อาเตอเนอิส เดอ มงเตสปอง ราชินีตัวจริงแห่งแวร์ซายส์
อาเตอเนอิส เดอ มงเตสปอง หรือชื่อเดิม ฟรองซัวส์ เดอ โรเชชัวร์ เดอ มอร์เตมาร์ เกิดเมื่อปี 1640 เธอมาจากตระกูลขุนนางเก่าแก่และได้รับการอบรมสั่งสอนในคอนแวนต์ ฟรองซัวส์เป็นคนฉลาดเฉลียว มีไหวพริบ และเคร่งครัดในศาสนา หลังจากการเปลี่ยนชื่อเป็นอาเตอเนอิส เพื่อให้เข้ากับกระแสฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เธอก็ได้เข้าสู่ราชสำนักและแต่งงานกับ หลุยส์ อองรี เดอ กงดรัง มงเตสปอง
ชีวิตแต่งงานของอาเตอเนอิสไม่ราบรื่นนัก เนื่องจากสามีเป็นคนสุรุ่ยสุร่าย ทำให้ครอบครัวประสบปัญหาทางการเงิน อาเตอเนอิสจึงพยายามเข้าหา พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เพื่อหวังจะได้เป็นคนโปรดและได้รับเงินทองมาจุนเจือครอบครัว ในช่วงแรก พระเจ้าหลุยส์ไม่สนใจเธอมากนัก เพราะทรงหลงรัก หลุยส์ เดอ ลา วาเลียร์ นางสนมคนโปรดในขณะนั้นอย่างหัวปักหัวปำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งหลุยส์ เดอ ลา วาเลียร์ และพระราชินีมารี-เทเรซา ทรงพระครรภ์พร้อมกัน ทำให้ไม่สามารถถวายความสำราญแก่พระเจ้าหลุยส์ได้อย่างเต็มที่ ทั้งสองจึงชวนอาเตอเนอิสให้มาร่วมโต๊ะเสวย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พระองค์หันมาสนใจอาเตอเนอิสในวัย 26 ปี และรับเธอเป็นพระสนมลับ
อำนาจและบารมี
ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กับอาเตอเนอิสเป็นเรื่องซับซ้อนและอื้อฉาว เนื่องจากทั้งสองต่างก็นอกใจคู่สมรสของตนเอง แม้ศาสนจักรจะประณามอย่างหนัก แต่ด้วยไหวพริบ ความงาม และอารมณ์ขันที่เฉียบคม อาเตอเนอิสก็สามารถมัดใจพระเจ้าหลุยส์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอชื่นชอบการเลียนแบบท่าทางและคำพูดของขุนนางในวังด้วยอารมณ์ขันแบบ "เมม่า" ที่บิดาของเธอเคยทำ ซึ่งทำให้พระองค์ชื่นชอบเป็นพิเศษ
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงโปรดปรานอาเตอเนอิสเป็นอย่างมาก พระองค์ประทานห้องชุดในแวร์ซายส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าของพระราชินี มอบเงินปีจำนวนมากให้เธอใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย และประทานปราสาท 2 หลัง ได้แก่ ชาโตเดอคลูนี และ ตรียานง เดอ พอร์ซเลน ความหรูหราฟุ่มเฟือยของอาเตอเนอิสเปรียบเสมือนตัวแทนที่มีชีวิตของพระราชวังแวร์ซายส์ที่พระองค์สร้างขึ้น
จุดจบแห่งความรุ่งโรจน์
เมื่อเวลาผ่านไป ความงามของอาเตอเนอิสเริ่มลดลงจากการคลอดบุตรถึง 7 คน และการใช้ชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือย พระเจ้าหลุยส์เริ่มเบื่อหน่ายและหันมาสนใจ มาดาม เดอ มังต์นง ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงของบุตรของพระองค์กับอาเตอเนอิสเอง มาดาม เดอ มังต์นง เป็นหญิงสาวที่ฉลาด รักการเรียนรู้ และมีความเคร่งศาสนา ทำให้พระเจ้าหลุยส์รู้สึกสบายใจและชื่นชมเธอเป็นอย่างมาก
ในปี 1675 เกิดคดีวางยาพิษครั้งใหญ่ในปารีส และชื่อของอาเตอเนอิสก็เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แม้ว่านักประวัติศาสตร์จะมองว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นอาจไม่เป็นความจริงทั้งหมด แต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ก็ใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้ออ้างในการเนรเทศอาเตอเนอิสออกจากวัง
อาเตอเนอิสใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในคอนแวนต์แห่งหนึ่งในปารีส โดยอุทิศตนให้กับศาสนา เธอเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 1707 ด้วยวัยเกือบ 67 ปี เรื่องราวของอาเตอเนอิส เดอ มงเตสปอง สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของสตรีผู้ทรงอิทธิพลในราชสำนักฝรั่งเศส ผู้ซึ่งใช้ความงาม สติปัญญา และไหวพริบในการสร้างอำนาจและอิทธิพลให้แก่ตนเอง แม้ท้ายที่สุดเธอจะต้องพ่ายแพ้ต่อโชคชะตา แต่เรื่องราวของเธอก็ยังคงเป็นที่กล่าวขวัญในประวัติศาสตร์


















