หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องเล่าหลังม่านสงคราม: ความทุกข์ยากของชาวสยาม

โพสท์โดย Thai Weapon Channel

เรื่องเล่าหลังม่านสงคราม: ความทุกข์ยากของชาวสยาม

การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 ไม่ได้เป็นเพียงความพ่ายแพ้ทางการเมือง หรือการสิ้นสุดของราชธานีที่รุ่งเรืองยาวนานกว่า 400 ปีเท่านั้น แต่มันคือจุดเริ่มต้นของมหันตภัยที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับสามัญชน นั่นคือ "ความอดอยาก" วิกฤตการณ์ที่แผ่ขยายไปทั่วแผ่นดิน เปลี่ยนสยามประเทศให้กลายเป็นดินแดนแห่งความทุกข์ทรมาน และนี่คือเรื่องราวของความมืดมิดนั้น กับแสงสว่างแห่งความหวังที่ปรากฏขึ้นในนามของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

--------------------------------------------------------------------------------

1. สภาพบ้านเมืองหลังสิ้นกรุง: เมื่อความตายอยู่ทุกหนแห่ง

หลังเปลวเพลิงแห่งสงครามมอดดับลง สิ่งที่ตามมาคือความเงียบงันอันน่าสะพรึงกลัวและความหิวโหยที่กัดกินชีวิตผู้คน ปัญหาการขาดแคลนอาหารไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในซากปรักหักพังของกรุงศรีอยุธยาเท่านั้น ดังที่ สุกัญญา สุจฉายา ได้ระบุไว้ในงานศึกษาเรื่อง "อาหารไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา" ว่าวิกฤตนี้ได้ลุกลามไปถึงหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร

ภาพที่ชัดเจนที่สุดคือสิ่งที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้ทอดพระเนตรเห็นด้วยพระองค์เอง เมื่อเสด็จฯ กลับมายังกรุงศรีอยุธยาหลังจากขับไล่ทหารพม่าออกจากค่ายโพธิ์สามต้นได้สำเร็จ พระราชพงศาวดารฯ ได้บันทึกภาพอันน่าสลดใจนั้นไว้ว่า:

"ทอดพระเนตรเห็นอัฏฐิกเรวฬะคนทั้งปวงอันถึงพิบัติชีพตายด้วยทุพภิกขะโจระโรคะ สุมกองอยู่ดุจหนึ่งภูเขา แลเห็นประชาชนซึ่งลำบากอดอยากอาหารมีรูปร่างดุจหนึ่งเปรตปีศาจพึงเกลียด"

ภาพของกองกระดูกที่สุมกันราวภูเขา และผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่แต่มีรูปกายผ่ายผอมเหมือนเปรตปีศาจ คือภาพสะท้อนความล่มสลายของสังคมและความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสของราษฎรในเวลานั้นอย่างแท้จริง

ท่ามกลางความสิ้นหวังนี้เอง แสงแห่งความหวังก็ได้เริ่มทอประกายขึ้น เมื่อบุรุษผู้มีความมุ่งมั่นที่จะกอบกู้แผ่นดินได้ปรากฏพระองค์ขึ้น

--------------------------------------------------------------------------------

2. พระเมตตาที่เมืองชลบุรี: ปฐมบทแห่งการช่วยเหลือ

ก่อนจะเสด็จฯ กลับไปยังกรุงศรีอยุธยา เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จฯ ไปยังเมืองชลบุรี พระองค์ได้แสดงให้เห็นถึงน้ำพระทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาต่อราษฎรผู้ยากไร้ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นปฐมบทแห่งพระราชกรณียกิจในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชน

พระองค์ได้ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ชาวเมืองชลบุรีในหลายมิติ ดังนี้:

• พระราชทานเงินตราแก่ผู้ยากไร้: เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแก่เหล่า วณิพกยาจก ให้ผู้คนที่ขัดสนเรื่องข้าวปลาอาหารสามารถประทังชีวิตต่อไปได้

• โปรดเกล้าฯ ให้จัดการซากศพ: ทรงพระราชทานเงินตราแก่ สัปเหร่อ เพื่อจัดการเผาศพผู้อดอยากตาย ซึ่งไม่เพียงช่วยฟื้นฟูสุขอนามัย แต่ยังเป็นการฟื้นฟูสภาพจิตใจของชุมชน ด้วยการขจัดภาพอันน่าสลดใจและคืนศักดิ์ศรีสุดท้ายให้แก่ผู้ล่วงลับ

• พระราชทานอุทิศส่วนกุศล: ทรงทำบุญบังสุกุล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมทั้งอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

เหตุการณ์ที่เมืองชลบุรีเป็นหลักฐานชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สำหรับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแล้ว การดูแลทุกข์สุขและปากท้องของประชาชนคือภารกิจสำคัญอันดับแรกสุด

แม้พระองค์จะทรงเริ่มต้นช่วยเหลือประชาชนแล้ว แต่บททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยังคงรอพระองค์อยู่ ณ เมืองหลวงที่ล่มสลาย

 

 --------------------------------------------------------------------------------

3. การตัดสินพระทัยครั้งประวัติศาสตร์: ท่ามกลางซากปรักหักพัง

เมื่อได้ทอดพระเนตรเห็นสภาพอันน่าสังเวชของกรุงศรีอยุธยา พระราชพงศาวดารบันทึกไว้ว่าพระองค์ "ทรงพระสังเวช" และ "มีพระทัยเหนื่อยหน่ายในราชสมบัติ" จนเกือบจะตัดสินพระทัยเสด็จกลับไปยังเมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพระองค์

แต่ในวินาทีแห่งความท้อแท้นั้นเอง ก็เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อเหล่าสมณพราหมณาจารย์ ข้าราชการ และราษฎรที่รอดชีวิต ต่างพากันเข้ามากราบทูลอ้อนวอน ขอให้พระองค์อย่าทอดทิ้งพวกเขาและแผ่นดินเกิด

การตัดสินพระทัยที่จะ "ยับยั้งอยู่" ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในวันนั้น จึงไม่ใช่แค่การอยู่ต่อ แต่คือการรับเอาพันธสัญญาที่จะแบกรับชะตากรรมของบ้านเมืองและกอบกู้ชีวิตผู้คนนับหมื่นนับแสนที่กำลังรอคอยความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง

เมื่อทรงตัดสินพระทัยแล้ว พระองค์ก็ทรงลงมือแก้ไขปัญหาที่ใหญ่และเร่งด่วนที่สุดในทันที นั่นคือการต่อสู้กับ "ความอดอยาก" ที่กำลังคร่าชีวิตผู้คน

--------------------------------------------------------------------------------

4. ปฏิบัติการกู้วิกฤตอาหาร: "ให้ชีวิต...คืนคงไว้ได้"

ความท้าทายทางเศรษฐกิจในเวลานั้นรุนแรงอย่างยิ่ง แผ่นดินร้างไร้ผู้คนทำการเกษตรกรรม ดังที่พงศาวดารระบุว่า "ยังหาผู้จะทำนามิได้" ส่งผลให้ข้าวสารมีราคาแพงลิ่ว โดยข้าวสารจากเรือสำเภาขายในราคาสูงถึง 3 บาทบ้าง 1 ตำลึงบ้าง หรือแม้กระทั่ง 5 บาทบ้างในเวลานั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงลงมือแก้ไขวิกฤตนี้อย่างเป็นระบบและด้วยพระทัยที่เด็ดเดี่ยว

ปัญหาเร่งด่วน

พระราชกรณียกิจเพื่อแก้ไข

ราษฎรทั่วไปกว่า 10,000 คน อดอยาก

ทรงเปิดคลังหลวงและพระราชทานอาหารแก่คนโซอนาถาอย่างทั่วถึง

ข้าราชการทหารพลเรือนขาดแคลนเสบียง

พระราชทานข้าวสารคนละ 1 ถัง เป็นเสบียงยังชีพได้นาน 20 วัน เพื่อธำรงรักษากำลังหลักของอาณาจักรไว้

ข้าวสารในท้องตลาดมีราคาแพงลิ่ว

ทรงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว แม้จะต้องทรงกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำเงินมาจัดซื้อข้าวสารจากพ่อค้าสำเภาต่างชาติ แล้วนำมาแจกจ่ายให้แก่ทหารและราษฎร

ขาดขวัญและกำลังใจ

ทรงอุทิศพระวรกายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนพงศาวดารบันทึกว่า "มิเป็นอันที่จะบันทมสรงเสวยเป็นสุข" เพื่อดูแลราษฎรด้วยพระองค์เอง

พระราชกรณียกิจเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการแจกของเพื่อสงเคราะห์ แต่คือการ "พระราชทานชีวิตให้คงคืนไว้ได้" อย่างแท้จริง การทำให้ราษฎรมีอาหารประทังชีวิต คือการวางรากฐานที่สำคัญที่สุดในการฟื้นฟูขวัญกำลังใจและสร้างชาติขึ้นมาใหม่จากซากปรักหักพัง

--------------------------------------------------------------------------------

5. บทสรุป: พระมหากษัตริย์ผู้กอบกู้ชีวิต

เรื่องราวเหล่านี้ตอกย้ำว่า พระเกียรติคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนั้นยิ่งใหญ่กว่าการเป็น "นักรบผู้กอบกู้เอกราช" แต่พระองค์ยังทรงเป็น "ผู้ให้ชีวิต" ที่ทรงฉุดรั้งพสกนิกรของพระองค์ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของความตายอันเกิดจากความอดอยาก

โพสท์โดย: กับข้าวกับปลา
อ้างอิงจาก: จดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวี (พ.ศ. 2310-2381), สงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๓๑๐ ศึกษาจากพงศาวดารพม่าฉบับราชวงศ์คองบอง, ประวัติศาสตร์ไทยสมัยธนบุรี (จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากร หรือตำราอื่นๆ)
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Thai Weapon Channel's profile


โพสท์โดย: Thai Weapon Channel
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: กับข้าวกับปลา
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าสภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิดตรวจพบมะเร็งลำไส้ระยะที่ 3 จากอาการที่หมอเห็น ทำให้หมอรู้สึกว่า "ละเลยมานานเกินไป!"นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ SequoiaUnseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
ตั้งกระทู้ใหม่