ตำนานสามล้อถูกหวย ตำนานสอนใจที่ไม่ใช่แค่นิทาน
คุณเคยได้ยินคำว่า "สามล้อถูกหวย" หรือไม่? คำนี้มักใช้เปรียบเปรยถึงคนที่โชคดีถูกรางวัลใหญ่ แต่กลับใช้เงินหมดไปอย่างรวดเร็วราวกับตำนานปรัมปรา แต่ความจริงแล้ว เรื่องนี้มีที่มาที่ไปและเกิดขึ้นจริง โดยมีจุดเริ่มต้นย้อนกลับไปเมื่อ 1 เมษายน 2533 หรือกว่า 30 ปีที่แล้ว กับเรื่องราวของพระรูปหนึ่งนามว่า พระเพลิน
ในวันนั้น หลังประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 เงินก้อนใหญ่ได้ตกเป็นของพระเพลิน ซึ่งขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดในจังหวัดชัยนาท ด้วยความไม่ประสีประสา ท่านเข้าใจผิดว่าถูกเพียงเลขท้าย 3 ตัว จึงเดินทางไปขึ้นรางวัลที่สถานีรถไฟตาคลี แม่ค้าผู้รับซื้อรางวัลทักท้วงว่าเลขท้าย 3 ตัวไม่ถือเป็นรางวัลใหญ่ แต่พระเพลินยืนยันหนักแน่น จนแม่ค้าขอดูลอตเตอรี่และพบว่าท่านถูกรางวัลที่ 1 ผู้คนในสถานีต่างพากันแสดงความยินดีกับพระเพลิน
เดิมทีพระเพลินเป็นชาวตาคลี นครสวรรค์ เติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน อายุ 14 ปี ท่านตัดสินใจออกจากบ้านไปเผชิญโชค จนกระทั่งได้อาศัยอยู่กับสองสามีภรรยาที่ผาทองเขา ซึ่งรับท่านเป็นลูกบุญธรรม ต่อมาครอบครัวย้ายไปปากช่อง โคราช นายเพลินช่วยพ่อแม่ทำสวนทำไร่ แต่ชีวิตก็พลิกผันอีกครั้งเมื่อท่านถูกตัดสินจำคุก 5 ปี ในคดีที่มวกเหล็ก หลังพ้นโทษ ท่านกลายเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีงานทำ เป็นภาระของครอบครัว ด้วยความหวังดี พ่อแม่บุญธรรมจึงให้ท่านบวชเพื่อหวังให้ชีวิตดีขึ้น
หลังจากบวชได้ 3 พรรษา พระเพลินย้ายมาอยู่ที่บ้านลุงบัว ชัยนาท และที่นี่เองที่ท่านได้ซื้อลอตเตอรี่คู่หนึ่งซึ่งต่อมาถูกรางวัลที่ 1 อย่างไม่คาดฝัน ด้วยเงินรางวัล 6 ล้านบาท (เทียบกับราคาทองคำในสมัยนั้นบาทละ 4,000-5,000 บาท ถือเป็นเงินมหาศาล) นายเพลินตัดสินใจลาสิกขาบท ชีวิตของท่านเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง จากคนเร่ร่อนกลับกลายเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน ข่าวการถูกหวยแพร่สะพัด ผู้คนมากมายรวมถึงญาติพี่น้องที่เคยห่างหายไปก็ปรากฏตัวขึ้น เพื่อเข้ามาขอเงิน
นายเพลิน ซึ่งเป็นคนไม่รู้หนังสือและไม่เข้าใจค่าของเงิน ใช้เงิน 6 ล้านบาท หมดภายใน 8 เดือน จากคำบอกเล่าของคนรู้จัก ท่านใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย เที่ยวเตร่กลางคืน ครั้งละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท นอกจากนี้ญาติพี่น้องก็เข้ามาขอเงินไม่ขาดสาย ท่านซื้อรถกระบะให้พ่อแม่บุญธรรม 2 คัน และรถบรรทุกอีก 1 คัน รวมทั้งซื้อบ้าน 1 หลัง แต่สุดท้ายบ้านก็ไม่ใช่ของท่านเพราะใช้ชื่อพ่อบุญธรรมเป็นผู้ซื้อ
เมื่อเงินหมด ชีวิตของนายเพลินก็กลับไปเป็นคนเดิม ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่เคยรุมล้อมก็หายหน้าไปหมด ท่านตัดสินใจนำเงินก้อนสุดท้าย 2,000 บาท ซื้อรถสามล้อเพื่อเลี้ยงชีพและภรรยาที่เพิ่งแต่งงานด้วยกันไม่นาน แต่ชีวิตสมรสก็ไปไม่รอด ทั้งคู่หย่าร้างกันในปี 2545 เพราะฝ่ายหญิงทนความลำบากไม่ไหว
ปัจจุบัน นายเพลินกลับไปบวชอีกครั้งที่วัดในจังหวัดนครสวรรค์ ท่านเคยกล่าวกับนักข่าวว่าหวังว่าจะถูกหวยอีกครั้งเพื่อนำเงินไปเขียนหนังสือเรื่อง "เศรษฐีฟ้าผ่า" ล่าสุดในปี 2563 ท่านกล่าวว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นอดีตที่ท่านละทิ้งไปหมดแล้ว และเงิน 6 ล้านบาทนั้น ญาติพี่น้องนำไปใช้จนหมดเช่นกัน
เรื่องราวของกำนันสามล้อถูกหวยสะท้อนให้เห็นว่า การมีเงินจำนวนมากจากการเสี่ยงโชค หากไม่รู้จักเก็บรู้จักใช้ให้คุ้มค่า สักวันหนึ่งเงินก็ต้องหมดไป ตำนานนี้จึงเป็นบทเรียนอันล้ำค่าสำหรับทุกคนในปัจจุบัน เตือนใจว่าความร่ำรวยที่ยั่งยืนไม่ใช่การมุ่งหาเงินมากๆ หรือการถูกหวยบ่อยๆ แต่คือการเพิ่มพูนความรู้ ฝึกฝนวินัย และพัฒนาทักษะทางการเงิน เพราะเมื่อนั้น เงินจะเพิ่มพูนขึ้นตามความรู้ความสามารถของเราเอง มิฉะนั้น เราก็อาจกลายเป็นอีกหนึ่งคนที่เหมือน "สามล้อถูกหวย" ที่มีเงินมาก แต่สุดท้ายก็กลับไปอยู่ในสภาพเดิม
















