หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ลายเซ็นนั้นสำคัญฉะไหน : ถอดรหัสลับชีวิตผ่านลายเซ็น

เนื้อหาโดย ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์

        ลายเซ็น (Signature) เป็นทางการ คือลายมือชื่อ เปรียบเสมือนตราประทับชื่อที่เราเขียน มีผลบังคับทางกฎหมาย ในการลงลายมือชื่อในเอกสาร ลายเซ็นมีความสำคัญ “เพราะเป็นสิ่งที่แสดงตัวตนของเรา เป็นตัวแทนของเรา”              วิชารหัสลับที่ว่าด้วย การวิเคราะห์ลายมือเขียน หรือลายเซ็น จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ การอ่านลายมือบนผ่ามือ และโหงวเฮ้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด การอ่านลายเซ็นจะอ่านลายเส้นตามที่ปรากฏให้เห็นได้เลย  ส่วนการอ่านลายมือบนมือต้องมีการสัมผัสจากมือ เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเป็นไปได้ยาก แตกต่างจากลายเซ็น ซึ่งกำหนดไว้ด้วยมือของเรา สามารถเสริม เติม แต่งในสิ่งที่ดีเข้าไปได้

              การดูลายเซ็น หรือลายเส้น นั้นอาจจะไม่ใช่การดูดวง หรือการพยากรณ์ดวงชะตาเท่าไรนัก แต่เป็นการวิเคราะห์พฤติกรรม อารมณ์ นิสัยใจคอมากกว่า ซึ่งสามารถนำการวิเคราะห์คาดการถึงลักษณะนิสัย หรืออารมรณ์ของเจ้าของลายมือ หรือลายเซ็นนั้นได้  เพราะลายเซ็น ลายมือ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ อัตลักษณ์ บุคลิก รวมถึงภาพลักษณ์ของแต่ละบุคลล สามารถนำมาพัฒนาบุคลิกภาพ สร้างภาพลักษณ์

              ดังนั้นลายเซ็นจึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของคนนั้นๆ มีออกมาจกาส่วนลึกภายใน เป็นตัวตนที่แท้จริงของบุคคล ปรากฏผ่านสัญลักษณ์ หรือข้อความที่มีลายมือของคนนั้นๆ ได้ตวัด เขียนไปมา ยิ่งกว่านั้น ลายเซ็น คือรูปลักษณ์ที่แสดงออกถึงลักษณะการจัดระเบียบของจิตใจ สามารถบ่งบอกอารมณ์ ความรู้สึก ลักษณะนิสัย การมีวิธีการในการทำงาน และความสามารถในการยับยั้งอารมณ์ ความรู้สึก หรือการแสดงออกได้อีกด้วย วันนี้ผู้เขียนซึ่งเป็นคนเขียนตำราวิชา รหัสลับลายเซ็นจะมาเล่าเรื่องลายเซ็นนั้นสำคัญฉะไหน พอสังเขป

วิวัฒนาการการก่อกำเนิดลายเซ็น

แนวทางปฏิบัติในการใช้ลายเซ็นเพื่อรับรองความถูกต้องของเอกสารมีมาตั้งแต่สมัยอารยธรรมโบราณ โดยที่บุคคลจะจารึกชื่อหรือสัญลักษณ์ของตนไว้บนแผ่นดินเหนียว ม้วนกระดาษปาปิรัส หรือตราประทับขี้ผึ้งเพื่อแสดงถึงความเป็นเจ้าของหรือข้อตกลง  หรืออาจกล่าวได้ว่า อารยธรรมการมีลายเซ็น เริ่มขึ้นเมื่อมนุษย์เริ่มมีการประดิษฐ์ตัวอักษรก็ว่าได้

              แนวคิดเรื่องลายเซ็นที่เขียนด้วยลายมือเริ่มมีชื่อเสียงในช่วงยุคกลาง โดยมีการเกิดขึ้นของเอกสารทางกฎหมายและสัญญาที่เป็นทางการซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากพระมหากษัตริย์ ขุนนาง และพ่อค้า เมื่อเวลาผ่านไป ลายเซ็นพัฒนาจากเครื่องหมายหรือตราประทับธรรมดาๆ ไปสู่สคริปต์ที่เขียนด้วยลายมือที่โดดเด่น ซึ่งสะท้อนถึงตัวตนและอำนาจของแต่ละบุคคล

              จากบทความเรื่อง “ลายมือ” และ “ลายเซ็น” ของรัชกาลที่ 4 กับอิทธิพลที่ส่งผลในภายหลัง ของเว็บไซต์ศิลปะวัฒนธรรม กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของลายเซ็นในประเทศไทยความตอนหนึ่งว่า “...เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระสหายเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวตะวันตกตั้งแต่ครั้งยังทรงผนวช ทรงเรียนภาษาอังกฤษจากมิชชันนารีอเมริกัน และภาษาละตินจากสังฆราช ปาเลกัวส์ พระองค์จึงทรงเขียนและอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างเชี่ยวชาญ ทรงมีพระสหายชาวต่างชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีการโต้ตอบทางจดหมายด้วยลายพระหัตถ์ ซึ่งการเขียนจดหมายแบบตะวันตกต้องมีการลงท้ายด้วยชื่อผู้เขียน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการลงพระปรมาภิไธย...

...จากนั้นจึงเริ่มขยายวงกว้างไปสู่ระบบราชการและราษฎรไทย ยุคพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นยุคที่วัฒนธรรมตะวันตกไหลบ่าเข้ามาสู่บ้านเมืองสยาม เป็นยุคที่พระมหากษัตริย์มีพระปรมาภิไธยหลากหลายรูปแบบ มีความสวยงาม ทั้งของพระองค์เองและการลงพระนามของพระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนข้าราชการ

              ลายเซ็นมีบทบาทชัดเจนในปี พ.ศ.2431 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีการวางระเบียบให้เสนาบดีกระทรวงต่าง ๆ ที่จะประทับตราประจำกระทรวง จะต้องลงชื่อตัวในท้ายตราด้วยเพื่อเป็นหลักฐาน การลงลายเซ็นจึงเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ตราประทับถูกลดบทบาทลงจนแทบไม่มีความสำคัญ จนถึงปัจจุบันคนไทยทั้งข้าราชการและเอกชนให้การยอมรับการลงลายชื่อในเอกสารกันแพร่หลายทั่วไป”

              ลายเซ็นจึงเป็นสิ่งที่คนไทยใช้เป็นสัญลักษณ์แทนบุคคลเรื่อยมา โดยจะมีทั้งแบบที่เป็นลายเส้นที่มีความคล้ายคลึงกับชื่อ หรืออาจไม่คล้าย แต่เขียนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน ส่วนใหญ่มักลากเส้นให้มีความยากเข้าไว้ เพื่อป้องกันการเลียนแบบปลอมแปลงตัวตน ขณะที่มีบางคนใช้วิธีเขียนเป็นลายมือเขียนชื่อ-นามสกุล ไม่ได้บรรจงสร้างสรรค์ลายเส้นใด ๆ เป็นพิเศษ ซึ่งลายเส้นทั้งหลายเหล่านั้นยังสามารถบ่งบอกบุคลิกและความเป็นตัวตนของแต่ละคนได้อีกด้วย

หลักการดูลายมือ และลายเซ็น

              การศึกษาลายมือ ลายเซ็นมีความสำคัญ เสมือนเป็นสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายเฉพาะบุคคลที่ส่งบอกว่าคุณมีลักษณะอย่างไน ลายมือ หรือลายเซ็นสามารถบอกเล่าอธิบายคุณลักษณะได้ดังนี้

  1. ลักษณะนิสัย : ลายเซ็นบอกได้ถึงลักษณะนิสัยว่าผู้นั้น เบิกบาน แข็งกร้าว อ่อนโยน หรือเป็นคนเฉื่อยชา หรือกระตือรือร้น เป็นต้น
  2. อารมณ์ความรู้สึก : ถึงแม้คุณไม่ได้พูดคุยกับเขา แต่คุณรู้ได้ว่าขณะนั้นอารมณ์ความรู้สึกเขาเป็นอย่างไร เช่น มีความวิตกกังวล มีความอ่อนไหว โกรธ โมโห ว้าวุ่นใจ มันจะสะท้อนสิ่งเหล่านี้ออกมาจากลายเซ็นได้อย่างไม่ปิดบัง
  3. ทัศนคติ : คุณจะทราบได้ถึงมุมมองของคนที่เป็นเข้าของลายเซ็นว่าเขาสนใจในเรื่องยากง่ายอะไรบ้าง เป็นคนมองโลกในแง่ดีแง่ร้าย อาทิเช่น หากเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มักจะมีลายเซ็นที่พลิ้วไหวเป็นคลื่นที่สวยงาม ในขณะเดียวกันหากลายเซ็นเป็นแบบผอมสูง หรือแคบๆ จะเป็นคนที่มีทัศนคติและวิธีคิดตรงกันข้ามกับแบบแรก
  4. สติปัญญา : ลายเซ็นสามารถล่วงรู้ว่าถึงความฉลาด ความสุขุม หรือมุทะลุ ขาดการไตร่ตรอง ความซื่อตรงหรือการมีเล่ห์เหลี่ยม
  5. ความสามารถ : ลายเซ็นสามารถบ่งบอกถึงความสามารถจากการจรดปากกา เส้นสายที่ขีดเขียนออกมา อาทิเช่น คนที่ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในตนเองมักจะเขียนลายเซ็นโย้หน้าบ้างหลังบาง ลายเส้นมักจะขาดๆเกิน
  6. ความใฝ่ฝัน : ลายเซ็นสามารถบ่งบอกถึงความทะเยอทะยานสูง หรือมีความมุ่งมั่นอย่างโดนเด่น หรือแค่พอใตในปัจจุบัน ชอบความเรียบง่าย หรือต้องการให้ผู้คนยกย่อง
  7. ฐานะทางการเงิน ความมั่นคงในชีวิต : ลายเซ็นบ่งบอกลักษณะการเก็บเงินได้หรือไม่ เซ็นเปิดรับทรัพย์ได้ในชื่อหรือไม่ ทำให้เกิดลาภลอย หรือโชคลาภแบบฟลุกๆ เงินจรได้อย่างไร
  8. บริวาร : ลายเซ็นบ่งบอกถึงคนใกล้ชิด ลูกน้อง บริวาร ครอบครัวที่เราต้องมีการติดต่อปฏิสัมพันธ์กันว่าเป็นอย่างไร เซ็นแบบไหนจะทำให้ถูกหักหลังจากบริวาร หรือบริวารตีเสมอตัวท่าน

             

              ดังนั้นรหัสลับลายเซ็น เป็นวิธีการที่ว่าด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรม บุคลิกภาพ ภาพลักษณ์ คุณลักษณะของบุคคลที่สื่อผ่านลายเซ็น หรือลายมือ ดังนั้นลายเซ็นนั้นสำคัญฉะไหน

********

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (5/5 จาก 8 คน)
VOTED: projor007, davin, แด๊ดดี้จอเเดน, mommyg13, famai, kyogisa, goldfish13, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีนชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get outชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตันหาดใหญ่จมน้ำ รถลูกค้า ‘วิริยะประกันภัย’ ขอเคลมพุ่ง 3,800 คัน
เดิมพันชีวิต! "สาธุ ๒" (The Believers 2) เรื่องย่อซีรีส์ทริลเลอร์ ที่ตีแผ่เครือข่ายมารศาสนาและการเมืองของเก่าทรงคุณค่า! ยิ่งเก็บไว้นาน บ้านยิ่ง “รุ่งเรือง” คนโบราณเรียกเป็นสมบัติ ทิ้งไปก็เสียของพลังงานแห่งสายน้ำ: ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของน้ำจากธรรมชาติ 10 ชนิด ที่ช่วยเสริมพลังชีวิต8 สัญญาณ ที่บ่งบอกว่า บ้านของคุณมี "ฮวงจุ้ยที่ดีมาก" เช็กได้ด้วยตัวเอง
ตั้งกระทู้ใหม่