องค์การสหประชาชาติ (UN) จากหน่วย UNODC (สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ) ระบุชี้ชัดว่า กัมพูชาแซงหน้าขึ้นแท่นเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก
รายงานจากสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) รวมถึงข้อมูลจากหน่วยงานข่าวกรองและการวิเคราะห์ระหว่างประเทศหลายแห่ง ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์อาชญากรรมทางไซเบอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กัมพูชา ซึ่งกำลังกลายเป็น ศูนย์กลางของเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยีข้ามชาติระดับโลก แทนที่ภาพจำเดิมที่หลายฝ่ายมักมองว่าเมียนมาเป็นประเทศต้นทางหลักของปัญหาดังกล่าว
จากรายงานของ UNODC ซึ่งเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ ชี้ให้เห็นว่า กิจกรรมการฉ้อโกงทางไซเบอร์ในกัมพูชาได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วและครอบคลุมหลายพื้นที่ ไม่เพียงแต่บริเวณชายแดนเท่านั้น แต่ยังลุกลามเข้าสู่เมืองใหญ่ เช่น กรุงพนมเปญ เมืองบาเวต และเมืองพระสีหนุวิลล์ โดยอุตสาหกรรมนี้ประกอบด้วยกิจกรรมหลอกลวงทางออนไลน์ การดำเนินศูนย์รับโทรศัพท์ (Call Center Scam) การฟอกเงิน และอาชญากรรมทางดิจิทัลรูปแบบต่าง ๆ
ทั้งนี้ ผลประโยชน์จากกิจกรรมเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมกับบุคคลใกล้ชิดกับชนชั้นนำทางการเมืองของกัมพูชา ซึ่งเป็นข้อสังเกตสำคัญที่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานสืบสวนระหว่างประเทศ
หนึ่งในกลุ่มที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางคือ Huione Group ซึ่งถูกระบุว่าเป็นช่องทางการเงินสำคัญที่ใช้ในการฟอกเงินที่ได้มาจากอาชญากรรมไซเบอร์ โดยสำนักงานเฝ้าระวังอาชญากรรมทางการเงินของสหรัฐฯ (FinCEN) เปิดเผยว่า กลุ่ม Huione มีบทบาทในการฟอกเงินให้กับ กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ และ ขบวนการหลอกลวง “pig butchering” หรือการลวงเหยื่อให้ลงทุนผ่านความสัมพันธ์เสมือนจริง ก่อนจะยักยอกทรัพย์สินไป
จากข้อมูลที่รวบรวมระหว่างเดือนสิงหาคม 2021 ถึงมกราคม 2025 พบว่า Huione Group มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินจำนวนมหาศาล อาทิ:
37 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการโจมตีไซเบอร์ของเกาหลีเหนือ
36 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการหลอกลวงด้านสินทรัพย์ดิจิทัล
300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการฉ้อโกงรูปแบบอื่น ๆ
ล่าสุด ธนาคารแห่งชาติกัมพูชาได้เพิกถอนใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจของ Huione Pay เมื่อเดือนมีนาคม 2025 หลังตรวจพบการละเมิดกฎระเบียบหลายประการ
ขณะเดียวกัน บริษัทด้านนิติวิทยาศาสตร์บล็อกเชนชื่อ Elliptic ได้ระบุว่า “Huione Guarantee” คือ ตลาดอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยยอดธุรกรรมที่ถูกบันทึกไว้มากกว่า 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8.8 แสนล้านบาท
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (CCIB) ของไทย ก็เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนว่า พบความเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายฉ้อโกงออนไลน์ในไทยกับบริษัทต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในกัมพูชา โดยมีการโอนเงินที่หลอกลวงจากผู้เสียหายผ่านบัญชีม้า และนำไปแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนฟอกกลับเป็นเงินสดและทรัพย์สินจริง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ นายสก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “Huione Group ได้กลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้กระทำความผิดทางไซเบอร์ รวมถึงเกาหลีเหนือและขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ใช้เป็นช่องทางหลักในการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย ขโมยเงินจากเหยื่อหลายพันล้านดอลลาร์”
รายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ในกัมพูชาเป็นภัยคุกคามระดับโลก และอาจส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยโดยตรง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และความน่าเชื่อถือในระบบการเงิน









