ขายได้ ตั้งแต่ยังไม่ได้ขาย
โลกของเราถูกขับเคลื่อนด้วยการซื้อและการขาย ทุกธุรกิจที่ประสบ ความสําเร็จได้ ล้วนเกิดจากการขายแทบทั้งสิ้น
ยิ่งในยุคออนไลน์แบบนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ําให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคนที่ขายเก่งคือคนที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาได้ จึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ทักษะการขายคือทักษะแห่งการสร้างเนื้อสร้างตัวอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม การขายคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกสําหรับผมมันเป็น เรื่องน่าอายมากที่เราจะเดินเข้าไปหาใครสักคนแล้วเสนอขายสินค้า แถมยังต้องเสี่ยงกับคําปฏิเสธที่จะทําให้หน้าแตกอีก ยิ่งถ้าให้ไปเดิน แจกใบปลิว บอกเลยว่าผมไม่มีทางทําแบบนั้นได้แน่นอน ซึ่งต้นตอจริงๆก็เกิดจากความกลัวที่จะถูกปฏิเสธนั่นเอง
สมัยเรียนผมจึงอาศัยการทําอาชีพเป็นครูสอนเทควันโด ซึ่งก็เปิด สอนตามปกติ แล้วมีคนมาเรียนกันเอง เพราะไม่ค่อยมีคู่แข่ง พอมีคน มาเรียนก็ไปบอกกันปากต่อปากแค่นั้น ไม่ได้ไปขายคอร์สอะไรกับใคร แต่พอมาปัจจุบันที่ผมเริ่มมาทําธุรกิจขายหนังสือออนไลน์และมีคู่แข่งมากมาย ผมจึงต้องฝึกทักษะการขายมากขึ้น และกลายเป็นว่ามี ยอดขายเข้ามาถล่มทลาย
จนทุกวันนี้มีแต่คนบอกว่าผมขายเก่ง ซึ่งเอาจริงๆ ผมไม่ได้รู้สึกว่า ตัวเองกําลังขายของเลย แค่รู้สึกว่ากําลังมอบคุณค่าจากสินค้าให้ผู้อื่น เท่านั้น ผมยังรู้สึกสงสัยตัวเองว่าทําไมคนอื่นถึงมองว่าเราขายเก่ง ทั้งที่เราเคยเป็นคนขายอะไรไม่เป็นมาก่อนเลย
แต่พอได้อ่านหนังสือหลายๆเล่ม และได้นําไปใช้กับการขายจริงๆ ผมจึงค้นพบว่ามันมีอยู่ 3 หลักการ ที่ทําให้เราดูเป็นคน “ขายเก่ง” จนคนอื่นอาจคิดว่ามีพรสวรรค์
- ต้อง “เชื่อ” ในสินค้า
ปัจจัยแรกที่ทุกคนต้องมีคือ คุณต้องเชื่อในสินค้าของตัวเองก่อน เพราะการขายคือการส่งมอบความมั่นใจจากคนขายไปสู่คนซื้อ ถ้าคนขายไม่มั่นใจ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนซื้อจะมั่นใจในสินค้าของคุณ
คุณเคยไปกินข้าวที่ร้านอาหาร แล้วบังเอิญว่ารสชาติร้านนั้นถูกปากคุณสุดๆ คุณจึงไปแนะนำเพื่อนๆ ว่าต้องไปกินร้านนี้ให้ได้ด้วยสีหน้าแววตาที่จริงจังมาก จนสุดท้ายเพื่อนก็ตามกันไปกินข้าวที่ร้านนั้นด้วยไหม
นั่นแหละ คุณกำลังขายของให้กับร้านอาหารร้านนั้นอยู่ เพียงแต่คุณไม่ได้ส่วนแบ่งจากเขาเท่านั้นเอง
คำถามคือ ทําไมเราถึงขายให้คนอื่นได้ ทั้งที่ก็ไม่ใช่คนขายเก่ง นั่นเป็นเพราะคุณเชื่อว่าอาหารร้านนั้นอร่อยจริงๆ เพราะเคยสัมผัสด้วยตัวเองมาแล้ว การขายจึงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมันเกิดจากความชอบของคุณอยู่แล้ว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงดูขายหนังสือเก่งมาก เพราะผมคลั่งไคล้ในหนังสือมากๆ ผมจึงขายมันได้อย่างมั่นใจด้วยสีหน้าและแววตาที่อินกับมันจริงๆ เชื่อไหมว่าถ้าให้ผมไปขายสินค้าตัวอื่นที่ผมไม่เชื่อ ผมก็จะเปลี่ยนเป็นคนที่ขายอะไรไม่เป็นอยู่ดี และบอกเลยว่าความเชื่อมันโกหกกันไม่ได้ เพราะถึงแม้คำพูดจะโกหกกันได้ แต่สุดท้ายคนจะดูออกจากสีหน้า แววตา ท่าทาง น้ำเสียง การใช้คำพูด ซึ่งของพวกนี้หลอกกันลำบากครับ
- ต้อง "รู้สึก"
หลายคนเวลาอยากจะขายของก็คิดแต่ว่าหาอะไรมาขายก็ได้ แต่ไม่ได้รู้จริงในสินค้านั้นๆ และถ้าเราไม่รู้ลึกในสินค้าของตัวเองมากพอ แล้วเราจะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจได้อย่างไร
ดังนั้นก่อนจะขายอะไร ความรู้อย่างแรกที่คุณต้องรู้เลยคือ รู้สึกในเรื่องสินค้า เพราะมันจะเป็นตัวเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวคุณเองด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ถ้าคุณเคยดู Live ขายอาหารทะเลตากแห้งของบังฮาซัน คุณจะรู้เลยว่าเขาไม่ได้แค่เอาอาหารทะเลมาวาง แล้วบอกว่าสินค้าของตัวเองมีอะไรบ้าง แต่เขาสามารถอธิบายได้ เช่น ปลาอินทรีย์ จะมี 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์หัวสั้น กับสายพันธุ์หัวยาว โดยมันจะอาศัยอยู่ในทะเลทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งปลาอินทรีย์นั้นจะสามารถจับได้เฉพาะช่วงเวลาเท่านั้น โดยมันจะอยู่กันเป็นฝูง ถ้าอยากได้ปลาอินทรีย์เค็มที่เนื้อปลามีความหอมจะต้องเป็นปลาที่หมักสดๆ โดยไม่ผ่านน้ำแข็งมาเท่านั้น ถ้าใครได้ปลาอินทรีย์เค็มที่เนื้อปลามีกลิ่นแสดงว่าปลาอินทรีย์โดนแช่น้ำแข็งมาก่อนที่จะหมัก
บังฮาซันบอกว่า เขารู้ที่มาที่ไปของสินค้าทุกชนิดที่เขาขาย เพราะเขาคือ “ชาวประมง” ตัวจริงเสียงจริง จึงไม่แปลกที่คนจํานวนมากเลือกซื้ออาหารทะเลตากแห้งจากบังฮาซัน เพราะความรู้สึกในสินค้าทำให้ตัวบังฮาซันมีความน่าเชื่อถือ
ลองคิดดูว่าคุณไปซื้อสินค้าที่ร้านไหนสักแห่ง พอถามข้อมูลพนักงาน พนักงานก็ตอบว่าไม่รู้ แล้วก็รีบเดินไปถามคนนั้นคนนี้ให้มาช่วยตอบ คุณจะรู้สึกอยากซื้อสินค้านั้นอีกไหมครับ
- ต้อง “ฟัง” ลูกค้า
การขายที่ดีที่สุด คือ “การฟัง” ไม่ใช่ “การพูด”
การตั้งคำถามที่ถูกต้องและการฟังจะทำให้รู้ว่าลูกค้าเป็นคนแบบไหน ลูกค้ามีปัญหาอะไร แล้วกำลังต้องการอะไรอยู่ เพื่อที่คุณจะสามารถแก้ปัญหาให้เขาได้ เหมือนกับ “หมอ”
ลองจินตนาการว่าวันนี้คุณปวดหัวแล้วไปหาหมอ สิ่งแรกที่หมอจะ ถามคุณคือ สอบถามอาการป่วย สอบถามพฤติกรรมต่างๆ เช่น ปวด ตรงไหน ปวดมากี่วันแล้ว ส่วนใหญ่ปวดเวลาไหน มีไข้หรือเปล่า หลังจากสอบถามอาการแล้วทําการตรวจอย่างละเอียด ถึงจะ วินิจฉัยโรคออกมา แล้วบอกว่าคุณเป็นอะไร บอกว่า “ยา” ตัวไหนที่ สามารถรักษาคุณได้ หน้าที่ของคุณคือ เดินไปจ่ายเงินแล้วรับยากลับ ไปกินที่บ้าน คุณหมอจะไม่อธิบายสรรพคุณของยาก่อนการวินิจฉัยโรคและแทบจะไม่คุยเรื่องของยาเลยด้วยซ้ํา
ลองนึกภาพดูว่า ถ้าคุณไปหาหมอแล้วเจอหมอที่บอกว่า "คุณเอา ยาตัวนี้ไปกินนะ ยาตัวนี้มีสรรพคุณแบบนี้ มันใช้แล้วดีมากเลย ถ้ากิน แล้วหายแน่นอน”คําถามคือ คุณจะกล้าไปหาหมอคนนี้อีกไหมครับ แล้วจะกล้ากิน ยาที่หมอให้มาไหม
แน่นอนว่าคงตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่า “ไม่”
แต่น่าแปลก ที่เวลาคนเราจะขายของ ชอบขายแบบ “หมอที่ไม่มี การตรวจโรคก่อน”
เพราะทุกครั้งที่คนส่วนใหญ่เริ่มขายสินค้า ก็จะเริ่มอธิบายข้อมูล เกี่ยวกับสินค้าสารพัดอย่างกับร้องเพลงแร็ปให้ลูกค้าฟัง แล้วก็พยายาม บีบให้ลูกค้าซื้อด้วยเทคนิคต่างๆ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้แหละที่ทําให้ คนส่วนใหญ่ “เกลียดการขาย"
แต่ความจริงแล้ว คนไม่ได้เกลียด “การขาย” แต่เขาเกลียด “วิธีการ ขายที่ไม่สร้างสรรค์” ต่างหาก
ฉะนั้น การขายแบบหมอที่มุ่งเน้นการ “แก้ปัญหา” ให้ลูกค้า จะ สามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาหาเราเอง จําไว้ว่า “ลูกค้าไม่ได้สนใจสินค้า ของเรา เขาสนใจแต่ปัญหาของตัวเอง” มากกว่า
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
สื่อนอกเจาะลึกความสูญเสีย รายงานข่าวทหารกัมพูชาบาดเจ็บ 400 นายเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 13 นาย พื้นที่เขาพระวิหารรัฐบาลสั่งปิดข่าว
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69
"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลก
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
"เสือดาวจีนเหนือ" กลับคืนสู่ปักกิ่งหลังหายไป 3 ทศวรรษ นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่น่าตื่นเต้น
"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลก
ทำไมต้องเศร้าตอนพระอาทิตย์ตกดิน
วัฒนธรรมแท่งหินรูปกวาง (Deer Stones Culture) ในมองโกเลีย



