หุ้นคุณค่า (Value Stock) ในมุมมองของผม
หุ้นคุณค่า (Value Stock) ความหมายค่อนข้างตรงทีเดียว ในความเห็นของผม หุ้นคุณค่า ไม่เชิงจัดว่าเป็นหุ้นบลูชิพ (Blue Chip) เพียงแต่ว่าหุ้นบลูชีพส่วนใหญ่มักจะอยู่ในหุ้นคุณค่ามากกว่า ซึ่งหุ้นบลูชิพ คือหุ้นขนาดใหญ่ที่มีฐานะมั่นคง มีผลการดำเนินงานดีสม่ำเสมอ และหุ้นคุณค่าก็เป็นหุ้นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ เป็นผู้นำธุรกิจ มีแบรนด์เนม มีผลประกอบการเติบโตสม่ำเสมอ มีกำไรสม่ำเสมอ มีฐานลูกค้ามาก และอยู่ในอุตสาหกรรมธุรกิจนั้นมานาน มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ แม้ว่าจะไม่ให้เงินปันผลสูง (High Dividend Yield)
อย่างไรก็ตาม ผมว่าหุ้นคุณค่ามีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ หลายคนชอบแล้วก็เข้าไปศึกษา โดยเฉพาะพวกนักลงทุนประเภทสถาบันทั้งกองทุนในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ราคาก็จะไม่ถูก เมื่อราคาไม่ถูก ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะซื้อหุ้นคุณค่า (Value Stock) ตอนราคาถูกได้ไม่บ่อยนะ
แต่ว่าหุ้นคุณค่าจะอยู่ในลิสต์ของวีไอตลอด และพร้อมที่จะลงทุนเมื่อมีโอกาส เช่น ถ้าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สังเกตว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์จะเก็บเงินปันผลไว้ตลอด เขาจะเก็บเงินสดไว้เยอะมาก จนเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ วันนั้นแหละที่ราคาหุ้นคุณค่าจะลงมาถูก เพียงแต่บางครั้ง เราต้องรอนานมากหลายปี
นิยามของหุ้นคุณค่า จึงต้องมีคำว่า “ถูก” ด้วย ถ้าราคาแพงยังไม่ใช่หุ้นคุณค่า เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ พื้นฐานต้องดี ราคาต้องถูกด้วย ถ้าราคายังไม่ถูก วีไอก็เฝ้ารอโอกาสเมื่อราคาถูกค่อยซื้อ
วิธีมองหุ้นของผมจะเป็นแบบ Bottom Up Approach คือมองเฉพาะเจาะจงเป็นรายบริษัท A, B, C ถ้าราคาหุ้นถูก แต่พื้นฐานไม่ดี ผมก็ไม่ลงทุนนะ ดังนั้น ความหมายที่ชัดเจนคือ ต้องถูกและพื้นฐานดีเท่านั้น นักลงทุนแนววีไอ จะอาศัยจังหวะเวลาและซื้อสะสม
แม้ว่าคุณจะลงทุนซื้อหุ้นได้เหมือน วอร์เรน บัฟเฟตต์ทุกตัว แต่...คุณไม่มีทางรวยเท่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ นั่นก็เพราะว่า คุณไม่มีต้นทุนเท่าที่บัฟเฟตต์มีได้ ผมกำลังอธิบายว่า ไม่ว่าคุณจะลอกเลียนการถือหุ้นแบบวีไอทั้งพอร์ต คุณก็ไม่มีทางที่จะทำกำไรเท่าวีไอคนนั้นได้
ยกตัวอย่าง ผมมีหุ้น MINT (บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)) ต้นทุน 0.80 บาท คุณจะมีหุ้นตัวนี้ที่ราคาทุนเท่าผมได้หรือไม่ล่ะ! แต่เมื่อไรที่หุ้นราคาลงมา 0.80 บาท วันนั้นคุณต้องกล้าซื้อนะ แต่คุณกลับไม่ซื้อ
ด้วยเหตุผลว่า ตอนนั้นสถานการณ์ต่างๆ ดูแย่หมด
หลายคนถามผมว่ามีหุ้นอะไรในพอร์ต ไม่มีประโยชน์ที่จะถามผมนะ เพราะไม่ว่าอย่างไร ต้นทุนไม่มีทางเท่ากันแน่ ดังนั้น คุณควรคิดว่าอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นหุ้นคุณค่า อะไรที่คิดว่าถูก คุณก็เข้าไปซื้อ ไม่ต้องซื้อตามคนอื่น เพราะบางตัวผมซื้อเก็บลงทุนระยะยาว ไม่ซื้อเพิ่มแล้ว เว้นเสียแต่ว่าถ้าราคาลงมาที่ ค่า P/E หรือ P/BV ต่ำ ผมก็ค่อยซื้อ และของบางครั้งต้องรอหลายปีเลยทีเดียว
และขอย้ำอีกครั้ง บางครั้งต้องรอหลายปีเลยทีเดียว
และสิ่งสำคัญที่ผมมักจะเตือนนักลงทุนเก็งกำไร (Speculator) ทุกๆครั้ง คือ การเลือกลงทุนตามกระแสข่าว คุณต้องเข้าใจว่า ข่าวที่ถูกปล่อยลอยออกมาในตลาดทุน กว่าจะมาถึงเรา ไม่รู้ผ่านมากี่หูแล้ว อย่าลืมนะว่า โอกาสที่คุณจะเป็นไม้สุดท้าย ย่อมเกิดขึ้นได้แน่นอน (ฮา...)
นักลงทุนแบบวีไอ จะไม่สนใจลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ เพราะหุ้นเก็งกำไรไม่ใช่หุ้นพื้นฐานแน่ๆ
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุม
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เปิดตำนาน "ฮองเฮาอาภัพ" เมียที่สามีรังเกียจ 20 ปีไม่เคยถวายงาน สู่ผู้ปิดฉากราชวงศ์ชิง เพื่อประชาชนนับล้าน
สถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคม
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เขมรเรียกร้องให้ไทยหยุดโกหกเพื่อปกปิดการรุกราน
สะพานไม้ ตำนานของความแข็งแรงนั้นเกิดขึ้นจากความพยายามจะใช้งาน (สังขละบุรี)
ชายวัย 60 ปี กินแต่ "ของต้ม" หวังสุขภาพดี แต่กลับมีปัญหาสมองตื้อและความจำเสื่อม




