"ตำนานตุ๊กตาไล่ฝน" (teru-teru-bōzu) ตุ๊กตาตัวเล็กๆ น่ารักอันนี้มันมีที่มายังไงกันนะ ?
ในวันที่ท้องฟ้าครึ้มหม่นและสายฝนโปรยปรายไม่หยุด เด็ก ๆ ชาวญี่ปุ่นมักจะหยิบผ้าขาวขึ้นมาผูกเป็นตุ๊กตาเล็ก ๆ แล้วแขวนไว้ริมหน้าต่างพร้อมเสียงอธิษฐานเบา ๆ ว่า “พรุ่งนี้ขอให้แดดออกเถอะนะ”
ตุ๊กตาน้อยนั้นมีชื่อว่า เทะรุเทะรุโบซุ (てるてる坊主) — เครื่องรางเรียกแสงแดดที่มีเสน่ห์และความเชื่อสืบทอดยาวนานมาหลายร้อยปีในประเทศญี่ปุ่น
ตำนานของตุ๊กตาไล่ฝนเริ่มต้นใน สมัยเอโดะ โดยได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน ซึ่งมีตุ๊กตาขออากาศแจ่มใสชื่อว่า “เซ่าฉิงเหนียง” (掃晴娘) หรือ “หญิงสาวผู้ขจัดเมฆฝน”
ในสมัยโบราณของจีน เมื่อฝนตกไม่หยุด ชาวบ้านจะประดิษฐ์ตุ๊กตากระดาษสีขาวเป็นศีรษะ ตกแต่งด้วยเสื้อผ้าสีแดงและเขียว แล้วแขวนไว้ใต้หลังคาเพื่อขอให้ฟ้ากลับมาแจ่มใสอีกครั้ง ความเชื่อนี้ได้เดินทางข้ามทะเลมาสู่ญี่ปุ่นและถูกปรับเปลี่ยนตามวัฒนธรรมท้องถิ่น จนกลายเป็นตุ๊กตานักบวชขาวสะอาดอย่างที่เรารู้จักในปัจจุบัน
คำว่า “เทะรุ (てる)” หมายถึง “แสงแดด” หรือ “ความสว่าง” ส่วนคำว่า “โบซุ (坊主)” แปลว่า “พระ” หรือ “นักบวช” เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า “พระนักบวชเรียกแดด” หรือ “ตุ๊กตาผู้ทำให้ฟ้าสว่าง” ซึ่งสื่อถึงการขอพรให้วันต่อมามีท้องฟ้าแจ่มใส
ตุ๊กตาเทะรุเทะรุโบซุมีรูปลักษณ์เรียบง่าย — ผ้าขาวผืนเล็กห่อเป็นหัวกลม ผูกเชือกเป็นลำตัว บางคนเขียนรอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าเพื่อเพิ่มความสดใส และหากต้องการ “ขอฝน” แทนที่จะไล่ฝน ก็เพียงกลับหัวตุ๊กตาให้ห้อยกลับด้านลง ชาวนาญี่ปุ่นโบราณเชื่อว่านั่นคือการบอกฟ้าว่า “ขอฝนมาหล่อเลี้ยงผืนนา”
มีอีกตำนานหนึ่งเล่าว่า พระในนิกายเซนเป็นผู้แนะนำให้ชาวบ้านสร้างตุ๊กตานี้ขึ้น เพื่อขอพรจากธรรมชาติให้ท้องฟ้าโปร่งใสในวันรุ่งขึ้น พระองค์นั้นจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ตุ๊กตามีศีรษะกลมเกลี้ยง คล้ายพระภิกษุผู้ขจัดเมฆฝนให้สลายหายไป
แม้เวลาจะผ่านไปหลายศตวรรษ แต่ เทะรุเทะรุโบซุ ยังคงมีบทบาทในวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็กเล็ก ซึ่งมักจะช่วยกันทำตุ๊กตาผ้าขาวนี้ในช่วงฤดูฝน แขวนไว้ที่ระเบียง แล้วร้องเพลง “เทะรุเทะรุโบซุ” ด้วยความหวังว่า วันพรุ่งนี้จะมีแดดออกและท้องฟ้าสดใสให้ได้ออกไปเล่นนอกบ้าน
ตุ๊กตาเล็ก ๆ ตัวนี้จึงไม่ใช่แค่เครื่องรางเรียกแดด แต่ยังเป็น “สัญลักษณ์แห่งความหวัง” ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เตือนให้ผู้คนเชื่อในพลังแห่งความศรัทธาและรอยยิ้มในวันที่ฟ้าหม่น — เพราะหลังเมฆฝน ยังมีแสงอาทิตย์ซ่อนอยู่เสมอ ☀️🌈
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
กฎหมายใหม่"การส่งข้อความลๅมกอนๅจๅร" อาจติดคุก เริ่มใช้ ต้นปี 69
📸 ย้อนวันวาน Christmas & Happy New Year 1993 พนักงานโรบินสันแต่งตัวเป็น “แซนดี้” เติมสีสันเทศกาลปลาย
"เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" แฉผัวตัวดีแอบกินกิ๊กเด็กในร้าน
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
พุทธศิลป์แนวใหม่หรือวัตถุนิยม? กระแสวิจารณ์ "หัวใจพระพุทธเจ้า" ทรงอนาโตมี
ทำไมต้องเศร้าตอนพระอาทิตย์ตกดิน
วัฒนธรรมแท่งหินรูปกวาง (Deer Stones Culture) ในมองโกเลีย
สื่อนอกเจาะลึกความสูญเสีย รายงานข่าวทหารกัมพูชาบาดเจ็บ 400 นายเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 13 นาย พื้นที่เขาพระวิหารรัฐบาลสั่งปิดข่าว
สมาคมศิษย์เก่าเกาหลีแห่งกัมพูชา เรียกร้องรัฐบาลเกาหลีใต้ สืบสวนคำกล่าวอ้างว่ากองทัพอากาศไทยใช้เครื่องบินขับไล่T-50TH ที่ผลิตโดยเกาหลีใต้
"เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" แฉผัวตัวดีแอบกินกิ๊กเด็กในร้าน
ทึ่งทั่วโลก : "สนามบินยิบรอลตาร์" หนึ่งในสนามบินที่อันตรายและน่าตื่นเต้นที่สุดในโลก ประสบการณ์การบินที่ไม่เหมือนใคร คนขับมาลงได้นี่ต้องเก่งมากๆเลยนะเนี่ย
เปิดตำนานคุณลุงซานต้า: จากนักบุญใจบุญยุคโบราณ สู่ชายชุดแดงพุงพลุ้ยที่โคคา-โคล่าช่วยปั้น! 🎅🦌
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัว
ทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจีย
ทึ่งทั่วโลก : "โบโรบูดูร์" ศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
