“เรอเปรี้ยวทุกคืน” เรื่องเล็กที่กลายเป็นเรื่องใหญ่
เคยไหม… หลังมื้ออาหารรู้สึก “เรอเปรี้ยว” ขึ้นมาถึงลำคอ บางครั้งมีรสเปรี้ยวหรือขมปนขึ้นมาด้วย รู้สึกแน่นอก แสบร้อนกลางอก จนรบกวนการใช้ชีวิตในแต่ละวัน อาการเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่หากเป็นบ่อย ๆ ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม
สาเหตุของอาการเรอเปรี้ยว
อาการเรอเปรี้ยวมักเกิดจาก กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
1. กรดไหลย้อน (GERD)
กรดไหลย้อนคือภาวะที่หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ ทำให้กรดจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหาร จนเกิดอาการแสบร้อน เรอเปรี้ยว และแน่นหน้าอกได้บ่อยครั้ง
2. พฤติกรรมการกิน
กินอาหารในปริมาณมากเกินไป
กินเร็ว เคี้ยวไม่ละเอียด
นอนทันทีหลังรับประทานอาหาร
ดื่มน้ำอัดลม แอลกอฮอล์ หรือกาแฟเป็นประจำ
3. อาหารกระตุ้นกรด
อาหารที่มีไขมันสูง เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หรืออาหารทอด สามารถกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งกรดออกมามากขึ้น ทำให้มีโอกาสเกิดอาการเรอเปรี้ยวได้ง่าย
4. ความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ
เมื่อเครียด ระบบย่อยอาหารจะทำงานผิดจังหวะ กระเพาะอาจหลั่งกรดออกมาเกินความจำเป็น จนเกิดการระคายเคือง
5. น้ำหนักเกินหรือตั้งครรภ์
ทั้งสองภาวะนี้เพิ่มแรงดันในช่องท้อง ทำให้กรดในกระเพาะถูกดันขึ้นมาง่าย
วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการเรอเปรี้ยว
กินมื้อเล็กแต่บ่อยแทนการกินครั้งละเยอะ ๆ
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด ของมัน
เว้นระยะอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนนอนหลังทานอาหาร
ยกหัวเตียงให้สูงขึ้นเล็กน้อยหากมักเป็นเวลากลางคืน
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม บุหรี่ และกาแฟ
จัดการความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
ลดน้ำหนักหากมีน้ำหนักเกิน
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?
หากคุณมีอาการเรอเปรี้ยวร่วมกับอาการอื่น เช่น
เจ็บหน้าอก
กลืนลำบาก
น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาเจียนบ่อย
อาการเรอเปรี้ยวเรื้อรังหลายสัปดาห์ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัด และรับการรักษาอย่างเหมาะสม
สุขภาพทางเดินอาหารเป็นเรื่องสำคัญ อย่ามองข้ามสัญญาณเล็ก ๆ อย่างการเรอเปรี้ยว เพราะมันอาจเป็นเสียงเตือนจากร่างกายที่ต้องการดูแลมากขึ้น
อ้างอิงจาก: Google

















