ครั้งแรกของโลก! เซาท์ออสเตรเลียประกาศห้ามจำหน่ายขวดซอสถั่วเหลืองรูปปลา

รัฐบาลรัฐเซาท์ออสเตรเลียประกาศห้ามจำหน่ายและจัดจำหน่ายขวดซอสถั่วเหลืองรูปปลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายระยะเวลาห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทางการระบุว่ากฎระเบียบใหม่นี้จะช่วยลดขยะพลาสติกที่รีไซเคิลยาก ปกป้องสิ่งแวดล้อม และลดมลพิษทางทะเล

บีบีซีรายงานว่า ซูซาน โคลส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐเซาท์ออสเตรเลีย กล่าวว่า “ภาชนะรูปปลาแต่ละใบจะถูกใช้เพียงไม่กี่วินาที แต่หากถูกทิ้ง อาจตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายสิบปีหรือหลายร้อยปี” เธอชี้ให้เห็นว่ามาตรการนี้เป็นมาตรการล่าสุดในรัฐเซาท์ออสเตรเลียเพื่อค่อยๆ กำจัดผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง

ภายใต้กฎระเบียบใหม่ จะมีการห้ามใช้ภาชนะบรรจุซอสถั่วเหลืองขนาดเล็ก 30 มล. พร้อมฝาปิด จุก หรือซีล แม้ว่าภาชนะเหล่านี้จะทำจากพลาสติกรีไซเคิล (โพลีเอทิลีน) แต่ขนาดเล็กของภาชนะเหล่านี้มักทำให้ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบบรีไซเคิล และสุดท้ายก็ลงเอยที่หลุมฝังกลบหรือมหาสมุทร

รายงานระบุว่าการห้ามนี้สืบเนื่องมาจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งบังคับใช้ในรัฐเซาท์ออสเตรเลียในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งรัฐบาลรัฐได้สั่งห้ามใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ถุงพลาสติกสำหรับใส่ของในซูเปอร์มาร์เก็ต หลอดดูดน้ำ ไม้คน สำลีพันก้าน และกระดาษตกแต่งงานปาร์ตี้

เป็นที่เข้าใจกันว่าขวดซอสถั่วเหลืองรูปปลานี้คิดค้นขึ้นโดยนักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่น เทรุโอะ วาตานาเบะ ในปี พ.ศ. 2497 เดิมทีทำจากเซรามิกหรือแก้ว และต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้พลาสติก ถือเป็นดีไซน์ที่โดดเด่นในวัฒนธรรมซูชิแบบซื้อกลับบ้านทั่วโลก ปัจจุบันถูกห้ามในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นกรณีแรกของโลก

รัฐบาลออสเตรเลียใต้เน้นย้ำว่านโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อ "ลดมลพิษ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และปกป้องสิ่งมีชีวิตในทะเล" นอกจากนี้ยังเตือนด้วยว่า หากไม่ดำเนินการใดๆ ปริมาณพลาสติกที่ไหลลงสู่มหาสมุทรในแต่ละปีอาจเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าเป็น 29 ล้านตันภายในปี 2040 การประเมินการจัดการขยะพลาสติกระดับโลกจัดให้ออสเตรเลียอยู่ในอันดับที่ 7 จาก 25 ประเทศ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในด้านการควบคุมมลพิษจากพลาสติกโดยรวม