ปริศนา "หลุมยักษ์" กัวเตมาลา อื้อหือ รูอย่างใหญ่...ตกลงไปนี่ไม่เหลือซากแน่นอนเลยเด้อครับเด้อ
หลุมยุบยักษ์ที่เกิดขึ้นกลางเมืองกัวเตมาลาซิตีเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 คือภาพจำที่ทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง รอยแยกมหึมาที่มีลักษณะเป็นวงกลมเกือบสมบูรณ์แบบ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวยี่สิบเมตร และลึกลงไปในพื้นดินกว่าสามสิบเมตร กลืนกินโรงงานสิ่งทอสูงสามชั้นพร้อมทั้งสี่แยกถนนที่คับคั่งราวกับมันไม่เคยมีอยู่มาก่อน ความฉับพลันของเหตุการณ์ทำให้ผู้คนต่างตั้งคำถามว่า ธรรมชาติสามารถสร้างปรากฏการณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร
แม้หลายสำนักข่าวและผู้คนจะเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “หลุมยุบ” แต่แท้จริงแล้ว มันไม่ใช่หลุมยุบในความหมายทางธรณีวิทยาแบบคลาสสิก หลุมยุบตามนิยามปกติจะเกิดจากการที่น้ำใต้ดินกัดเซาะหินปูนจนกลายเป็นโพรง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในกัวเตมาลาซิตีกลับมีต้นตอมาจากการทรุดตัวของโพรงใต้ดิน ซึ่งเป็นผลพวงจากหลายปัจจัยที่สะสมมาอย่างยาวนาน เมืองทั้งเมืองถูกสร้างขึ้นบนชั้นหินภูเขาไฟที่มีเนื้อร่วนและเบา น้ำที่รั่วซึมจากระบบท่อระบายน้ำใต้ดินกัดเซาะพื้นดินทีละน้อยจนกลายเป็นโพรงขนาดใหญ่ ซ่อนตัวอยู่ใต้ถนนและตึกรามอย่างเงียบงัน
โชคร้ายที่ช่วงเวลาแห่งความเปราะบางนั้นตรงกับการมาถึงของพายุโซนร้อนอากาธา ฝนที่เทกระหน่ำอย่างต่อเนื่องทำให้ระบบระบายน้ำไม่สามารถรองรับได้ น้ำปริมาณมหาศาลไหลทะลักเข้าสู่โพรงใต้ดิน เพิ่มแรงกดดันมหาศาลจนเพดานดินที่เหลืออยู่ไม่อาจรับน้ำหนักได้อีกต่อไป และในชั่วขณะนั้นเอง พื้นดินที่ผู้คนคุ้นเคยก็ยุบหายไปต่อหน้าต่อตา ทิ้งไว้เพียงบาดแผลมหึมาที่กลายเป็นภาพสะเทือนใจไปทั่วโลก
แม้เหตุการณ์ในปี 2010 จะไม่มีผู้เสียชีวิตโดยตรง แต่ก็สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจและความหวาดผวาอย่างใหญ่หลวง เพราะเพียงไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น ในปี 2007 เมืองเดียวกันนี้ก็เคยเผชิญกับเหตุการณ์คล้ายคลึงกันมาแล้ว และครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตถึงสามราย ความจริงที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนดินของกัวเตมาลาซิตีจึงไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป
หลุมยุบกัวเตมาลาไม่เพียงเป็นหลักฐานของพลังธรรมชาติและความเปราะบางของมนุษย์ หากยังเป็นสัญญาณเตือนถึงความสำคัญในการดูแลโครงสร้างพื้นฐานของเมืองใหญ่ การละเลยเพียงเล็กน้อยอาจสะสมจนกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ที่พรากความปลอดภัยของผู้คนไปในพริบตา เหตุการณ์นั้นจึงยังคงเป็นบทเรียนสำคัญที่ย้ำเตือนว่า ใต้เท้าที่เราก้าวเดินอยู่อาจมีบางสิ่งซ่อนอยู่ และไม่มีใครรู้แน่ว่าวันใดมันจะเผยโฉมขึ้นมาอีกครั้ง.
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
เตือนมนุษย์เงินเดือน! 5 อาชีพเสี่ยงถูก AI แย่งงานใน 5 ปี หากไม่ปรับตัวอาจสูญพันธุ์ได้
ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต "จ้านฮ่าวหลี่" คดีฉ้อโกงพันล้านหยวน
พ่อแม่เปิดกล้องหัวใจแทบสลาย แม่บ้านแอบใส่ "เดทตอล" ในขวดนมให้ลูกน้อยกิน
เขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทย
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
5 คุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าทึ่งของปลาทะเล
ลือหึ่ง "ลิซ่า" BLACKPINK แอบจดทะเบียนสมรสกับแฟนหนุ่มแล้ว
สวยสะกดโลก! สรุปผล 100 ผู้หญิงใบหน้าสวยที่สุดปี 2025
รายละเอียดเงื่อนไข 5 ประการ ที่กัมพูชาและไทยเห็นพ้องร่วมกัน ในการประชุมที่ประเทศจีน
OpenAI กำลังเปิดรับสมัครงาน ด้วยเงินเดือนประจำ ปีละ 17.5 ล้านเหรียญ
มาตรการ ‘มหาเถรสมาคม’ - ‘คพช.’ กู้คืนศรัทธาวงการสงฆ์: บทเรียนจากปีแห่งการล้างบาง
นรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึก
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้
เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร
ทึ่งทั่วโลก : กระท่อมที่ถูกทำด้วย "กระดูกแมมมอธ" จำนวน 149 ชิ้น ที่มีอายุ 15,000 ปี
กรีกโยเกิร์ต มหัศจรรย์สิ่งดีๆจากธรรมชาติ
ทึ่งทั่วโลก : "เดโกโทระ" รถสิบล้อแต่งศิลป์ งานศิลปะสไตล์ญี่ปุ่น อลังการงานสร้างเหมือนกันนะเนี่ย
พืชพรรณไม้น่าสนใจ : จินโจโรยักษ์ "ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต" หนึ่งในพืชที่ดูแปลกตาและน่าทึ่งที่สุดในโลก