ทำไมเวลาร้องไห้หนัก ๆ ตาถึงบวม ปากถึงเจ่อ? คำอธิบายจากร่างกายที่หลายคนไม่รู้
หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ "ร้องไห้แบบหมดแรง" หรือ "ร้องไห้จนน้ำตาไหลไม่หยุด" ไม่ว่าจะเพราะเศร้า เสียใจ ผิดหวัง หรือแม้แต่ร้องเพราะซึ้งใจและมีความสุขมากเกินไป แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร หลังจากน้ำตาแห้งสนิท ก็จะพบกับผลข้างเคียงที่คล้ายกันเกือบทุกคน คือ ตาบวม และในบางคนถึงขั้นที่ ปากดูเจ่อ หรือใบหน้าดูพองบวม อย่างเห็นได้ชัด จนบางคนแซวว่า “ร้องไห้จนตาปูด ปากปลิ้น”
อาการนี้ไม่ใช่แค่เรื่องตลก แต่เป็น กลไกทางกายภาพ ที่เกิดขึ้นจริงจากกระบวนการในร่างกาย ทั้งระบบไหลเวียนเลือด การทำงานของน้ำตา และการตอบสนองของผิวหนัง
1. น้ำตาไม่ได้แค่ไหลออก แต่มันซึมเข้าเนื้อเยื่อด้วย
ในขณะที่ร้องไห้ โดยเฉพาะเวลาร้องไห้หนัก น้ำตาไม่ได้แค่ไหลผ่านแก้มเท่านั้น แต่ส่วนหนึ่งจะซึมเข้าไปในชั้นผิวหนังรอบดวงตา ซึ่งบริเวณนี้มีผิวบางมากและมีไขมันใต้ผิวเพียงเล็กน้อย จึงทำให้น้ำสะสมได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น และกลายเป็นอาการ ตาบวม
โดยเฉพาะคนที่ร้องไห้แล้ว นอนหลับทั้งน้ำตา ตื่นมาจะยิ่งเห็นชัดว่าบริเวณเปลือกตาและใต้ตาจะบวมมากขึ้นกว่าเดิม เพราะตอนเรานอนราบ ร่างกายจะระบายน้ำออกจากหน้าช้า
2. เส้นเลือดฝอยขยายตัวจากแรงดันอารมณ์และกล้ามเนื้อ
เวลาที่ร้องไห้ เรามักมีอารมณ์ร่วม เช่น ความเครียด เศร้า โกรธ หรือแม้แต่การกลั้นสะอื้น สิ่งเหล่านี้ทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าหดเกร็งและเกิดการบีบอัดของหลอดเลือด เส้นเลือดฝอยโดยเฉพาะบริเวณรอบตา แก้ม จมูก และริมฝีปาก จะขยายตัว หรือบางรายอาจมีเส้นเลือดฝอยแตกเล็กน้อย ทำให้เกิดอาการ บวม แดง หรือคล้ำ ได้
เส้นเลือดเหล่านี้เมื่อตอบสนองต่อแรงดัน ก็จะทำให้พื้นที่รอบดวงตาและปาก “พอง” ออกมาชั่วคราว และเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมบางคนถึงรู้สึกว่า “ปากเจ่อ” หรือ “หน้าดูบานขึ้น” หลังจากร้องไห้
3. ปฏิกิริยาอัตโนมัติของระบบประสาท
การร้องไห้เป็นผลของการทำงานร่วมกันของสมองและระบบประสาทอัตโนมัติ โดยเฉพาะระบบพาราซิมพาเทติก ซึ่งเมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะเครียดหรือเสียใจ จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนบางชนิด เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) และอะดรีนาลีน (Adrenaline)
ฮอร์โมนเหล่านี้มีผลกระทบต่อระบบไหลเวียนเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเพิ่มการไหลเวียนของของเหลว ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการบวมตามใบหน้า
4. พฤติกรรมประกอบระหว่างร้องไห้ก็ส่งผล
หลายคนเวลาเศร้าหรือร้องไห้แรง ๆ จะเผลอใช้มือขยี้ตา หรือปิดหน้าด้วยมือแน่น ๆ การทำแบบนี้จะเพิ่มแรงกดตรงบริเวณดวงตา แก้ม และจมูก ทำให้หลอดเลือดโป่งพอง และเลือดไหลช้า ส่งผลให้ใบหน้าบวมหลังจากนั้น
บางคนยังหายใจแรง สะอื้นแรง หรือกลั้นหายใจเป็นพัก ๆ ซึ่งก็มีผลต่อระบบการหมุนเวียนเลือดเช่นกัน โดยเฉพาะในบริเวณที่เลือดไหลเวียนช้าอย่างริมฝีปาก จึงทำให้ปากดูบวมและแดงคล้ำ
5. อาการข้างเคียงจากการ "ร้องไห้จนหมดแรง"
การร้องไห้ต่อเนื่องนาน ๆ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ น้ำตาที่หลั่งออกมาไม่ใช่แค่น้ำเปล่า แต่มีแร่ธาตุบางชนิดและเอนไซม์ รวมถึงสารต้านจุลชีพต่าง ๆ ด้วย ซึ่งเมื่อสูญเสียออกไปพร้อมน้ำตา ร่างกายจะพยายามดึงน้ำจากส่วนอื่นมาทดแทน ทำให้เกิดอาการบวมน้ำในบางจุด เช่น ดวงตา ปาก หรือจมูก
ในบางรายอาจรู้สึกคัดจมูกหรือหายใจไม่สะดวกหลังร้องไห้ นั่นก็เป็นผลของการที่เยื่อบุในโพรงจมูกบวมและมีเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น รวมถึงมีเมือกไหลออกมามากกว่าปกติ
แล้วทำอย่างไรให้ใบหน้ากลับมาปกติหลังร้องไห้?
หากคุณเพิ่งผ่านช่วงเวลาเศร้าและใบหน้ายังบวมอยู่ ต่อไปนี้คือวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดอาการบวมและช่วยให้คุณกลับมา “ดูดี” ได้เร็วขึ้น
1. ประคบเย็น: ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือเจลเย็นประคบรอบดวงตาและใบหน้า จะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการบวม
2. ดื่มน้ำเปล่า: การดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายระบายโซเดียมและของเสียออก ลดการกักเก็บน้ำใต้ผิว
3. นอนพักในท่าศีรษะสูง: เพื่อให้ของเหลวระบายจากใบหน้ากลับเข้าสู่ระบบไหลเวียน
4. หลีกเลี่ยงการขยี้ตา: การถูหรือกดแรง ๆ จะทำให้เลือดไหลมามากขึ้น ทำให้บวมกว่าเดิม
5. ใช้ครีมหรือเจลลดบวมรอบดวงตา: โดยเฉพาะเจลที่มีคาเฟอีน หรือว่านหางจระเข้ จะช่วยได้มาก
อาการ "ตาบวม ปากเจ่อ" หลังร้องไห้ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ใช่เพราะเรา "หน้าบวมง่าย" หรือ "ร้องไห้ไม่สวย" แต่มันคือกลไกตามธรรมชาติที่เกิดจากการทำงานของหลายระบบในร่างกาย เพื่อรองรับการหลั่งน้ำตาและอารมณ์
ในแง่หนึ่ง มันก็สะท้อนว่าร่างกายของเราซื่อตรงกับความรู้สึกมากแค่ไหน ร้องไห้คือการระบายอารมณ์ที่ดี หากวันหนึ่งคุณต้องเสียน้ำตา อย่ากลัวเลยว่าจะดูแย่หรือบวมไปทั้งหน้า เพราะมันคือหลักฐานของความเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจ
และเมื่อตื่นขึ้นจากความเศร้าแล้ว แค่ดื่มน้ำ ล้างหน้า ยิ้มเบา ๆ ให้กับตัวเอง คุณก็จะกลับมาสวย สดใสได้เหมือนเดิมแน่นอนค่ะ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ปมปริศนาการจากไป! พ่อแม่ 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' อายัดศพ หลังทราบผลชันสูตร
"เป็กกี้ ศรีธัญญา" โพสต์แซ่บถึง "นิยาย" ที่แสนสนุก ใครคือเจ้าของเรื่องตัวจริง?
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย
