หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วัดโฮริวจิ (Hōryū-ji; 法隆寺) — ตำนาน “วัดแห่งธรรมอันรุ่งเรือง”

โพสท์โดย น้องมิ่ง รัตนาภรณ์

“เงาไม้บนหลังคาโบราณ — วัดโฮริวจิ”

 

เงาไม้ไหวช้าเหนือกระเบื้องที่แตกร้าว

เสียงนกกระเรียนขาว บินผ่านความเงียบของศตวรรษ

เจดีย์ห้าชั้นยืนนิ่ง ราวกับกำลังฟังลมหายใจของอดีต

 

ไม้เก่าที่รองรับหลังคา

เคยเป็นต้นสนในภูเขาอันไกลโพ้น

ครั้งหนึ่งมันอาจเคยสั่นสะท้าน

เมื่อเจ้าชายหนุ่ม ยกมือพนมสวดมนต์กลางสายหมอก

 

ฝุ่นละอองในแสงแดดยามเช้า

ลอยวนเหมือนวิญญาณแห่งผู้แสวงธรรม

ทุกอนุภาคพูดถ้อยคำเดียวกัน—

“อนิจจัง”

 

พระพุทธรูปสำริดแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน

ดวงตานั้นไม่ได้มองผู้มาเยือน

หากมองลึกเข้าไปในหัวใจของกาลเวลา

ซึ่งหลับใหลอยู่ใต้ไม้คานที่ผ่านฤดูฝนพันครั้ง

 

เมื่อยามลมพัดผ่านราวระฆัง

เสียงนั้นเหมือนคำตอบของจักรวาล

แผ่วเบา แต่ก้องอยู่ในใจผู้ที่หยุดนิ่ง

เพื่อฟังความว่างที่พูดด้วยเสียงของตนเอง

 

และในยามอาทิตย์คล้อยหลังภูเขา

เงาเจดีย์ทอดยาวเหมือนคำอธิษฐาน

ที่ยังคงเดินทาง — จากอดีต

มาสู่ดวงใจของผู้แสวงความสงบในวันนี้

(กวีโดย ประเสริฐ ยอดสง่า)

 

วัดโฮริวจิ เป็นวัดพุทธเก่าแก่ในจังหวัดนาระ ประเทศญี่ปุ่น เคยเป็นหนึ่งในเจ็ดวัดยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจมากที่สุดในสมัยโบราณ สร้างขึ้นในช่วงหลังจากพุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้าสู่ญี่ปุ่นไม่นาน วัดแห่งนี้จึงนับเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ

ชื่อเต็มของวัดคือ **“โฮริว-กาคุมอนจิ” (法隆学問寺)** แปลว่า “วัดแห่งการศึกษาแห่งธรรมอันรุ่งเรือง” ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของวัดในฐานะทั้ง **สำนักศึกษาพระธรรม (seminary)** และ **สำนักสงฆ์ (monastery)** ในยุคต้นของพุทธศาสนาในญี่ปุ่น

 

การก่อตั้งโดยเจ้าชายโชโตกุ

วัดโฮริวจิได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี **ค.ศ. 607** โดย **เจ้าชายโชโตกุ (Prince Shōtoku)** ผู้มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่และสนับสนุนพุทธศาสนาในญี่ปุ่นยุคแรก

จากบันทึกในพงศาวดาร **“นิฮงโชกิ” (Nihon Shoki)** ระบุว่าในปี **ค.ศ. 670** วัดถูกฟ้าผ่าจนเกิดเพลิงไหม้และอาคารทั้งหมดถูกทำลาย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีการบูรณะขึ้นใหม่

วัดที่สร้างขึ้นใหม่ราว **1,300 ปีก่อน** ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน โดยอาคารหลักคือ **“คงโดะ” (Kondō)** หรือ **หอหลักของวัด** ได้รับการยกย่องว่าเป็น **อาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก**

ผลการวิเคราะห์วงปีของไม้เมื่อปี **ค.ศ. 2001** พบว่า เสาหลักภายในเจดีย์ห้าชั้นของวัดถูกตัดตั้งแต่ปี **ค.ศ. 594** ก่อนวัดจะถูกไฟไหม้ในปี 670 เสียอีก

เหตุเพลิงไหม้ปี 1949 และ “วันป้องกันอัคคีภัยมรดกทางวัฒนธรรม”

วันที่ **26 มกราคม ค.ศ. 1949** เกิดเหตุเพลิงไหม้ระหว่างการรื้อและซ่อมแซมอาคาร “คงโดะ” เพลิงได้สร้างความเสียหายอย่างหนัก และยังทำลายจิตรกรรมฝาผนังสมัยอาสุกะ (Asuka period) ซึ่งถือเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวญี่ปุ่นอย่างมาก

หลังจากนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศให้ **วันที่ 26 มกราคมของทุกปีเป็น “วันป้องกันอัคคีภัยมรดกทางวัฒนธรรม”** เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ในปี **ค.ศ. 1993** วัดโฮริวจิและวัดโฮกิจิ (Hokki-ji) ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโกให้เป็น **มรดกโลกแห่งแรกของญี่ปุ่น** ภายใต้ชื่อ

**“Buddhist Monuments in the Hōryū-ji Area”** หรือ “อนุสรณ์สถานพุทธศาสนาในพื้นที่วัดโฮริวจิ”

 

ประวัติศาสตร์

ยุคก่อตั้งและชื่อเดิม “วากาคุซะเดระ” วัดแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นตามพระบัญชาของเจ้าชายโชโตกุ และในระยะแรกเรียกว่า **“วากาคุซะเดระ” (Wakakusadera)** ซึ่งบางครั้งก็ยังถูกใช้เรียกอยู่ในปัจจุบัน เชื่อกันว่าวัดแรกนี้สร้างเสร็จในปี **ค.ศ. 607** และอุทิศแด่ **พระยาคุชิ นโยไร (Yakushi Nyorai)** หรือ “พระพุทธเจ้าแห่งการเยียวยา” เพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชบิดาของเจ้าชายโชโตกุ

จากการขุดค้นทางโบราณคดีเมื่อปี **ค.ศ. 1939** พบว่าพระราชวังของเจ้าชายโชโตกุชื่อ **“อิคารุกะโนะมิยะ” (Ikaruga-no-miya)** ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของวัดในปัจจุบัน บริเวณที่ปัจจุบันเป็นส่วนของ **“โทอิน” (Tō-in)**

นอกจากนี้ ยังพบซากของวัดเก่าอีกแห่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเชื่อว่าเป็นวัดเดิมที่ภายหลังถูกไฟไหม้ในปี 670 ซึ่งนักประวัติศาสตร์เรียกว่า **“วากาคุสะ-การัน” (Wakakusa-garan)**

หลังจากไฟไหม้ ได้มีการสร้างวัดขึ้นใหม่ โดยปรับทิศทางเล็กน้อย และคาดว่าก่อสร้างเสร็จราวปี **ค.ศ. 711** ต่อมา วัดได้รับการซ่อมแซมครั้งใหญ่ในศตวรรษที่ 12, ปี 1374 และอีกครั้งในปี 1603

การสักการะเจ้าชายโชโตกุในสมัยคามาคุระ

ในสมัย **คามาคุระ (Kamakura period)** ลัทธิบูชาเจ้าชายโชโตกุ ได้แพร่หลายอย่างมาก ทำให้วัดโฮริวจิ กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการเคารพบูชา มีการจัดพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อถวายแด่เจ้าชาย เช่น พิธี **“โชเรียวเอะ” (Shōryō-e)** ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 และยังคงจัดอยู่จนถึงปัจจุบัน

ในช่วงนี้ วัดยังมีการสร้างอาคารใหม่หลายหลัง ในพื้นที่ตะวันออกและตะวันตก เพื่อถวายเป็นพุทธสถานสำหรับเคารพเจ้าชายโชโตกุในฐานะ **“อวตารแห่งพระโพธิสัตว์กวนอิม (คันนง)”**

ความรุ่งเรืองในสมัยเอโดะ

ภายหลังจนถึงปลายยุคโชกุนโตกุงาวะ (ราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19) วัดโฮริวจิได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลโชกุนอย่างต่อเนื่อง และมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ **นิกายฮอสโซ (Hossō sect)** ของพุทธศาสนา ซึ่งมีอิทธิพลมากในยุคนั้น

ความเปลี่ยนแปลงในสมัยเมจิ

เมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ (ค.ศ. 1868 เป็นต้นมา) ญี่ปุ่นได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ รัฐบาลประกาศให้ **ศาสนาชินโตเป็นศาสนาประจำชาติ** ส่งผลให้วัดพุทธหลายแห่งถูกยึดที่ดิน ถูกควบคุมจากรัฐ และเงินสนับสนุนจากรัฐบาลลดลงอย่างมาก รวมถึงวัดโฮริวจิด้วย

ในช่วงแรกของการจัดระเบียบศาสนา รัฐบาลไม่รับรอง **นิกายฮอสโซ** ให้เป็นนิกายพุทธอย่างเป็นทางการ

วัดโฮริวจิจึงต้องเปลี่ยนไปสังกัด **นิกายชิงงอน (Shingon Buddhism)** ชั่วคราว จนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 19 รัฐบาลอนุญาตให้วัดเลือกนิกายได้เอง วัดจึงกลับมาอยู่ภายใต้นิกายฮอสโซอีกครั้ง

เนื่องจากภาวะขาดแคลนทรัพยากร พระสงฆ์ของวัด จึงตัดสินใจบริจาคโบราณวัตถุจำนวนมาก ให้แก่พิพิธภัณฑ์ เพื่อแลกกับเงินชดเชยที่ช่วยให้วัดสามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้

โครงการบูรณะวัดเริ่มต้นในปี **ค.ศ. 1895** และดำเนินต่อเนื่องจนถึงปี **ค.ศ. 1934** ซึ่งเป็นการบูรณะครั้งใหญ่ที่สุดของวัด

 

วัดโฮริวจิในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โครงการบูรณะต้องหยุดชะงัก หลายส่วนของวัดถูกรื้อออกและซ่อนในภูเขารอบเมืองนาระเพื่อป้องกันความเสียหายจากการทิ้งระเบิด

อย่างไรก็ตาม นโยบายของสหรัฐอเมริกา ในขณะนั้นให้ความสำคัญกับการ **คุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมของนาระและเกียวโต** วัดโฮริวจิจึงรอดพ้นจากการถูกโจมตี หลังสงคราม โครงการบูรณะกลับมาอีกครั้ง และแล้วเสร็จในปี **ค.ศ. 1985**

ในช่วงนี้ มีการซ่อมแซมอาคารที่เสียหายจากกาลเวลา และใช้ภาพจิตรกรรมเก่าแก่เป็นแนวทางในการฟื้นฟูโครงสร้างให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด รวมถึงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เพิ่มเข้ามาในภายหลังออก

สถานะในปัจจุบัน

ปัจจุบันวัดโฮริวจิเป็น **ศูนย์กลางของนิกายโชโตกุ (Shōtoku sect)** และเป็นทั้ง **สถานที่แสวงบุญ** และ **แหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก**

ภายในวัดมี **สมบัติแห่งชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นกว่า 180 รายการ** นอกจากนี้ วัดโฮริวจิยังถือเป็น **สถานที่แรกในญี่ปุ่น ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก**

วัดยังคงจัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรม เป็นประจำตลอดปี โดยเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าเยี่ยมชมอาคารสำคัญหลายแห่งได้

สถาปัตยกรรม

วัดโฮริวจิ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เก่าแก่ที่สุด ของสถาปัตยกรรมไม้ในโลก และเป็นแหล่งหลักฐานสำคัญที่สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่น

เขตวัดแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ได้แก่

  1. **เขตตะวันตก (Saiin Garan)** ซึ่งประกอบด้วยเจดีย์ห้าชั้น (Goju-no-tō) และพระวิหารใหญ่ (Kondō)
  2. **เขตตะวันออก (Tōin Garan)** ที่มีหอคัมภีร์ฝั่งตะวันออก และวิหารยูเมะโด (Yumedono) อันงดงาม

องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของวัด แสดงให้เห็นถึงการผสมผสาน ระหว่างศิลปะแบบจีนราชวงศ์สุยและถัง เข้ากับลักษณะเฉพาะของญี่ปุ่นยุคแรก การวางผังแบบสมมาตรและการใช้เสารับน้ำหนักไม้ขนาดใหญ่สะท้อนถึงความคิดด้าน “จักรวาลวิทยา” ของพระพุทธศาสนา ขณะที่การประดับลวดลายไม้แกะสลัก และการใช้โครงสร้างหลังคาซ้อนหลายชั้น แสดงถึงความประณีตในงานช่างของชาวยามาโตะ ในศตวรรษที่ 7

เจดีย์ห้าชั้นของวัดโฮริวจิ เป็นผลงานชิ้นเอก ที่เปรียบได้กับสัญลักษณ์แห่งความมั่นคงและความศรัทธา ส่วนยอดเจดีย์ (sōrin) สื่อถึงแก่นแท้ของจักรวาลตามแนวคิดพุทธ ในขณะที่ส่วนฐานเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ภายในยังมีภาพสลักและประติมากรรมแสดงเหตุการณ์ในพุทธประวัติซึ่งมีคุณค่าทางศิลปะอย่างยิ่ง

พระวิหารใหญ่ (Kondō) เป็นอาคารไม้สองชั้น ที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ตัวอาคารประดิษฐานพระประธาน “โชกะงุซอน” (Shaka Triad) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริดที่สร้างโดยพระช่าง “โทริ บุชิ” (Tori Busshi) ในสมัยนาระตอนต้น พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีนและคันธาระ โดยมีลักษณะพระพักตร์รูปไข่เรียวยาว พระเกตุมาลาเด่นชัด และรัศมีเปลวไฟอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบอะซึกะ

ศิลปกรรมและสมบัติล้ำค่า

วัดโฮริวจิ เป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัตถุและสมบัติล้ำค่ากว่า 2,300 รายการ ซึ่งรวมถึงพระพุทธรูป เครื่องเขิน เครื่องโลหะ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง และคัมภีร์พุทธเก่าแก่ สมบัติเหล่านี้ไม่เพียงมีคุณค่าทางศิลปะเท่านั้น หากยังเป็นหลักฐานสะท้อนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างญี่ปุ่นกับจีนและเกาหลีในช่วงศตวรรษที่ 6–8

 

ภาพจิตรกรรมภายในพระวิหารใหญ่ ซึ่งเขียนด้วยเทคนิค “ไล่เงา” แบบจีนโบราณ เป็นตัวอย่างอันทรงคุณค่าของจิตรกรรมพุทธยุคต้นในญี่ปุ่น ถึงแม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้เสียหายเมื่อปี ค.ศ. 1949 แต่ได้มีการบันทึกและจำลองไว้อย่างละเอียดเพื่อการอนุรักษ์และศึกษา นอกจากนี้ วัดยังเป็นที่เก็บรักษาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ เช่น

* **พระพุทธรูปยูเมะโดะ (Yumedono Kannon)** ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นรูปจำลองของเจ้าชายโชโตคุในร่างโพธิสัตว์

* **เครื่องประดับสำริดและทองคำ** ที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา

* **บันทึกโบราณ (Kōryūji Temple Documents)** ซึ่งเป็นเอกสารประวัติศาสตร์ที่บันทึกชีวิตและการปกครองในสมัยอาซึกะ

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

วัดโฮริวจิ ไม่เพียงเป็นศูนย์กลางแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นพระพุทธศาสนาในญี่ปุ่น และเป็นจุดกำเนิดของอัตลักษณ์ทางจิตวิญญาณของชาติญี่ปุ่นในยุคต่อมา

เจ้าชายโชโตคุซึ่งมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งวัดนี้ เป็นบุคคลที่วางรากฐานแนวคิด “รัฐพุทธ” และส่งเสริมการเรียนรู้ธรรมะเพื่อสร้างสังคมที่สงบสุข

ในปี พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1993) วัดโฮริวจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น **มรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก** ในชื่อว่า

“Buddhist Monuments in the Hōryū-ji Area”

โดยได้รับการยกย่องว่ามี “คุณค่าโดดเด่นเป็นสากล” (Outstanding Universal Value) ในด้าน

* การเป็นหลักฐานของการถ่ายทอดอารยธรรมจากจีนและเกาหลีสู่ญี่ปุ่น

* การอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

* การสะท้อนจิตวิญญาณและปรัชญาพุทธอันเป็นรากฐานของวัฒนธรรมญี่ปุ่น

ปัจจุบัน วัดโฮริวจิยังคงทำหน้าที่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ พิธีกรรม และการศึกษาธรรมะ ขณะเดียวกัน ก็เป็นแหล่งมรดก ที่นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ทั่วโลก ให้ความสนใจอย่างลึกซึ้ง

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่:
https://shorturl.asia/gmQqU
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่นนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่นนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิดนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ SequoiaUnseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
ตั้งกระทู้ใหม่