กรรมกับความรู้สึกลิขิต
ผมเห็นด้วยกับนิยามที่ว่ากรรมที่ส่งผลมาจากความรู้สึกของเราเอง ต้องยอมรับก่อนว่าการตัดสินใจแต่ละครั้งมาจากความรู้สึกส่วนลึกในจิตใจ ไม่ใช่เหตุผลเสียทีเดียว เราตัดสินใจจากความรู้สึกก่อนที่จะบอกเหตุผลได้ว่าเหตุผลที่ตัดสินใจเช่นนั้นเป็นเพราะอะไร จึงเป็นที่มาของวลีที่ว่า "เอาที่มึงสบายใจ" เพราะการตัดสินใจที่เลือกแล้วสบายใจมันคือการตัดสินใจเพื่อสิ่งที่เราต้องการจริงๆ
กรรมก็จะส่งผลจากจังหวะนี้ เช่น การเลือกแฟน เราทั้งรักทั้งลุ่มหลงผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน พอเมื่อได้คบหาดูใจกันจริงๆแล้วนั้นแทบเข็ดขยาดเพราะได้รู้นิสัยใจคอที่แท้จริงอยู่แล้วร้อนใจ ไม่เป็นสุข ถือเป็นคู่เวรคู่กรรมต่างมาชดใช้ให้กรรมเก่านั้นหมดไป หากเป็นคู่บุญอยู่ด้วยกันส่งเสริมความสำเร็จต่อกัน ช่วยกันนำพาความสำเร็จเข้าสู่ชีวิตด้วยกัน ก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขถือเป็นกรรมดี
เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าการตัดสินใจของเราจะถูกต้องหรือไม่ ซึ่งก็จะต้องมีทั้งถูกและผิดปะปนกันไป นอกจากนี้ยังมีเรื่องความรู้สึกโกรธพยาบาท อาฆาตแค้น เช่น บางคนถูกเดินชนไหล่ในทางเดินแคบๆ ก็จะไม่โกรธพร้อมเอ่ยปากขอโทษก่อนด้วยซ้ำ แต่กับบางคนถูกเดินชนไหล่เข้าก็โกรธแค้น ไม่พอใจรุนแรง ถ้าไม่บ่นอะไรก็มักกลับมามองด้วยหางตาแทน ถือว่าเป็นการผูกใจเจ็บอยู่ ยังไม่อยากให้อภัย เหตุการณ์เดียวกันแต่สร้างความรู้สึกในแต่ละคนไม่เหมือนกัน นี่คือความรู้สึกลิขิต ที่บางครั้งก็ส่งผลให้ผู้คนพบเจอแต่สิ่งดีๆ ประสบความสำเร็จจากการตัดสินใจในแต่ละครั้ง บางครั้งก็ส่งผลให้ผู้คนพบเจอแต่เรื่องเลวร้าย ล้มเหลว หรือไม่ก็บันดาลโทสะทำร้ายผู้อื่นจนนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตนเองได้
ความรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้ แต่จับอาการสังเกตมันได้ คือคอยรับรู้ความโกรธ ความเครียด ความกดดัน ความกลัว รับรู้อารมณ์เหล่านั้นแล้วปล่อยมันไป ไม่ต้องไปคิดถึงว่าโกรธเขาแล้วจะต้องหาทางคิดแผนทำร้ายเขาให้สาสมอย่างไรดี ไม่ต้องขับไสไล่ส่งอารมณ์โกรธ กลัว ยอมรับอารมณ์ที่้เกิดขึ้น แล้วค่อยๆให้อารมณ์เลือนลางจางหายไป ให้เวลากับตัวเองเสียหน่อยเท่านั้นเอง อารมณ์ที่เป็นด้านบวกก็สามารถจับอารมณ์เพื่อรับรู้ได้เช่นกัน รู้ว่าสุข รู้ว่ากำลังเคลิ้มรัก อบอุ่นใจ รู้ว่ากำลังรู้สึกภาคภูมิใจ อาการเหล่านี้หากมีมากไปเราจะยึดติดสุข อยากให้มันเกิดขึ้นกับตนบ่อยๆ แล้วหากมันไม่เกิดขึ้นกับตนอีก เราก็จะเครียด รู้สึกไม่มีคุณค่า หมดกำลังใจ ฯลฯ
การรับรู้ความรู้สึกสุขทุกข์ช่วยให้จิตใจสงบอารมณ์เป็นกลาง จะทำการณ์ใดก็จะสุขุมนุ่มลึกชัดเจนกว่า มีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า การนั่งสมาธิเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยตามจับรับรู้อารมณ์ความรู้สึกได้ทันมากขึ้น ซึ่งต้องค่อยๆใช้เวลา อย่างน้อยในระหว่างการฝึกฝนนั้นก็ช่วยให้เรากำกับสติให้ตัดสินใจถูกต้อง ไม่บันดาลโทสะหุนหันพลันแล่นเลือดร้อนไปเสียก่อน แล้วการส่งผลของกรรมก็จะลดลงไปได้ส่วนหนึ่ง แม้จะไม่สามารถป้องกันกรรมได้ทั้งหมด แต่ถ้าลดกรรมที่จะส่งผลส่วนหนึ่งได้ ก็เป็นเรื่องน่ายินดีแล้วล่ะครับ
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!



