รวม 12 ทรงผมของผู้หญิงจีนโบราณ
ในโลกของวัฒนธรรมจีนโบราณ เส้นผมไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ใช้ปกปิดศีรษะ หากแต่เป็น “เครื่องหมายแห่งอัตลักษณ์” ที่สื่อถึงฐานะ ความงาม และสภาวะของชีวิตหญิงชาววังและหญิงสามัญชนอย่างลึกซึ้ง ทรงผมแต่ละแบบมีชื่อเรียกเป็นกวี มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ และมักถูกใช้ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ ทั้งในชีวิตประจำวัน งานพิธี หรือการแสดงออกทางศิลปะ บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ 12 ทรงผมโบราณของหญิงจีน ที่ไม่เพียงงดงาม หากยังสะท้อนรสนิยมและความละเอียดอ่อนของวัฒนธรรมตะวันออกได้อย่างน่าประทับใจ
1. 坠马髻 (จ้วยหม่าจี้) – ทรง “ม้าล้ม” หรือ “ผมม้าพลัดตก”
ทรงนี้เป็นการรวบผมขึ้นสูงแล้วปล่อยปลายให้ทิ้งลงมาอย่างอ่อนช้อย คล้ายหางม้าที่สะบัดเมื่อม้าล้มลง ชื่อที่ดูแปลกหูนี้กลับแฝงความหมายถึงความอ่อนโยนที่แฝงพลัง ความสง่างามที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา จึงเป็นทรงที่ให้ภาพหญิงสาวผู้แข็งแกร่งแต่ละเมียดละไมในเวลาเดียวกัน
2. 飞天髻 (เฟยเทียนจี้) – ทรง “นางสวรรค์เหินฟ้า”
ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพจิตรกรรมผนังถ้ำตุนหวง ซึ่งมักปรากฏภาพนางฟ้ากำลังเหาะเหิน ผมของทรงนี้จะม้วนขึ้นสูงและพลิ้วราวกับลอยอยู่ในอากาศ ให้ความรู้สึกอิสระ เบาสบาย และเต็มไปด้วยเสน่ห์เหนือมนุษย์ เหมาะกับหญิงสาวผู้มีจิตใจเป็นอิสระและมีความงามแบบนางสวรรค์
3. 朝天髻 (เฉาเทียนจี้) – ทรง “ชี้ฟ้า”
เป็นทรงที่ม้วนผมขึ้นสูงไว้บนกระหม่อม ราวกับผมกำลังตั้งขึ้นสู่ท้องฟ้า สื่อถึงความกระปรี้กระเปร่า ความทะเยอทะยาน และพลังชีวิต หญิงที่ทำผมทรงนี้มักเป็นผู้มีบุคลิกสดใส ร่าเริง และมั่นใจในตนเอง
4. 惊鸿髻 (จิงหงจี้) – ทรง “หงส์สะดุ้ง”
ชื่อที่แสนกวีนี้เปรียบกับหงส์ที่พลันขยับปีกอย่างงดงาม เส้นผมจึงถูกม้วนให้โค้งพลิ้วอย่างอ่อนโยน ดูราวกับกำลังเคลื่อนไหว ทรงนี้สะท้อนความงามแบบละเอียดอ่อนและสง่างาม เหมาะกับหญิงสาวผู้มีความมั่นใจในความงดงามของตน
5. 小两把头 (เสี่ยวเหลียงป่าถัว) – ทรง “สองกะจุกเล็ก”
ทรงผมยอดนิยมของสาวน้อยในวัยเยาว์ มัดผมเป็นกะจุกเล็ก ๆ สองข้าง ศีรษะดูน่ารักและซุกซน เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ความสดใส และวัยเยาว์ที่ยังไม่ถูกโลกภายนอกแตะต้อง
6. 牡丹头 (หมู่ตานโถว) – ทรง “ดอกโบตั๋น”
โบตั๋นคือราชินีแห่งดอกไม้ในวัฒนธรรมจีน ผมทรงนี้จึงม้วนเป็นกลีบ ๆ ซ้อนกันเหมือนกลีบดอกโบตั๋นที่กำลังบาน สื่อถึงความอ่อนหวาน อ่อนโยน และความสูงส่งของหญิงผู้เปี่ยมด้วยเสน่ห์
7. 灵蛇髻 (หลิงเซ่อจี้) – ทรง “งูว่องไว”
ทรงผมที่ม้วนพันกันคล้ายรูปงู ดูพลิ้วและมีพลัง แสดงถึงความเฉลียวฉลาด ความยืดหยุ่น และความสามารถในการเอาตัวรอด หญิงที่เลือกทรงนี้มักเป็นผู้มากปัญญาและมีเสน่ห์ลึกลับ
8. 十字髻 (สือจื๋อจี้) – ทรง “รูปกากบาท”
ผมถูกรวบและไขว้กันเป็นรูปกากบาทตรงกลางศีรษะ ดูสมมาตรและเรียบหรู เป็นทรงที่ให้ความรู้สึกสงบ มั่นคง และมีระเบียบแบบแผน มักนิยมในหญิงชั้นสูงหรือผู้มีตำแหน่งในราชสำนัก
9. 双环望仙髻 (ซวงหวนว่างเซียนจี้) – ทรง “วงคู่ชมเซียน”
ทรงผมนี้มีลักษณะเป็นมวยผมสองวงไขว้กันดูสง่างามและอ่อนช้อย มักใช้ในเครื่องแต่งกายของสตรีระดับสูง หรือสวมใส่ในการแสดงที่ต้องการสื่อภาพลักษณ์ของเทพธิดาในวรรณคดีจีน
10. 抛家髻 (เพาจาจี้) – ทรง “ผมออกเรือน”
เป็นทรงผมที่หญิงสาวมักทำเมื่อแต่งงานหรือออกจากบ้านเกิดสู่ชีวิตใหม่ ลักษณะผมจะถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย แสดงถึงความอ่อนน้อมและการเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตคู่
11. 挑心髻 (เถียวซินจี้) – ทรง “ผมยั่วใจ”
ชื่อที่แฝงเสน่ห์แห่งหญิงสาวผู้เปี่ยมด้วยความมั่นใจ ผมจะม้วนเป็นโค้งนุ่มนวล มีจุดเน้นตรงกลางศีรษะราวกับรูปหัวใจ เป็นสัญลักษณ์ของความงดงาม เย้ายวน และความรักที่เร้นอยู่ในใจ
12. 朝云近香髻 (เฉายวิ่นจิ้นเซียงจี้) – ทรง “เมฆเช้าใกล้กลิ่นหอม”
ทรงผมที่มีชื่อไพเราะราวบทกวี บรรยายถึงเส้นผมที่ม้วนขึ้นอย่างนุ่มนวลคล้ายกลุ่มเมฆยามรุ่งอรุณ ละมุนและงดงามดั่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยมากับลมเช้า เป็นทรงที่แสดงถึงความอ่อนโยนและสงบของหญิงผู้เปี่ยมด้วยศิลปะในหัวใจ
ทรงผมทั้ง 12 แบบนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องแต่งกาย หากแต่เป็น “ภาษาของยุคสมัย” ที่ถ่ายทอดความรู้สึก ความเชื่อ และค่านิยมของผู้หญิงในสังคมจีนโบราณได้อย่างงดงาม มันคือศิลปะที่มีชีวิต เป็นการแสดงออกของความงามที่ไม่เพียงอยู่บนศีรษะ แต่ยังสะท้อน “จิตวิญญาณของความเป็นหญิง” ได้อย่างลึกซึ้งและทรงพลัง.
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
ไทยยึดเนิน 350 สำเร็จแล้ว! เตรียมรับร่าง 2 ทหารกล้ากลับ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติ
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!



