เงินเก็บไม่มีแต่หนี้เพียบ"ชีวิตคนไทยที่ไร้ทางเลือก"
ชีวิตที่ไร้ทางเลือกของคนไทยไม่ใช่เก็บเงินไม่ได้แต่ไม่มีเงินให้เก็บ
1. ปัญหาหลักไม่มีเงินออมและมีหนี้สิน
คนไทยจำนวนมากเผชิญกับภาวะไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินสำรองฉุกเฉิน และมีหนี้สินจำนวนมาก ซึ่งเป็นกับดักที่ทำให้ทางเลือกในชีวิตลดน้อยลง สถานการณ์ "เดือนชนเดือน" เป็นเรื่องปกติสำหรับคนไทยหลายล้านคน เมื่อรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย การกู้เงินจึงเป็นทางเลือกที่ตามมา
2. ผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเงินที่เปราะบาง
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันการตกงาน การเจ็บป่วย หรือเหตุฉุกเฉิน ทำให้ชีวิตสะดุดและล้มทั้งยืน การตกงานเป็นเรื่องใกล้ตัวแนวโน้มการเลิกจ้าง (layoff) และการลดกำลังคนเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก รวมถึงในไทย โดยเฉพาะภาคเทคโนโลยีที่ AI อาจเข้ามาแทนที่
3. ข้อมูลชี้ชัดถึงความเปราะบาง
กว่า 120 ล้านบัญชีเงินฝากในไทยมีเงินต่ำกว่า 50,000 บาทครัวเรือนไทยกว่า 1 ใน 3 ที่มีหนี้สินจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ใน 5 ปีข้างหน้าหนี้ครัวเรือนไทยสูงถึง 89% ของ GDP ในไตรมาส 3 ปี 2024 และเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอัตราหนี้เสีย (NPL) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึง 9% ในช่วงต้นปี 2025
4. สาเหตุที่คนไทยไม่มีเงินเก็บ: ปัญหาระดับโครงสร้าง
รายได้ไม่ทันค่าครองชีพ: เงินเดือนคนไทยเพิ่มขึ้นเพียง 1.3% ในปี 2024 ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้นต่อเนื่อง แรงงานนอกระบบจำนวนมากคนไทยกว่า 53% หรือประมาณ 21 ล้านคนทำงานนอกระบบ มีรายได้เฉลี่ยต่ำเพียง 8,513 บาทต่อเดือนและไม่แน่นอน ทำให้ไม่พอใช้และเก็บเงินไม่ได้ความจำเป็นในการกู้ยืมการกู้เงินไม่ใช่เพราะความฟุ่มเฟือย แต่เป็นเพราะความจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต เมื่อไม่มีเงินสำรอง การกู้เงินจึงเป็นทางเลือกเดียวกับดักหนี้การกู้เงินเพื่อประคับประคองชีวิต นำมาซึ่งดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทุกเดือน ทำให้เงินเหลือน้อยลง และต้องกู้เพิ่ม เกิดเป็นวงจรหนี้ที่ยากจะหลุดพ้น
5. ผลกระทบเชิงลึกต่อชีวิตและสังคม
ทางเลือกในชีวิตน้อยลงการไม่มีเงินสำรองทำให้ไม่กล้าปฏิเสธงานที่ไม่ชอบ หรือออกจากสภาพแวดล้อมที่ไม่สบายใจ แม้แต่โอกาสในการพัฒนาตนเองก็เป็นเรื่องไกลตัวผลกระทบต่อสุขภาพจิตความเครียดทางการเงินสะสมนำไปสู่ภาวะ "Doom Spiral" หรือวงวนแห่งการคิดลบ ทำให้ไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งอื่นได้ และอาจตัดสินใจผิดพลาดอนาคตที่ไม่แน่นอนการไม่มีเงินเก็บส่งผลกระทบระยะยาว โดยเฉพาะเรื่องการเกษียณ หลายคนอาจต้องทำงานจนกว่าร่างกายจะไม่ไหว
6. แนวทางการแก้ไข
การแก้ปัญหานี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในหลายระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับนโยบาย เพื่อจัดการกับเรื่องค่าแรงและค่าครองชีพสำหรับบุคคลทั่วไปศึกษาจากผู้ที่สามารถจัดการการเงินได้ดี โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้และพื้นฐานใกล้เคียงกัน เพื่อนำมาปรับใช้


















