"หมอธรรม" ปราชญ์ชาวบ้านในสังคมและวัฒนธรรมอีสาน
หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวข้องกับ "หมอธรรม" ที่เป็นผู้ทรงความรู้ภูมิปัญญา และวิทยาการต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวข้องกับเวทมนต์คาถา ไสยเวทย์ รวมถึงอาการเจ็บป่วยต่างๆ ด้วยสมุนไพร และพิธีกรรม ที่มีมาช้านานในสังคมและวัฒนธรรมชาวอีสาน หากพูดถึง “หมอธรรม” ในสังคมอีสาน อาจจะนึกถึง “หมอพื้นบ้าน” ซึ่งในหลายพื้นที่มีแยกย่อยประเภทลงไป เช่น “หมอธรรม” ในชุมชนอยู่มากมาย คุณสมบัติของหมอพื้นบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุทั้งผู้ชายและผู้หญิง หรือเป็นพระภิกษุ ที่มีความชำนาญในการรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ชาวบ้านในชุมชนให้การเคารพนับถือ ได้ผ่านการสั่งสมความรู้ภูมิปัญญา และร่ำเรียนเวทมนต์พุทธเวทย์และไสยเวทย์มายาวนาน
กระบวนการที่จะเป็นหมอธรรมนั้นไม่ได้เป็นกันง่ายๆ เพราะผู้ที่จะเป็นนั้นต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องรักษาโรคนั้นๆ ต้องเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม รักษาศีล มีเมตตา ฯลฯ และได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้เรื่องการรักษาจากบรรพบุรุษในวงศ์ตระกูล เช่น จากปู่ พ่อ หรือตา เป็นต้น หรืออาจจะเป็นการสืบทอดจากคนรู้จักในชุมชนก็ได้ และสิ่งที่สำคัญของผู้ที่เป็น “หมอธรรม” ต้องถือข้อคะลำ (ข้อห้าม) ให้ได้ เช่น ไม่ผิดลูกเมียคนอื่น ไม่รับประทานอาหารในงานศพ ไม่รับประทานรกของโคกระบือ ไม่รับประทานอาหารที่เหลือจากผู้อื่น เป็นต้น
หมอธรรม หรือ หมอพื้นบ้าน คือ คนที่ทำหน้าที่รักษาความเจ็บไข้ของคนในสังคมในชุมชน มีความรู้และวิธีการรักษาที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิต สภาพแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรมของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยโรคจากสมุฏฐานของธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือการรักษาโรคด้วยการใช้วิธีการทางไสยศาสตร์ เช่น การเป่า การเข้าทรง ฯลฯ ผสมผสานกันเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการรักษา (ข้อมูลจากสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน เล่ม 9) และประการสำคัญก็คือ ความสัมพันธ์ของผู้เป็นหมอกับคนไข้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หมอพื้นบ้านจะมีความเป็นมิตรหรือความเป็นกันเองกับคนไข้มากกว่าหมอ หรือแพทย์แผนใหม่ในปัจจุบัน โดยแยกประเภทของหมอพื้นบ้าน ในลักษณะหมอธรรมได้เป็น 8 ประเภทดังนี้ หมอดู หรือ หมอมอ ,หมอจ้ำ หรือ เฒ่าจ้ำ , หมอสูด หรือ หมอทำขวัญ , หมอธรรม, หมอตำแย , หมอยาฮากไม้ หรือ หมอสมุนไพร , หมอเป่า หรือ หมอมนต์ และหมอลำผีฟ้าและนางเทียม
หมอธรรม หรือพ่อฮักษา คือ ผู้ที่เรียนคาถาอาคมทางพุทธเวทย์และไสยเวทย์ ปฏิบัติตัวอยู่ในคุณธรรมจริยธรรม มีศีลมีธรรม ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายสูงอายุ หรือเป็นพระภิกษุ สามารถถือข้อคะลำ (ข้อห้าม) ได้อย่างเคร่งครัด เช่น ไม่ผิดลูกเมียคนอื่น ไม่กินรกของโคกระบือ ไม่กินงู ไม่รับประทานอาหารที่เหลือจากผู้อื่น และเป็นคนที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ สามารถขจัดปัดเป่าผีร้ายได้ทุกประเภท เช่น ผีปอบ ผีแม่หม้าย ผีกระสือ ฯลฯ
สังคมอีสานนั้นที่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติ เมื่อคนในชุมชนเกิดเจ็บป่วยด้วยการถูกกระทำจากสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่ชาวบ้านเรียกว่าถูกผีกระทำ เช่น โดนผีปอบเข้ามาสิง ในร่าง โดนผีซ่อนหรืออีสานเรียกว่าผีเสี่ยง และโดนผีหลอกขณะไปทุ่งนาเวลากลางคืน เป็นต้น ผู้ป่วยที่ถูกผีกระทำจะมาให้ “หมอธรรม” รักษา ด้วยการรดน้ำมนต์ ผูกข้อต่อแขน หรือรับวัตถุมงคลเพื่อป้องกันภยันตรายจากการกระทำของผีให้หายเป็นปกติ เมื่อหายเป็นอาการปกติแล้ว ผู้ที่มารักษาจะมา “ปงคาย” คือการถวายเครื่องบูชาค่าครูด้วย ขันธ์ 5, ขันธ์ 8, เงิน 1 สลึง, ผ้าผืนแพรวา 1 ผืน, เงินป่งคายที่สูงที่สุดพบว่าเป็นเงินเพียง 24 บาทเท่านั้น (สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน เล่ม 9)
หากผู้ป่วยที่หายเป็นปกติแล้วไม่มาปงคาย ไม่มาถือเป็นการทำผิดครู แต่ผู้เป็นหมอและครอบครัวจะเดือดร้อนต่างๆ นานา ผู้เป็นหมอธรรมต้องปงคายเองถึงจะหายเป็นปกติ และผู้เป็นหมอจะเรียกเงินค่าครูที่แพงกว่านั้นไม่ได้ เพราะจะผิดครูอีกเช่นกัน อีกประการหนึ่งผู้ที่เป็นหมอธรรมต้องมีจรรยาบรรณของหมอ ต้องรักษาโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากผู้ป่วยอีกด้วย
ในช่วงเข้าพรรษา คนในชุมชนที่ให้การเคารพนับถือหมอธรรม จะนำขันธ์ดอกไม้ธูปเทียนมาบูชา ‘ขึ้นของรักษา’ (อาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองตัวเอง) กับหมอธรรมที่บ้าน ให้หมอธรรมผูกข้อต่อแขน รดน้ำมนต์ให้เพื่อความเป็นสิริมงคล บอกกล่าวให้ลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุข คนที่มาคารวะนั้นเรียกว่า “ลูกเผิ่งลูกเทียน”
ชาวอีสานจะให้ความสำคัญมากไม่ว่าจะทำมาหากินไปมีครอบครัวอยู่ถิ่นไกล เมื่อถึงช่วงเข้าพรรษาต้องกลับบ้านเพื่อเคารพ หมอธรรม ที่เป็นเหมือนตัวแทนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยคุ้มครองตนเองและคนในครอบครัว เมื่อถึงออกพรรษาก็กลับมาคารวะหมอธรรมอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น หมอธรรม อาจเปรียบเสมือนได้ว่าเป็น “ปราชญ์” ของชาวบ้านในสังคมและวัฒนธรรมชาวอีสาน ทำหน้าที่เป็นศูนย์ชุมชนและการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันของคนในชุมชน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมอีสาน ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
สยายปีกรับทรัพย์! เลขเด็ด "นกตาทิพย์" แนวทางรวยงวดใหม่ 2 มกราคม 2569
เขมรหลอกเขมร! สายทหารเขมรหลุดแผนลับ "หักหลังฮุนเซน" รบในจอ รอรับตังค์ โกยเงินหลักล้าน อัดฉีดคลังแสงไม่อั้น
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
สื่ออินเดียมอง ฉลาดล้ำลึก ทิ้งไข่ถล่มคาสิโนเขมรมาเป็นเกราะป้องกันตัว
เจาะลึกเลขเด็ดสำนักดัง งวดประจำวันที่ 2 มกราคม 2569
สาวญี่ปุ่นจัดอีเวนท์พบปะแฟนคลับ แต่ดันไม่มีใครมางานเลย จนกระทั่งเธอโพสต์ขอโทษ
ทภ.2 แฉภาพจรวด BM-21 เขมร ถล่มบ้าน-ชุมชน-วัด-โรงเรียน-รพ.
“รอยแผลบนขาของพลายประตูผา…คือรอยน้ำตาของคนทั้งแผ่นดิน”
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ปิดฉากบทบาทนักการเมือง! "นอท พันธ์ธวัช" ย้ำชัดลาออกพรรคเปลี่ยน พร้อมประกาศจุดยืนไม่หนุนฝ่ายใด
ป้าฟันต้นมะม่วงแก้วขมิ้นเพราะเกลียดเขมรที่ทำร้ายคนและทหารไทย ยอมรับความเกลียดและอยากให้ทหารจัดการเรื่องนี้เร็วๆ





