดียวน๊า...
"ปลาปีศาจครีบพัด" ( Fanfin Seadevil ) หรือ Caulophryne jordani
รู้หรือไม่ ? ทำไมแมวที่คุณเลี้ยงไว้ชอบเดินตามคุณไปในทุกๆที่
"กบเรืองแสง" ชนิดใหม่ถูกพบในประเทศอาร์เจนตินา
