คำว่า "เดี๋ยวก่อน" ส่งผลต่อความเครียด และภาวะซึมเศร้า พอสักทีกับคำว่า “เดี๋ยวก่อน” นิสัยผัดวันประกันพรุ่งที่ต้องกำจัด
งานวิจัยทางจิตวิทยา ชี้ว่า คนที่ผัดวันประกันพรุ่งแบบเรื้อรัง (chronic procrastination) มีแนวโน้มที่จะมีระดับความเครียดสูงขึ้น 45% และเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า มากกว่า คนที่ลงมือทำทันที
“เดี๋ยวก่อนนะ…” คำง่าย ๆ ที่ดูไม่มีพิษมีภัย แต่รู้ตัวอีก อาจกลายเป็นสิ่งที่ขังเราไว้ในชีวิตที่เราไม่ได้ต้องการ อาจเป็นกรงขังที่เราสร้างเอง หลายครั้งเราไม่ตัดสินใจทำสิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่เพราะเราไม่อยากทำ แต่เพราะเราบอกตัวเองว่า “เดี๋ยวก่อน”
- เดี๋ยวค่อยเริ่มออกกำลังกาย
- เดี๋ยวค่อยขอโทษคนที่เราทำผิด
- เดี๋ยวค่อยใช้เวลากับครอบครัวให้มากกว่านี้
“เดี๋ยวก่อน” กับความสัมพันธ์ที่หายไป เราอาจเคยคิดว่า
- เดี๋ยวค่อยโทรหาเพื่อนที่ห่างหายกันไป
- เดี๋ยวค่อยพูดคุยกับพ่อแม่ให้มากกว่านี้
- เดี๋ยวค่อยบอกคนที่เรารักว่าเรารักเขา
ผลสำรวจ พบว่า 72% ของผู้ที่สูญเสียคนรักโดยไม่ได้มีโอกาสบอกลา รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ใช้เวลากับเขามากพอ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของภาวะโศกเศร้าเรื้อรัง
“เดี๋ยวก่อน” ทำให้เราติดอยู่ที่เดิม หลาย ๆ อย่างที่เราพูดว่า“สักวัน”มักกลายเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ทำเลย
- “เดี๋ยวค่อยเรียนรู้สิ่งใหม่” สุดท้ายเรายังทำงานเดิมที่ไม่พัฒนา
- “เดี๋ยวค่อยเริ่มทำธุรกิจ” แล้วเวลาก็ผ่านไป 5 ปีโดยที่เรายังอยู่จุดเดิม
- “เดี๋ยวค่อยมีความสุข” แล้วเราก็ใช้ชีวิตอยู่กับความเครียดต่อไป
การศึกษาในด้านพฤติกรรมศาสตร์ พบว่า คนที่ลงมือทำสิ่งที่สำคัญโดยไม่รอให้พร้อม 100% มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ มากกว่า ถึง 80%
คำว่า “เดี๋ยวก่อน” นิสัยผัดวันประกันพรุ่งที่ต้องกำจัด
- เดี๋ยว เพราะ “ขี้เกียจ” การแก้นิสัยอ้อยอิ่งผัดไปเรื่อย ๆ นั้นไม่ยาก คือ ต้องเตือนตัวเองตลอดเวลาว่า ต้องเป็นคนใหม่ให้ได้ โดยทำ To Do List ในแต่ละวัน แจกแจงรายละเอียดให้ละเอียด กำหนดเวลาให้ชัดเจน ว่าตอนนี้ต้องทำอะไร เสร็จแล้วทำอะไรต่อ การกำหนดสิ่งที่ต้องทำในลักษณะที่ถูกจำกัดด้วยเวลาจะรู้สึกว่าถูกกระตุ้นว่า “ต้องทำ” และต้องทำให้เสร็จด้วย
- เดี๋ยว เพราะ “เหนื่อย” ถ้าเหนื่อยก็แค่พัก หายเหนื่อยก็ค่อยกลับมาทำเท่านั้นเอง แม้ว่าจะอยากเปลี่ยนตัวเอง แต่ต้องไม่เครียดจนเกินไป บางครั้งการอู้บ้าง ขี้เกียจบ้าง ก็เป็นผลมาจากความเหนื่อยล้าของร่างกาย หรือความอ่อนไหวทางจิตใจ การพักจึงเป็นการชาร์จพลังกายพลังใจให้กลับมาฮึกเหิมอีกครั้ง
- เดี๋ยว เพราะ “ไม่ว่างจริง ๆ” ให้วางแผนตามที่สะดวก ว่า 24 ชั่วโมง จะทำอะไรบ้าง อย่างเช่น แบ่งเวลาคร่าว ๆ เป็น 3 ช่วง คือ 8-8-8 คือ ทำงาน 8 ชั่วโมง พักผ่อน 8 ชั่วโมง และทำเรื่องส่วนตัว 8 ชั่วโมง พยายามบริหารเวลาให้ได้ตามนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ให้หยุดเมื่อหมดเวลาสำหรับกิจกรรมนั้น และอย่าให้ไปกระทบกับเวลาช่วงอื่น วิธีนี้ช่วยให้จัดการชีวิตได้ง่ายขึ้น
- เดี๋ยว เพราะ “ติดโทรศัพท์” ให้ “ตั้งเวลาปิด” โหลดแอปพลิชันที่สามารถตั้งปิดแอปฯ ทุกแอปฯ การที่โทรศัพท์ดับไปต่อหน้าต่อตาเป็นสัญญาณที่บอกว่าได้เวลาเปลี่ยนกิจกรรม หาอย่างอื่นทำแก้เบื่อ อย่างน้อย ๆ ก็อาจจะทำเสร็จไป 1 อย่าง
- เดี๋ยว เพราะ “ไม่มีเป้าหมาย” ให้ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ทำเสร็จง่าย ๆ เมื่อทำได้สำเร็จ จะรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชนะ เป้าหมายใหญ่ ๆ จะตามมาเอง เพราะทำให้มีแรงบันดาลใจจะทำเรื่องที่ท้าทายกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม และต้องสำเร็จด้วย เพื่อจะยังชนะตัวเองได้ต่อไป
อ้างอิงจาก: https://tonkit360.com/96705
https://www.tnnthailand.com/health/190499/





















