หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“Exotic Pet” สัตว์เลี้ยงแสนรัก....เพราะความแปลกนี่แหล่ะที่ทำให้ฉันหลงรักเธอ

เนื้อหาโดย davin

สัตว์เลี้ยงแปลก หรือ Exotic Pet ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ กระรอกบิน (ชูก้าไกลเดอร์), เม่นแคระ, เฟนเนค ฟ็อกซ์, อิกัวน่า, มังกรเครา (Bearded Dragon), ชินชิลล่า, และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอย่างแมงมุมทารันทูล่า สัตว์เหล่านี้ได้รับความสนใจเพราะความน่ารัก แปลกใหม่ และความแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงทั่วไป อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงสัตว์แปลกจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบเกี่ยวกับความต้องการเฉพาะของสัตว์แต่ละชนิด และตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างถูกกฎหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี วันนี้เรามาทำความรู้จัก “Exotic Pet” 10 ชนิดที่นิยมกันตอนนี้


1. บุชเบบี้ (Bush baby)
บุชเบบี้คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เลี้ยงได้ไม่ผิดกฎหมาย เป็นสัตว์ Exotic ที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับลิง ลักษณะของเจ้าบุชเบบี้คล้ายกับนางอายและลิงแต่จะมีขนาดตัวเล็กกว่ามาก จุดเด่นของเจ้าบุชเบบี้นั้นคือมือและเท้าที่ดูแล้วคล้ายคลึงกับมนุษย์มาก โดยเจ้าบุชเบบี้นิสัยของมันจะชอบแยกตัวอยู่ตามลำพัง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสัตว์ที่เชื่องและเชื่อฟังเจ้าของเอามากๆ ความสามารถในการเคลื่อนที่ของมันต้องบอกเลยว่าคล่องแคล่ว ชอบออกหากินตอนกลางคืนส่วนกลางวันก็จะใช้เวลาไปกับการนอน โดยเฉลี่ยแล้วการเลี้ยงบุชเบบี้ มีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 12-18 ปี การเลี้ยงบุชเบบี้ ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ เจ้าบุชเบบี้ตัวผู้มักใช้กลิ่นปัสสาวะของมันในการแสดงความเป็นเจ้าของกับเพศเมีย ซึ่งทำให้น้องนั้นค่อนข้างมีกลิ่นนั่นเอง


2.เมียร์แคต (Meerkat)
หลายๆ คนจะคุ้นหน้าน้องจากการ์ตูนมาดากัสการ์ ลักษณะทางกายภาพน้องที่โดดเด่นมากด้วยการยืนสองขา หัวสั้น หน้ากว้าง รอบดวงตาเป็นสีดำ ขนสีน้ำตาลทอง ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเราสามารถเลี้ยงเมียร์แคตได้ ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งเมียร์แคต ลักษณะนิสัยเป็นสัตว์ที่ชอบชะเง้อ ไม่อยู่กับที่ และชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มแต่ถ้าเลี้ยงน้องตัวเดียวก็จะติดเจ้าของเอามากๆ ในตอนเช้าจะชอบออกมายืนรับแสงแดดให้ร่างกายอบอุ่น โดยเมียร์แคตกินแมลง สัตว์เล็กๆ รวมถึงผัก ผลไม้ เป็นอาหาร สำหรับใครที่อยากเริ่มเลี้ยงเมียร์แคต ข้อเสียคือน้องจะร้องเกือบตลอดเวลา คนที่ไม่ชอบเสียงดังอาจจะไม่เหมาะกับการเลี้ยงน้อง ส่วนเรื่องกลิ่นก็จะมีกลิ่นฉุนเล็กน้อยอาจจะต้องอาบน้ำให้น้องอยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้แล้วค่าบำรุงรักษาจะค่อนข้างสูง


3. ชินชิล่า (Chinchilla)
สัตว์เลี้ยงฟันแทะอย่างเจ้าชินชิล่า เป็นสัตว์เลี้ยงหน้าตาเหมือนหนู แต่หูก็ดันตั้งตรงเหมือนกระต่ายดูแล้วชวนให้สับสนว่ามันคือตัวอะไรกันแน่ โดยเจ้าชินชิล่ามาจากแถบตอนเหนือของประเทศชิลี ทวีปอเมริกาใต้ หลายคนจะรู้จักเจ้าชินชิล่าในฐานะ “สัตว์ที่มีขนนุ่มที่สุดในโลก” โดยชินชิล่า นิสัยเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างกระตือรือร้น ขี้เล่น ชอบกัดชอบแทะสิ่งของ ซึ่งตามธรรมชาติแล้วเจ้าชินชิล่าเป็นสัตว์สังคม น้องมักจะอเลิร์ทในเวลากลางคืนส่วนกลางวันก็จะชอบนอนพักผ่อน สำหรับวิธีเลี้ยงชินชิล่านั้นไม่ยากเพียงแค่จัดเตรียมพื้นที่และอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงเจ้าชินชิล่าไม่ว่าจะเป็นกรง, ทรายอาบน้ำ และถ้วยอาหาร เป็นต้น รวมถึงจัดเตรียมอาหารให้พร้อม โดยเจ้าชินชิล่าห้ามกินอาหารที่หวานหรือมันจนเกินไปเพราะจะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและทำให้เป็นโรคอ้วนได้ เราจึงแนะนำให้เลี้ยงชินชิล่าด้วยอาหารประเภทพืช และให้อาหารเม็ดเสริมไปด้วย


4. แมวป่าคาราคัล (Caracal)
แมวคาราคัลเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์แมวป่าที่หลายคนเริ่มหันมานิยมเลี้ยง สามารถเลี้ยงได้ตามกฎหมาย ลักษณะแมวคาราคัลต้องยกให้เป็นสายพันธุ์แมวที่ดูสง่า แถมยังมาดเท่สุดๆ จุดเด่นของสายพันธุ์นี้เลยคือบริเวณหลังหูจะต้องเป็นสีดำ มีขนสั้นสีน้ำตาล ตาโต ลำตัวยาวโดยประมาณ 60-95 เซนติเมตร และน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 10-18 กิโลกรัม เรียกว่าน้องเป็นสายพันธุ์แมวที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะเลี้ยงเจ้าแมวคาราคัลนั้นแนะนำว่าให้ศึกษาลักษณะนิสัย และดูว่าแมวคาราคัล เลี้ยงยังไงให้ดีก่อน เพราะโดยธรรมชาติแล้วนิสัยคาราคัลเป็นแมวที่ค่อนข้างดุ และมีสัญชาตญาณความเป็นนักล่าสูง เวลาเล่นด้วยก็จะค่อนข้างเล่นแรง ส่วนด้านอาหารแนะนำให้แมวป่าคาราคัลกินอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์โปรตีนสูงเป็นหลัก


5. อัลปาก้า (Alpaca)
เจ้าอัลปาก้าที่มาพร้อมกับหน้าตาสุดแสนจะน่ารัก หลายคนยังสับสนถึงความแตกต่างระหว่างอัลปาก้ากับลามะต่างกันอย่างไร ข้อแตกต่างอย่างชัดเจนของสองสายพันธุ์นี้คือเจ้าอัลปาก้าจะตัวเล็กและขนนุ่มกว่าเจ้าลามะนั่นเอง และหากถามถึงความนิยมเลี้ยงอัลปาก้าในไทยต้องบอกเลยว่าอาจจะไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายเหมือนกับสัตว์ชนิดอื่นๆ ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นเป็นฟาร์มอัลปาก้ามากกว่าเลี้ยงตัวเดี่ยวๆ เพราะด้วยเจ้าอัลปาก้า นิสัยชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ดูภายนอกจะน่ารักและอารมณ์ดี แต่ก็มีบางครั้งที่อัลปาก้าเผลอพ่นน้ำลาย หรือกัดเจ้าของ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทำเพื่อป้องกันตัวเมื่อพวกเขารู้สึกว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยอัลปาก้ากินหญ้าเป็นอาหาร เราสามารถให้หญ้าแห้งผสมกับการอาหารเม็ดเพื่อเสริมสร้างโภชนาการที่ดีให้กับเจ้าอัลปาก้าได้


6. แพรรีด็อก (Prairie Dog)
แพรรีด็อก หรือ กระรอกดินเลี้ยงได้ โดย Prairie Dog คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประเภทฟันแทะ จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับกระรอก ลักษณะของมันคือใบหูเล็ก ดวงตากลมโตสีดำ ขนสีน้ำตาลทอง ลำตัวอ้วนกลมน่ารัก เจ้าแพรรีด็อกมีขาคู่หน้าที่แข็งแรงมาก พวกมันจะชอบใช้ขาคู่หน้าในการขุดดินทำเป็นโพรงเพื่ออยู่อาศัย โดยธรรมชาติแล้วเจ้าแพรรีด็อกเป็นสัตว์สังคมชอบอยู่กันเป็นฝูง นิสัยแพรรีด็อกเป็นสัตว์ที่มีความว่องไว ร่าเริง และเชื่องกับเจ้าของมาก ซึ่งการเลี้ยง Prairie dog ก็ไม่ยากเพียงต้องศึกษาธรรมชาติของเจ้าแพรรีด็อกให้มากขึ้น และเตรียมจัดที่ทางไว้ให้น้อง โดยแนะนำว่าให้เลี้ยงน้องในกรง แต่ถึงอย่างนั้นการเลี้ยงแพรี่ด็อก ข้อเสียก็มีอยู่บ้างคือน้องจะค่อนข้างติดเจ้าของมาก ถ้าเจ้าของไม่มีเวลามาคุยมาเล่นกับน้อง น้องอาจจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวและกัดเจ้าของได้ โดยเฉพาะช่วงติดสัดน้องจะดุเป็นพิเศษ นอกจากนี้แล้วต้องบอกว่าเจ้าแพรี่ด็อกอายุขัยอยู่ได้ประมาณ 3-10 ปี เมื่อรับน้องมาเลี้ยงแล้วก็ต้องเข้าใจความเป็นธรรมชาติของสัตว์สายพันธุ์นี้ และอยู่กับน้องไปนานๆ


7. ตุ๊กแกลายเสือดาว (Leopard Gecko)
ตุ๊กแกเสือดาว ซึ่งน้องจะมีลักษณะไม่เหมือนกับตุ๊กแกทั่วไปที่เราคุ้นเคยกัน ถ้ามองให้ดีจริงๆ แล้วน้องจะมีลักษณะคล้ายกับจิ้งจกมากกว่า แถมยังมีสีสันสดใส ดวงตากลมโต และถ้ามองหน้าก็จะเห็นเหมือนกับน้องยิ้มตลอดเวลา ซึ่งการเลี้ยงตุ๊กแกเสือดาวนั้นเลี้ยงง่าย เพียงแค่จัดเตรียมกล่องหรือตู้ไว้สำหรับเลี้ยงน้องโดยเฉพาะ และเจ้าตุ๊กแกเสือดาวจะกินแมลงเช่น หนอนนก จิ้งหรีด เป็นอาหารที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป โดยตามนิสัยตุ๊กแกเสือดาวจะชอบหากินในช่วงเวลากลางคืน ส่วนกลางก็จะพักผ่อนอยู่นิ่งๆ


8. หมาจิ้งจอกเฟนเนก (Fennec Fox)
หมาจิ้งจอกเฟนเนก หลายคนเห็นหน้าน้องแล้วอาจจะสงสัยว่าเจ้า หมาจิ้งจอกเฟนเนก เลี้ยงได้ไหม เพราะด้วยลักษณะของน้องที่ดูเป็นสุนัขจิ้งจอกซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่เลี้ยงแล้วอาจจะผิดกฎหมาย หรือไม่สามารถเลี้ยงได้เพราะน้องดุ แต่ต้องบอกเลยว่าหมาจิ้งจอกเฟนเนกเลี้ยงได้ แถมน้องยังถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้เป็นมิตรกับมนุษย์มากขึ้นจนกลายเป็นสัตว์น่าเลี้ยงสุดแสนจะน่ารัก ใครได้ลองใกล้ชิดน้องรับรองเป็นต้องหลงแน่นอน โดยเจ้า Fennec Fox อาศัยอยู่ที่ทะเลทรายสะฮาราประเทศอียิปต์มาก่อนที่จะถูกค้นพบและได้รับความนิยมเลี้ยงอย่างแพร่หลาย ซึ่งเจ้าหมาจิ้งจอกเฟนเนกได้ชื่อว่าเป็น “สุนัขจิ้งจอกที่เล็กที่สุดในโลก” นิสัย เฟนเนกเป็นสัตว์สังคม พฤติกรรมจะคล้ายหมาและแมวผสมกัน คือ รักความสะอาด ขี้เล่น แต่บางครั้งก็ชอบอยู่แบบสันโดษ โดยอาหารสามารถให้น้องกินอาหารเม็ดเหมือนหมาหรือแมวได้ หรือถ้าเป็นอาหารจากธรรมชาติแนะนำให้น้องกินเป็นแมลงตัวเล็ก หรือพืช ผัก ก็ได้เช่นกัน


9. แรคคูน (Raccoons)
แรคคูนสัตว์เลี้ยงแปลกที่ขนความน่ารักมาแจกแบบจัดเต็ม โดยเจ้าแรคคูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มาพร้อมกับลักษณะเด่นคือรอยแต้มสีดำรอบดวงตา หางเป็นพวงมีแถบคาดสีดำสลับกับสีเทาคล้ายกับทางม้าลาย ส่วนขนเป็นสีเทาดำ จมูกแหลม หูตั้งตรง มี 5 นิ้วลักษณะมือเท้าจะคล้ายกับมนุษย์
ใครที่อยากเริ่มเลี้ยงแรคคูน นิสัยของน้องหลายคนบอกว่าเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดเอามากๆ เพราะชอบล้างของกินก่อนกินทุกครั้ง เจ้าแรคคูนเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างฉลาด ไหวพริบดี แถมยังมีความคล่องแคล่วอีกด้วย ซึ่งการเลี้ยงแรคคูนนั้นก็ถือว่าเลี้ยงไม่ยาก เพียงแค่ต้องมีเวลาดูแลเอาใจใส่ และคอยสังเกตอาการและพฤติกรรมของน้องอยู่เรื่อยๆ เพราะถ้าเลี้ยงดีๆ แรคคูนมีอายุได้มากถึง 20 ปีเลยทีเดียว


10. คาปิบาร่า (Capybara)
เจ้าหนูยักษ์คาปิบาร่า เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สามารถเลี้ยงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเจ้าคาปิบาร่า นิสัยเป็นสัตว์สังคมชอบอยู่กันเป็นฝูง ไม่ก้าวร้าวกับมนุษย์ ชอบอยู่อย่างสงบโดยชีวิตประจำวันจะหมดไปกับการกินอาหารไม่ว่าจะเป็นหญ้าหรือพืชน้ำ และต้องบอกว่าน้องเป็นสายพันธุ์ที่ว่ายน้ำเก่งมาก ชอบอยู่ตามแหล่งน้ำสุดๆ ใครที่อยากลองเลี้ยงน้องคาปิบาร่าสามารถเลี้ยงได้ แต่แนะนำให้เลี้ยงเป็นคู่หรือมากกว่า 2 ตัว หรือจะเลี้ยงร่วมกับสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์อื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา ใครที่เตรียมความพร้อมและศึกษาวิธีการเลี้ยงคาปิบาร่ามาอย่างดีแล้วก็สามารถเลี้ยงน้องไปได้นานๆ เพราะเจ้าคาปิบาร่ามีอายุขัยเฉลี่ย 6-12 ปี เลยทีเดียว

เนื้อหาโดย: davin
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
davin's profile


โพสท์โดย: davin
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (5/5 จาก 8 คน)
VOTED: projor007, goldfish13, kyogisa, famai, mommyg13, แด๊ดดี้จอเเดน, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์, davin
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่นนี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoiaเฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ฮิลใจ จิตวิทยา นานาสาระพัน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีสรรพนามเรียกคนรักสไตล์ "ชิก ชิก & คลู คูล": คำเรียกที่ไม่ซ้ำใคร สะท้อนความผูกพัน💰 5 ปีแห่งความหวัง: เทียบชัด! ซื้อหวย vs ลงทุนหุ้นปันผล ผลลัพธ์แบบไหนสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริงไขความลับของ "วิบริสซา" ทำไม "หนวดแมว" ถึงห้ามตัดเด็ดขาด!
ตั้งกระทู้ใหม่