หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ขายอสังหาฯ ให้ต่างชาติ ต้องมีมาตรการที่รอบคอบ

โพสท์โดย doctorsopon

 

 

           เราจะขายอสังหาริมทรัพย์ให้ต่างชาติอย่างไรได้บ้าง นักพัฒนาที่ดินอยากทราบและอยากขายมากๆ จะได้ช่วยให้มีคนซื้อมากขึ้น บ้างก็จะได้ “ยกภูเขาออกจากอก” ขายได้เสียที

            เมื่อวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568 ผมได้จัดงานสัมมนา “การเตรียมความพร้อม ก่อนให้ต่างชาติซื้อ–เช่าอสังหาริมทรัพย์ในไทย” ในนามของสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล หมดเงินไปราว 2 แสน ไม่ต้องไปขอสปอนเซอร์ใคร สมาคมเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นของชาติ ก็รีบจัด โดยเชิญ ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วม 10 ท่าน ผู้แทนส่วนราชการอีกหลายสิบ รวมทั้งท่านที่เห็นความสำคัญและคุณค่าของข้อมูลความรู้ได้ลงทะเบียนมาร่วมอีกจำนวนหนึ่ง จึงมีผู้เข้าร่วมถึง 120 ท่าน

            งานนี้ได้รับความร่วมมือจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตอนแรกจะมาแต่เพิ่งแจ้งเมื่อตอนค่ำก่อนวันจัดงานว่ามีธุระด่วนจริงๆ จึงมอบหมายให้นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ส.ส. 9 สมัยมาเปิดงานและรับฟังความคิดเห็นแทน

            หลายคนเข้าใจผิดว่าชาติอื่นเขาก็ให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือเช่า 99 ปีได้ ทำไมประเทศไทยจึงไม่ยอม เรื่องนี้ต้องมา “เคลียร์” ให้ชัดๆ

            1. จีนให้เช่าได้ 70 ปี คือซื้อห้องชุดอยู่ได้ 70 ปี ไม่ให้ขายขาด แม้แต่คนจีนเองก็ซื้อขายขาดไม่ได้ ยิ่งสำหรับชาวต่างชาติ ก็ยิ่งให้ซื้อเฉพาะบ้านหลังแรกไว้อยู่อาศัย จะซื้อไปหลายหลาย หรือซื้อเก็งกำไรไม่ได้เด็ดขาด แถมคนที่จะซื้อได้ ต้องอยู่อาศัยในจีนครบ 1 ปีก่อน ยิ่งถ้าเป็นในมหานครใหญ่ อาจต้องอยู่มาเกินกว่านั้นและมีใบเสียภาษีท้องถิ่นอีกด้วย จีนไม่ปล่อยให้ใครไปซื้อบ้านส่งเดช

            2. เวียดนามก็คล้ายจีน เคยให้ต่างชาติเช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม 70 ปี แต่เดี๋ยวนี้เหลือ 50 ปีเท่านั้น แต่มีคนไทยบางคนอยากจะให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปีให้ได้  ที่เวียดนามเคยจะให้เช่า 99 ปีเหมือนกัน แต่ถูกประชาชนเดินขบวนต่อต้านทั่วประเทศ จนรัฐบาลเวียดนามถอย (สงสัยผมต้องยอมเปลืองตัว “ลงถนน” บ้างแล้ว) และอันที่จริงในขณะนี้ไทยก็อนุญาตให้ต่างชาติซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอยู่ได้ตลอดชีวิตตลอดชั่วกัลปาวสาน แต่ต่างชาติกลับทิ้งไทยไปเวียดนาม อินโดนีเซียและอื่นๆ ทั้งที่เขาให้เงื่อนไขครองครองอสังหาริมทรัพย์ที่ด้อยกว่า (อ้างว่าค่าแรงถูกกว่าไทย)

            3. ดูไบ ประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีประชากร 10 ล้านคน แต่กลับเป็นคนต่างชาติ 8 ล้านคน เป็นคนท้องถิ่นเพียง 2 ล้านคนนั้น แท้จริงแล้ว เขาไม่ได้ขายให้คนเหล่านั้นเป็นหลัก เขาให้คนต่างชาติมาเป็นคนงาน มีนิคมให้อยู่แบบรั้วรอบขอบชิด ต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวเข้าไปดูไม่ได้ ดูไบได้ชื่อว่าเป็นนครแห่งความสุข แต่ในนิคมคนงานเหล่านั้นแม้ไม่ใช่ “นรก” ก็ใกล้เคียง การอยู่อาศัยไม่ค่อยถูกสุขลักษณะ ส่วนคนที่ไปซื้อห้องชุดอยู่จริงๆ ก็มีไม่น้อย แต่ไม่ได้มีจำนวนนับแสน และส่วนมากซื้อไว้เก็งกำไร ไม่ค่อยได้ไปอยู่อาศัย แถมที่นั่นมีมาตรการตรวจสอบเข้มกว่าไทย โอกาสของพวกเทาๆ คงมีจำกัดมาก

            4. สิงคโปร์ก็ให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี แต่ในความเป็นจริง รัฐบาลเขาให้เช่าเป็นแปลงๆ ขนาดย่อมๆ และต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐบาล แต่ที่ประเทศไทยถ้าเราเปิดโอกาสให้ต่างชาติเช่าที่ดินตรงไหน ขนาดเท่าไหร่ก็ได้  อย่างนั้นเขาจะมาตั้งอาณานิคมไหม จะเป็นภัยต่อชาติและอนุชนรุ่นหลังหรือไม่

            5. ฟิลิปปินส์ ก็จะเริ่มให้เช่าที่ดินได้ 99 ปี แต่มีข้อจำกัดมากมาย ก็คงออกมาคล้ายที่ไทยที่ให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้ 1 ไร่ แต่ต้องนำเงินเข้ามาลงทุน 40 ล้านบาท และต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงทำให้แทบไม่มีใครเข้ามาซื้อเลย พวก “เทาๆ” คงกลัวที่จะให้ตรวจสอบกระมัง

            ผมเองก็ไม่ต่อต้านการที่ต่างชาติจะมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย เพราะที่ผ่านมาไทยก็อนุญาตในหลายกรณีอยู่แล้ว แต่เราต้องคิดให้รอบคอบ

            1. ช่วงที่นักลงทุนญี่ปุ่นมาลงทุนขนานใหญ่ในไทยก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรให้ถือครองที่ดินก็ทำให้ไทยเจริญขึ้นเป็นอย่างมาก

            2. หลายประเทศเจริญขึ้นมาก โดยไม่ได้อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาเป็น “แร้งลง” ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย จีน เวียดนาม มีนักลงทุนไปลงทุนที่ประเทศเหล่านี้มากมายโดยไม่จขำเป็นต้อง “ล่อ” ด้วยอสังหาริมทรัพย์

            3. ระยะเวลาในการครอบครองแค่ 30 ปี เซ็นทรัลลาดพร้าว โรงแรมไฮแอทเอราวัณ ทางด่วน รถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ได้สัมปทานไปแค่นั้น ก็กำไรมหาศาลแล้ว แทบไม่ต้องให้เช่าถึง 50, 70 หรือ 99 ปีเลย

 

            มาตรการสำคัญที่ต้องมีก่อนให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ก็คือมาตรการด้านภาษีได้แก่

            1. ต้องให้ต่างชาติต้องเสียภาษีซื้อ เช่น ประมาณ 20% ของมูลค่า (สิงคโปร์เก็บ 60% ยุโรปเก็บ 10-20%)

            2. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ควรเก็บ 0.5%-1.0% ตามราคาตลาดที่แท้จริง เพราะเมื่อคนไทยไปซื้อบ้านในต่างแดนก็ต้องเสียภาษีนี้ทุกปี

            3. ภาษีกำไรจากการขายต่อ ก็ควรเก็บประมาณ 20% ของส่วนที่เป็นกำไร เช่น ซื้อมา 6 ล้านบาท ขายต่อได้ 10 ล้านบาท ส่วนที่เป็นกำไร 4 ล้านก็พึงเสียภาษี 20% เป็นเงิน 800,000 บาท เป็นต้น

            4. ภาษีมรดก ก็ควรเก็บตามราคาตลาดที่แท้ เช่น นานาอารยประเทศ

            ในแง่หนึ่งภาษีข้างต้นนี้ คนไทยแทบไม่ได้เสียเลย ซึ่งอันที่จริงควรจะเสียเพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ แต่ถึงแม้คนไทยไม่เสีย แต่คนไทยที่ไปซื้อบ้านในต่างประเทศต่างก็ต้องเสียภาษีเหล่านี้ทั้งนั้น ดังนั้นชาวต่างชาติที่มาซื้อบ้านในไทย ก็ควรเสียภาษีเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

            ยิ่งกว่านั้นเราควรกำหนดราคาขั้นต่ำ เช่น มาเลเซียกำหนดไว้ที่ 15 ล้านบาท อินโดนีเซียกำหนดไว้ที่ 10 ล้านบาท ที่ต้องกำหนดราคาขั้นต่ำเพื่อไม่ให้ต่างชาติแย่งซื้อบ้านจากประชาชนทั่วไป ทำให้ประชาชนต้องซื้อบ้านในราคาแพง แต่ที่ปักกิ่ง ไม่ได้กำหนด เพราะห้องชุดหนึ่งๆ ก็มีราคาราว 20 ล้านบาท สิงคโปร์ก็ราว 30 ล้านบาท สหรัฐอเมริกาก็ราว 15 ล้านบาท เป็นต้น

            ผมมั่นใจว่าคนต่างชาติยินดีเสียภาษีให้ถูกต้อง เพื่อให้การครอบครองถูกต้อง ไม่ต้องกลัวการรีดไถ มีความมั่นคงในการอยู่อาศัย เพราะการเสียภาษีเป็นเครื่องหมายของการแสดงความรักและเคารพแผ่นดินที่เราอยู่ทำมาหากิน ไม่ใช่รักชาติแต่ปาก

            ส่วนพวกนักพัฒนาที่ดิน นักขายที่หวังแต่จะหาเงินเข้ากระเป๋าด้วยการขายบ้านให้คนต่างชาติโดยไม่คำนึงถึงผลเสียต่อชาติ พึงตระหนักถึงความจำเป็นในการเสียภาษีนี้ด้วย ไม่ใช่มุ่งเอาตัวรอดท่าเดียว

 

หมายเหตุ: บทความเคยตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568 หน้า7

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.area.co.th/t/9346
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
doctorsopon's profile


โพสท์โดย: doctorsopon
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจายเขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัลAI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีเซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยเปิดใจ "เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" นาทีช็อกเห็นภาพบาดตาผ่านกล้องวงจรปิด บทเรียนของความไว้ใจ10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนความงามที่ไม่เสื่อมคลายของ คิมซารัง แม้จะอายุเกือบ 50 ปีแล้วก็ตาม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมากศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริตบราวนี่ ไม่ใช้เตาอบ ส่วนผสมน้อย อร่อยสร้างภาพความงามที่ไม่เสื่อมคลายของ คิมซารัง แม้จะอายุเกือบ 50 ปีแล้วก็ตาม'ซ่าหริ่ม' ขนมไทยโบราณที่ยังนิยมอยู่ในยุคปัจจุบัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บ้าน คอนโด ที่ดิน
เรือของคุณมีมูลค่าเท่าไหร่อสังหาฯ เดือนพฤศจิกา 68 เปิดกระฉูด 43 โครงการ คาดกระเตื้องแล้วอินเดียสนใจซื้อบ้านในไทยไหมการประเมินมูลค่ากิจการเพื่อการสืบทอด
ตั้งกระทู้ใหม่