หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

โจลมะม้วต : พิธีกรรมแห่งความเชื่อและความศรัทธาในสังคมวัฒนธรรมอีสานใต้

โพสท์โดย ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์

        ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ว่าใดก็ตาม แต่สำหรับภาคอีสาน โดยเฉพาะอีสานใต้ กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีมากที่สุดคือ กลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขมร รองมาคือกลุ่มชาติพันธุ์ไทยลาว และกลุ่มชาติพันธุ์กูย ซึ่งหากนับความเข้มแข็งทางวัฒนธรรม พบว่ากลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขมรมีความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมมากที่สุด ไม่ว่าจะด้านความเชื่อ ด้านภาษา ด้านการแต่งกาย ด้านอาหารพื้นบ้าน ด้านประเพณี พิธีกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ในพิธีกรรมโจลมะม็วด ถือเป็นความเชื่อ และพิธีกรรมที่เป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขมรในอีสานใต้ที่มีการถ่ายทอดและรักษาให้คงอยู่จากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน

            พิธีกรรมโจลมะม็วดซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์สำคัญที่โดดเด่นของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขมรโดยมีการถ่ายทอดและรักษาให้คงอยู่ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน กลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขมรมีพัฒนาการรากฐานมาจากความเชื่อเรื่องผี แล้วผสมผสานกับศาสนาพราหมณ์ และศาสนาพุทธที่ตามเข้ามาในแต่ละมิติเวลา ด้วยความเชื่อที่ผสมผสานทำให้พิธีกรรม “โจลมะม็วด” ซึ่งมี “หมอมะม็วด” ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพหรือสิ่งเหนือธรรมชาติเพื่อจุดมุ่งหมายในการบำบัดรักษาผู้ป่วยนั้นจึงมีกิจกรรมที่หลากหลายขั้นตอนตามความเชื่อต่างๆดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นพิธีการไหว้ครู การร่ายรำปัดวิญญาณชั่วร้าย การเรียกขวัญผู้ป่วยให้กลับคืนเข้าร่างกาย และด้วยจิตวิญญาณความเป็นพุทธที่มีอยู่ในตัวหมอมะม็วดจึงมีการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเข้ามาสอดแทรกในพิธีกรรม อันได้แก่ กตัญญูกตเวที บูชา  ศีล ๕ บุญกิริยาวัตถุ ๓ และไตรลักษณ์  เพื่อสอนสั่งศิษย์ให้ถือปฏิบัติเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของชีวิตและเพื่อให้สงบสุขของชุมชน

            โจลมะม็วด คือ พิธีกรรมการเข้าทรงของกลุ่มชาติพันธุ์เขมรในอีสานใต้ของไทย โดยเฉพาะในจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยที่หาสาเหตุไม่ได้ เชื่อว่าเกิดจากสิ่งลึกลับหรือวิญญาณ โดยจะเชิญวิญญาณมาประทับทรงผ่านร่างทรง เพื่อสอบถามสาเหตุของอาการ และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งร้ายออกไป พิธีกรรมนี้เป็นการสืบสานภูมิปัญญา วัฒนธรรม และความเชื่อของบรรพบุรุษให้คงอยู่ต่อไป 

ความหมายของคำว่า “โจลมะม็วด” 

            โจล หมายถึง การเข้าทรง หรือการประทับทรง

            มะม็วด หมายถึง ตัวบุคคลที่สามารถสื่อสารกับวิญญาณต่างๆ ให้มาประทับทรงได้ ซึ่งอาจหมายถึงหมอผีหรือร่างทรงในพิธีกรรมนั้นๆ

ลักษณะของพิธีกรรม

            จัดขึ้นเมื่อมีผู้เจ็บป่วยที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันได้ หรือเพื่อบูชาครู บูชาเทวดาฟ้าดิน หรือดวงวิญญาณบรรพบุรุษเพื่อความเป็นสิริมงคล มีการบรรเลงดนตรี ผู้ร่วมพิธีจะเคลิ้ม เต้นรำ ฟ้อนรำอย่างสนุกสนาน ผู้ทำพิธีจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ เรียกว่า ครูมะม็วด หรือ หมอมะม็วด ที่สามารถเรียกวิญญาณหรือเทวดามาประทับทรงได้  เชื่อว่าการเข้าร่วมพิธีกรรมนี้จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายและกำลังใจให้แข็งแรง และมีอายุยืนยาว 

            นอกจากนี้พิธีกรรม “โจลมะม้วต” ยังทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพียงให้คนในชุมชนอีสานใต้จะนำมาใช้ เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกับอำนาจลึกลับที่มองไม่เห็นเหล่านั้น เพื่อเป็นทางแก้ไขความผิดพลาดได้ทันท่วงทีและถูกทาง อาจโดยการขอขมาลาโทษหรือการทำสิ่งต่าง ๆ ตามที่ร่างทรง(แม่มะม้วต/หมอมะม้วต) ทำนายทายทัก ทำให้เห็นว่าแม้ความเจริญทางวิทยาศาสตร์จะรุดหน้าไปเพียงใดก็ตาม แต่ความศรัทธาของคนในชุมชนเขมรที่มีต่อพิธีกรรมดังกล่าวก็ยังคงเหนียวแน่นไม่เสื่อมคลาย

            พิธีกรรมนี้มักจัดขึ้นในช่วงเดือน 3 ถึง เดือน 5 (เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน) ของทุกปีเพื่อบูชาครูมะม็วด ยกเว้นคนป่วยจะมีอาการหนักมากก็สามารถทำได้ทุกเดือนเว้นวันพระและวันเข้าพรรษา หากไม่มีคนป่วยในหมู่บ้านก็จะทำพิธีเพื่อบูชาครู

          พิธีโจลมะม็วดมีองค์ประกอบ 2 ส่วนดังนี้

        1. การเข้าทรงเพื่อทำนายและรักษา เรียกว่า“บ็องบ้อด” โดยร่างทรงจะเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเข้าร่างเพื่อทำนายและรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยจะทำการทำนาย เรียกว่า โบล เพื่อทำนายสาเหตุ วิธีการรักษา หาฤกษ์ประกอบพิธี และเซ่นไหว้ผี เรียกว่า "แซนขม็อจ" เพื่อบอกกล่าวเจ้าที่ที่รักษาบ้านของคนป่วยให้รับรู้ว่าจะมีการประกอบพิธี จากนั้นจึงตั้งปะรำพิธี เรียกว่า ตะซาล เครื่องเซ่นบูชา เครื่องดนตรี เช่น วงปี่พาทย์ กันตรึม ไหว้ครูเพลง ไหว้ครูมะ ม็วด การเข้าทรง เรียกว่า "ปัญโจล มะม็วด" การเรียกขวัญ เรียกว่า "เฮาปลึง" เด็ดดอกไม้ ตัดเพดาน เรียกว่า "กัจปกา ซาปดาร"

      2. พิธีไหว้ครูประจำปี เรียกว่า“มะม็วด” เป็นพิธีกรรมที่สร้างความเป็นสิริมงคลให้คนในหมู่บ้าน โดยชาวบ้านจะช่วยกันจัดปะรำพิธี เครื่องเซ่นบูชาครู เช่น ข้าวตอก ผลไม้ เครื่องดนตรี การร่ายรำขณะประกอบพิธี 

รูปแบบ/ขั้นตอนปฏิบัติ ประกอบด้วย

  1. พิธีเซ่นไหว้เชิญวิญญาณบรรพบุรุษให้มาร่วมพิธีกรรมโจลมะม้วต ถ้าไม่ได้ทำพิธีเซ่นไหว้วิญญาณก็จะไม่ลงมาประทับร่างทรงในช่วงประกอบพิธี หลังจากนั้นก็เซ่นไหว้ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางเพื่อให้การประกอบพิธีกรรมเป็นอย่างราบรื่นและสำเร็จด้วยดี
  2. พิธีเซ่นไหว้ครูดนตรี เพื่อให้การบรรเลงเพลงเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรติดขัดตลอดระยะเวลาประกอบพิธีกรรม
  3. พิธีเปิดพิธีกรรมโจลมะม้วต เจ้าภาพผู้จัดพิธี มอบเครื่องบูชาแก่ร่างทรงวิญญาณปู่ตา
    ผู้ทำหน้าที่เป็นประธานในการเปิดงาน ต่อจากนั้น นักดนตรีก็จะเริ่มบรรเลงเพลงเพื่อเป็นการเอาฤกษ์ เอาชัย และบรรเลงเพลงเชิญวิญญาณปู่ตาให้เข้าประทับร่างทรง
  4. พิธีเข้าทรงของเจ้าภาพ และร่างทรงที่ได้รับเชิญมาร่วมพิธี เจ้าภาพ คือ ผู้ป่วยที่จัดพิธีกรรมโจลมะม้วต การเข้าทรงของเจ้าภาพนั้นต้องเชิญวิญญาณบรรพบุรุษ (ครูมะม้วต) เข้ามาก่อนและตามด้วยครูกำเนิด เมื่อวิญญาณบรรพบุรุษ หรือครูมะม้วตประจำตระกูลเข้ามาประทับทรงเต็มรูปร่างแล้ว ก็ถามไถ่ถึงสาเหตุที่มาทำให้ลูกหลานเจ็บป่วย ถ้าครูมะม้วตเป็นผู้กระทำก็จะบอกสาเหตุ เช่น ลูกหลานไปกระทำผิดประเพณี ทำให้วิญญาณบรรพบุรุษเกิดความไม่พอใจ เป็นต้น เมื่อรู้สาเหตุแล้ว ก็ต้องถามว่าจะให้ทำอย่างไร ครูมะม้วตก็จะบอกวิธีการรักษาให้ เช่น ต้องทำพิธีเซ่นไหว้ขอขมา หรือไม่ก็บอกวิธีอื่น ๆ แต่ถ้าความป่วยไข้ไม่ได้เกิดจากครูมะม้วต ญาติ ๆ ก็ขอพรจากครูมะม้วต ถ้าครูมะม้วตประจำครอบครัวใดสามารถรักษาโรคได้
    ก็จะทำการรักษาโรคให้
  5. พิธีเซ่นไหว้ปลมปลี พิธีนี้มีขึ้นในช่วงเวลาเที่ยงคืน เป็นการเซ่นไหว้เครื่องดนตรีและเสี่ยงทายว่าหลังจากประกอบพิธีกรรมโจลมะม้วตเสร็จแล้ว เจ้าภาพจะหายจากอาการป่วยไข้หรือไม่ การเสี่ยงทายนั้นทำได้โดยการดูลักษณะของลิ้นไก่ หรือบางที่เรียกกระดูกคางไก่ (เกียงเมือน) ถ้าลิ้นไก่อ่อนช้อยสวยงาม หมายถึง ผลที่ได้จากการประกอบพิธีกรรมนั้นดี เจ้าภาพที่ประกอบพิธีกรรมจะหายจากอาการป่วยไข้ แต่ถ้าลิ้นไก่ไม่สวยงาม ความป่วยไข้อาจจะไม่หายก็ได้
  6. พิธีลา เมื่อทำพิธีเข้าทรงต่อจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น การเชิญวิญญาณเข้าประทับร่างทรงของเจ้าภาพผู้จัดพิธี ถ้าสมาชิกในครอบครัวมีเท่าไรก็ต้องเชิญครูกำเนิด (ครูหรือเทวดาประจำตัวของทุกคน) เข้ามาให้ครบทุกคน เช่น ครอบครัวหนึ่ง มีสามี มีลูกสาว ๒ คน ลูกชาย ๓ คน เวลาเชิญครู กำเนิดเข้าประทับร่างต้องเชิญให้ครบ บางครั้งไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ ขึ้นอยู่กับใครเข้ามาก่อนก็ไม่เป็นไร ในกรณีที่ครูกำเนิดกระทำให้ลูกหลายเจ็บป่วย ก็ขอวิธีรักษาจากครูมะม้วตอีกที หรือถามจากครูกำเนิดก็ได้ แต่ในกรณีที่ครูกำเนิดไม่ได้เป็นผู้ทำให้เจ้าตัวเจ็บป่วย ครูกำเนิดก็เป็นเพียงเข้ามาเพื่อความสนุกสนานได้ฟ้อนรำในพิธีกรรมด้วย

            การรักษาอาการป่วยไข้ตามความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเชื้อสายเขมร แม้ว่าไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าสามารถรักษาอาการป่วยไข้ให้หายจากโรคได้จริง แต่ก็มีส่วนทำให้อาการของผู้ป่วยนั้นดีขึ้นตามลำดับ และบางคนก็มีอาการหายจากป่วยไข้จริง จึงเป็นเครื่องยืนยันความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเชื้อสายเขมร ให้คงอยู่และการประกอบพิธีกรรมเพื่อการรักษานั้น ก็ยังปรากฏมีให้เห็นจนถึงปัจจุบัน วิธีการรักษาตามความเชื่อของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเชื้อสายเขมร สังคมภายนอกอาจจะมองว่าเป็นวิธีการรักษาที่ล้าหลังไม่ทันสมัย เป็นความเชื่อที่งมงาย แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสการประกอบพิธีกรรมการรักษาแล้ว ทำให้อยากศึกษามากยิ่งขึ้น

            พิจารณาอย่างลึกซึ้งถึงแนวคิดและขั้นตอนของ การทำพิธีกรรมโจลมะม้วตแล้ว จะเห็นว่าพิธีกรรมนี้ได้รวบรวมเอาลักษณะทางวัฒนธรรมไว้หลายด้านด้วยกัน การกำหนดขั้นตอนพิธีกรรม ผู้ประกอบพิธีกรรมเครื่องเช่นบูชาครู การแต่งกาย ท่ารำ และดนตรี ตลอดจนผู้ร่วมในพิธีกรรมเหล่านี้ล้วนยืนยันให้เห็นว่าพิธีกรรมมะม้วตนี้ถือเป็นศูนย์รวมทางวัฒนธรรมที่บ่งขี้ถึงอัตลักษณ์ของหมู่บ้านหรือชุมชนได้อย่างชัดเจนนับว่า เป็นมรดกภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่าซึ่งควรแก่การส่งเสริมและรักษาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้และสืบทอด

************

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (5/5 จาก 8 คน)
VOTED: goldfish13, projor007, davin, mommyg13, แด๊ดดี้จอเเดน, famai, kyogisa, ดร กิฟท์นางมารพยากรณ์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นายอดีตกัปตันเรือยอชต์สุดหรู ถูกจับฐานเชื่อมโยงกับแก๊งในเขมรช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรกคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดวินาทีชีวิต! ภาพไวรัล "หนูนา" หน้าตาสุดอ้อนวอน ในกรงเล็บนกเหยี่ยวเลขเด็ด "แม่นมาก ขั้นเทพ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69 มาแล้ว!..คอหวยส่องด่วน!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
“คาล์ฟคิก” ท่าเตะเงียบที่ทำให้นักมวยไทยหลายคน ยางแตกกลางยกเขมรจับ นกพิราบสายลับ อ้างติด GPS ชี้เป้าให้ F-16 แต่สุดท้ายเป็นแค่นกแข่งธรรมดาวินาทีชีวิต! ภาพไวรัล "หนูนา" หน้าตาสุดอ้อนวอน ในกรงเล็บนกเหยี่ยวทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ ที่วัดกู้ นนทบุรี
อุชิ โนะ โคคุ ไมริ:พิธีกรรมสาปแช่งที่แลกด้วยวิญญาณTsukumogami: เมื่อของใช้เก่าเก็บ กลายร่างเป็นผีจอมป่วนแห่งญี่ปุ่นตำนานสะท้านปฐพี! ย้อนรอย "ทหารผี" ผู้คงกระพันในสงครามอินโดจีน พลังพุทธคุณกู้ชาติจากพิธีปลุกเสกครั้งประวัติศาสตร์ไขปริศนา 'ไม้ปวย': คู่มือการเสี่ยงทายเพื่อขอคำยืนยันจากเทพเจ้าจีน (สายมูต้องห้ามพลาด)
ตั้งกระทู้ใหม่