แสนสิริ-เอพีครองอันดับหนึ่งบริษัทพัฒนาที่ดินปี 2568
ณ ครึ่งแรกของปี 2568 บมจ.แสนสิริ เปิดตัวสูงสุดถึง 1,847 หน่วย หรือ 12% ของหน่วยขายทั้งหมด ส่วนในแง่มูลค่า บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดตัวมูลค่าสูงสุด 21,085 ล้านบาทหรือ 19% ของมูลค่าทั้งหมดที่เปิดตัวใหม่ สถานการณ์ขณะนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจกึ่งผูกขาดแล้ว
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ ณ กลางปี 2568 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 นั้น ตลาดที่อยู่อาศัยเปิดตัวรวมกัน 15,452 หน่วย รวมมูลค่า 110,820 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 7.172 ล้านบาท
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยมีลักษณะกึ่งผูกขาดโดยบริษัทมหาชนและบริษัทลูกของบริษัทมหาชนเหล่านั้นรวมกัน มีจำนวนรวมกัน 10,324 หน่วยจาก 15,452 หน่วยหรือ 67% หรือราวสองในสามของทั้งตลาด ในขณะที่ยังมีบริษัทอีกหลายร้อยแห่งที่พัฒนาที่อยู่อาศัยรวมกันอีกเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น ยิ่งหากพิจารณาในแง่มูลค่าการพัฒนา ยิ่งพบว่า10 บริษัทแรกของครึ่งแรกของปี 2568 พัฒนาที่อยู่อาศัยรวมกันถึง 78,219 ล้านบาท จากทั้งหมด 110,820 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ 71% ของทั้งหมด หรือเกือบถึงสามในสี่ของทั้งตลาด
บริษัทพัฒนาที่ดินอันดับหนึ่งในแง่จำนวนหน่วยก็คือ บมจ.แสนสิริ โดยพัฒนาทั้งหมด 1,847 หน่วย รวมมูลค่า 10,519 หน่วยจากโครงการ 7 แห่ง ทั้งนี้มีราคาขายเฉลี่ยหน่วยละ 5,695 ล้านบาท ส่วนบริษัทอันดับหนึ่งในแง่มูลค่าก็คือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ที่พัฒนารวมกันในมูลค่า 21,085 ล้านบาท หรือประมาณ 19% ของมูลค่าทั้งหมด หรือประมาณหนึ่งในห้าของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดในครึ่งแรกของปี 2568 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) พัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวน 1,661 หน่วย ณ ราคาเฉลี่ย 12.694 ล้านบาท
ในแง่จำนวนหน่วยอันดับที่ 1-5 ได้แก่ บมจ.แสนสิริ (1,847 หน่วย) บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (1,661 หน่วย) บมจ.แอสเซทไวส์ (1,355 หน่วย) บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท (929 หน่วย) และ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (875 หน่วย) ส่วนในแง่มูลค่าปรากฏว่าอันดับ 1-5 ได้แก่ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (21,085 ล้านบาท) บมจ.แสนสิริ (10,519 ล้านบาท) บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (10,362 ล้านบาท) บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ (8,230 ล้านบาท) และ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (8,230 ล้านบาท)
ในครึ่งแรกของปี 2568 นี้ ปรากฏว่า บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่แม้พัฒนาเพียง 1 โครงการ จำนวน 45 หน่วย แต่มูลค่ารวมกันถึง 4,559 ล้านบาท เพราะราคาเฉลี่ยต่อหน่วยในโครงการนี้ มีมูลค่าหน่วยละ 101.3 ล้านบาท ส่วน บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์พัฒนาในราคาเฉลี่ยสูงสุดใน 10 อันดับแรก พัฒนาในราคาเฉลี่ย 20.627 ล้านบาท และอีกบริษัทหนึ่งที่มักเป็น “แชมป์” พัฒนาสินค้าราคาแพงก็คือ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น
ตำแหน่งอันดับหนึ่งของบริษัทพัฒนาที่ดินเปลี่ยนไปเป็นระยะๆ เช่นในช่วงเกือบ 40 ปีก่อนก็คือ บมจ.บางกอกแลนด์ ซึ่งพัฒนาโครงการเป็นเมืองหรือ Township ขนาดใหญ่ที่มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ต่อมาเมื่อ 30 ปีก่อนก็เปลี่ยนเป็น บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ เพราะเน้นการกระจายทำเล เพื่อกระจายความเสี่ยงและแสวงหาโอกาสใหม่ ส่วนเมื่อ 15 ปีก่อน บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กลายเป็นบริษัทอันดับหนึ่งยาวนานเกือบ 10 ปี เพราะนอกจากพัฒนาทุกทำเลแบบเดียวกับ บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์แล้ว ยังพัฒนาแทบทุกระดับราคา เป็นต้น แต่ในปัจจุบัน บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กระจายการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้มากขึ้น ไม่ได้เน้นการพัฒนาเพื่อการขาย จึงมีบริษัทอื่นขึ้นมานำหน้า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
“Cine de Chef โรงภาพยนตร์ระดับโลกกลางกรุงโซล ดูหนังหรู พร้อมดินเนอร์ฝีมือเชฟ”
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
เผยภาพเด็ดหลังน้ำลดหาดใหญ่ทั้งเมืองเต็มไปด้วยขยะ
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาวเน็ตฮือฮา!! พ่อแม่หน้าจีนแต่ลูกออกมากลับหน้าฝรั่ง
หาดใหญ่จมน้ำ รถลูกค้า ‘วิริยะประกันภัย’ ขอเคลมพุ่ง 3,800 คัน





