นอนให้พอดี... แล้วเท่าไหร่ถึงเรียกว่าพอดี?
เรื่องจริงของการนอน ที่ไม่ใช่แค่นอนเยอะแล้วจะดี
“แก... ชั้นนอน 10 ชั่วโมงทุกวันแต่ยังง่วงอยู่เลยอะ มันผิดตรงไหน?”
ฟังดูเหมือนจะสุขภาพดีใช่ไหม? แต่นี่อาจเป็นสัญญาณว่า เรานอน “เกิน” ความพอดี!
ใช่แล้วจ้า… การนอนก็เหมือนกับอาหาร — น้อยไปก็ไม่ดี เยอะไปก็ไม่เวิร์ค 💤
วันนี้เราจะชวนมาเปิดโลกเรื่อง “การนอน” ที่ไม่เคยมีใครบอกแบบสนุกๆ
เพราะเอาจริงนะ หลายคนเข้าใจผิดเรื่องนี้มานานมากกก
😴 นอนเยอะ = พักผ่อนเพียงพอ? ไม่จริงเสมอไป!
เราโตมากับความเชื่อว่า “นอนเยอะ = ดี” แต่จริงๆ แล้ว “นอนให้พอดี” ต่างหากที่สำคัญกว่า
ถ้านอน “มากเกินไป” จะเกิดอะไรขึ้น?
-
สมองตื้อเหมือนโดนปิดสวิตช์
-
เพลีย ง่วงทั้งวัน (ทั้งที่นอนมา 9 ชั่วโมงแล้ว)
-
ระบบเผาผลาญแย่ลง → อ้วนง่ายขึ้น!
-
เสี่ยงโรคซึมเศร้าและโรคหัวใจ 😨
แล้วถ้านอน “น้อยเกินไป” ล่ะ?
-
สมองล้า ความจำสั้น
-
ขี้หงุดหงิดแบบไม่รู้ตัว
-
ภูมิต้านทานตก → ป่วยง่าย
-
ใต้ตาดำเหมือนหมีแพนด้า 🐼
สรุปคือ... นอนเยอะเกิน น้อยเกิน = พังพอๆ กัน
แต่ถ้า “พอดี” = ตื่นมาปุ๊บ รู้สึกเฟรชชชช ✨
🕒 แล้ว... “นอนพอดี” คือกี่ชั่วโมงแน่ล่ะ?
คำตอบอยู่ตรงนี้เลย 👇
ตารางเวลานอนตามวัย (จากงานวิจัยของ National Sleep Foundation)
ช่วงอายุ | ชั่วโมงที่แนะนำต่อคืน |
---|---|
เด็กเล็ก (3–5 ปี) | 10–13 ชม. |
เด็กโต (6–13 ปี) | 9–11 ชม. |
วัยรุ่น (14–17 ปี) | 8–10 ชม. |
วัยผู้ใหญ่ (18–64 ปี) | 7–9 ชม. |
ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) | 7–8 ชม. |
💡 สำหรับคนส่วนใหญ่:
ถ้าคุณอายุ 20+ แล้ว การนอนประมาณ 7–8 ชั่วโมง คือกำลังดี ไม่สั้น ไม่ยาวเกินไป
แต่! สิ่งสำคัญคือคุณภาพการนอนด้วยนะ ไม่ใช่นอน 8 ชั่วโมงแล้วฝันร้ายยันเช้า อันนั้นไม่ช่วยอะไรเลยจ้า 😂
🛌 เช็กตัวเองด่วน! คุณนอน "พอดี" แล้วหรือยัง?
ลองดูสิว่า คุณมีอาการแบบนี้บ้างไหม:
อาการ | ความหมาย |
---|---|
ง่วงหลังตื่นแม้จะนอนครบ | อาจนอนเกินไป หรือคุณภาพการนอนไม่ดี |
ตื่นกลางดึกบ่อย | เครียด / วิตกกังวล / ดื่มกาแฟก่อนนอน |
นอนไม่หลับแม้จะง่วง | ร่างกายยังไม่เข้าสู่โหมดพัก |
นอนแค่ 5 ชม. แต่ตื่นมาสดใส | ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป อาจชินแต่ร่างกายสะสมความล้าอยู่ |
📌 วิธีเช็กง่าย ๆ:
ถ้าตื่นมาแล้ว ไม่อยาก snooze นาฬิกา 7 รอบ แปลว่าคุณอาจนอนพอดีแล้วล่ะ 👏
⏰ 4 เคล็ดลับนอนให้ "พอดีและดี" ที่ทำได้จริง!
1. ⛅ จัดเวลาเข้านอนให้เหมือนเด็กประถม (แต่ทำจริง ๆ นะ)
พอพูดว่า "เข้านอนเร็ว" หลายคนทำหน้าเหมือนโดนยึดมือถือ 😅
แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าเรานอนได้ภายใน 22.00–23.00 น. ทุกวัน
ร่างกายจะเริ่มรีเซตระบบฮอร์โมนแบบอัตโนมัติ
-
ฮอร์โมนเจริญเติบโตทำงานดี
-
ผิวสวย หน้าใสขึ้นจริง!
-
อารมณ์ดีแบบไม่ต้องพึ่งกาแฟ ☕
2. 📱 งดมือถือก่อนนอนอย่างน้อย 30 นาที
รู้แหละ... TikTok มันน่าดูตอนดึก 😂
แต่แสงสีฟ้าจากหน้าจอจะทำให้สมองสับสนว่า "ยังไม่ถึงเวลานอน" ส่งผลให้ เมลาโทนินไม่หลั่ง → นอนไม่ลึก
💡 วิธีแก้:
-
ปิดไฟ + เปลี่ยนมาอ่านหนังสือแทน
-
เปิดเพลงบรรเลงหรือเสียงธรรมชาติ
3. 🌿 จัดห้องนอนให้เหมาะกับการหลับ
ห้องรก ๆ = สมองรกตาม
ลองจัดห้องนอนให้เรียบง่าย ใช้โทนสีอ่อน (พาสเทลได้เลย!)
ลดของเล่นแสง / เสียง / กลิ่นฉุน
ยิ่งเรียบ ยิ่งหลับง่าย
ไม่ต้องถึงขั้นนั่งสมาธิขาไขว้
แค่ทำอะไรเบา ๆ ที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น:
-
จด gratitude journal: วันนี้มีเรื่องอะไรดี ๆ บ้าง
-
ยืดเส้นเบา ๆ (โยคะสำหรับคนนอนหลับ)
-
ดื่มนมอุ่นๆ หรือน้ำอุ่นผสมมะนาว 🍋
💬 สรุปส่งท้าย: การนอน = ยารักษาโรคที่ฟรีและดีที่สุด
เรื่องนอนมันไม่ได้ “ดูเหมือนจะง่าย” แต่มันคือหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของสุขภาพที่คนมองข้าม
เราออกกำลังกายได้ทุกวัน
เรากินคลีนได้บ้างเป็นบางมื้อ
แต่ถ้า “นอนไม่พอ” หรือ “นอนไม่ดี” ...ทุกอย่างจะพังแบบไม่รู้ตัว
เอาละค่ะ...พร้อมจะลองนอนให้พอดี คืนนี้แล้วหรือยัง?
งั้นวางมือถือแล้วไปหาเตียงเถอะนะ 😴💖
(แต่กดเซฟบทความนี้ไว้ก่อนน้า!)


















