กำเนิดของ JBC: เมื่อความขัดแย้งต้องถูกเจรจา
JBC: กลไกทวิภาคีในพื้นที่เปราะบาง
เมื่อชายแดนไม่ใช่เส้นตรง และอธิปไตยไม่ใช่คำเดียว
ชายแดนคือเส้นบาง ๆ ที่แบ่งแผ่นดิน แต่ไม่เคยแบ่งความรู้สึกของผู้คน ความเชื่อ และผลประโยชน์ออกจากกันอย่างชัดเจน นี่คือเหตุผลว่าทำไมความขัดแย้งเขตแดนระหว่างไทย–กัมพูชา จึงไม่เคยหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในสมรภูมิที่ข้อมูลแผนที่ ความทรงจำ และการเมืองทับซ้อนกันอย่างซับซ้อน กลไกหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อคานอำนาจการเผชิญหน้าโดยตรง และประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม กลายเป็นตัวละครสำคัญเสมอมา—นั่นคือ "คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา" หรือที่เรียกกันว่า JBC (Joint Boundary Commission)
กำเนิดของ JBC: เมื่อความขัดแย้งต้องถูกเจรจา
JBC เกิดจากความพยายามของทั้งสองประเทศในการ แยกแยะความขัดแย้งออกจากความสัมพันธ์ระดับชาติ และ “จัดการปัญหาทางเทคนิคในกรอบทางการเมืองอย่างมีเหตุผล”
แม้จะไม่ใช่กลไกถาวรระดับรัฐธรรมนูญ แต่ JBC ถือเป็นกรอบเจรจาที่ ยึดโยงกับประวัติศาสตร์ ความมั่นคง และกฎหมายระหว่างประเทศ
จุดเริ่มต้น:
-
JBC ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการหลังจากการประชุมความร่วมมือไทย–กัมพูชาเมื่อปี 2543 ซึ่งเกิดจากความตึงเครียดเรื่องเขตแดนบริเวณ “ปราสาทพระวิหาร” และพื้นที่ใกล้เคียง
-
ความร่วมมืออยู่ภายใต้หลักการว่า “ไทย–กัมพูชาจะใช้วิธีสันติในการแก้ปัญหาพรมแดน และจะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังทหาร”
ภารกิจของ JBC: มากกว่าการลากเส้นเขตแดน
ภารกิจของ JBC ไม่ใช่แค่การลากเส้นเขตแดนลงบนแผนที่ หากแต่มีรายละเอียดในเชิงยุทธศาสตร์และเทคนิคจำนวนมาก ได้แก่:
1. ตรวจสอบและรับรองแนวเขตแดนร่วมกัน
-
อาศัย “แผนที่อาณานิคม” หลายฉบับของฝรั่งเศส (ที่เคยปกครองกัมพูชา) และเอกสารจากฝั่งไทย มาทำการเปรียบเทียบ
-
กระบวนการนี้ใช้เวลานานเพราะแผนที่ไม่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะในจุดยุทธศาสตร์ เช่น บริเวณ ภูมะเขือ ปราสาทตาเมือน ปราสาทพระวิหาร
2. การปักปันหลักเขต
-
หลังจากตรวจสอบแนวเขตแดนแล้ว JBC มีหน้าที่ร่วมกัน “ปักหลักเขต” จริงในพื้นที่ ซึ่งต้องอาศัยการสำรวจภาคสนาม และต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลทั้งสองฝ่าย
3. การจัดทำเอกสารแผนที่ชุดใหม่
-
เมื่อได้ข้อสรุปร่วมกัน JBC จะจัดทำแผนที่ใหม่ซึ่ง “ทั้งสองประเทศเห็นพ้องต้องกัน” และใช้แทนแผนที่อาณานิคมที่เป็นข้อพิพาท
4. กลไกกันชนเพื่อเลี่ยงความรุนแรง
-
ในกรณีที่มีความเห็นไม่ตรงกัน JBC จะมีบทบาทชะลอการเผชิญหน้าทางทหาร โดยเสนอให้ฝ่ายต่าง ๆ หยุดกิจกรรมในพื้นที่พิพาทชั่วคราวจนกว่าจะมีข้อตกลง
พลังและข้อจำกัดของ JBC
แม้ JBC จะมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์สูง แต่ก็มีข้อจำกัดเชิงโครงสร้างที่ควรเข้าใจ:
▪ ข้อได้เปรียบ:
-
ลดโอกาสเกิดปะทะทางทหาร ด้วยการมีเวทีเจรจาถาวร
-
สร้างสถิติและหลักฐานที่ใช้ได้ในเวทีโลก เช่น ศาลโลก (ICJ) หรืออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
-
ใช้ได้กับทุกพื้นที่ ไม่จำกัดเฉพาะพื้นที่พิพาทที่มีคดีเด่น เช่น ปราสาทพระวิหาร
▪ ข้อจำกัด:
-
ไม่มีอำนาจบังคับ หากประเทศหนึ่งไม่ยอมเข้าร่วมประชุม การเจรจาจะหยุดชะงัก
-
ขึ้นอยู่กับบริบทการเมืองภายในประเทศ ทั้งสองฝ่าย เช่น หากรัฐบาลฝั่งใดอ่อนแอหรืออยู่ในช่วงหาเสียง การเจรจาอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
-
ไม่สามารถใช้แทนการตัดสินของศาลโลกได้ หากคู่กรณีเลือกยกระดับข้อพิพาทไปยัง ICJ ข้อมูลของ JBC จะเป็นเพียงหลักฐานประกอบ
JBC ในปัจจุบัน: ความหวังท่ามกลางแรงกดดัน
ในสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาในปี 2568 นี้ JBC กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง โดยไทยประกาศชัดว่าจะ ผลักดันให้เกิดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด พร้อมแสดงจุดยืนว่า:
-
JBC คือกลไกเดียวที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้แล้ว และควรใช้แทนการยกระดับไปสู่เวทีศาลโลก
-
ไทยพร้อมจัดประชุม JBC แม้กัมพูชายังไม่ตอบรับ เพื่อรักษาความชอบธรรมทางการทูต
ข้อสังเกตสำคัญ:
-
หากไทยเดินหน้า JBC อย่างโปร่งใสและเปิดเผย จะสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาคมโลกว่า ไทยยึดมั่นในสันติวิธีและการแก้ปัญหาตามกรอบสากล
-
ในขณะเดียวกัน ไทยต้อง “รอบคอบทางกฎหมาย” เพราะหากข้อมูลบางอย่างหลุดไปอยู่ในเวทีศาลโลก อาจย้อนกลับมาทำลายผลประโยชน์ของตนเองได้
JBC คือเส้นด้ายบาง ๆ ระหว่างสันติภาพกับความขัดแย้ง
แม้ฟังดูเป็นเพียงคณะกรรมาธิการทวิภาคีธรรมดา แต่ในความเป็นจริง JBC คือกลไกที่สำคัญอย่างยิ่งต่อ “ความมั่นคงทางจิตวิญญาณและดินแดนของชาติ”
เมื่อพื้นที่ชายแดนเต็มไปด้วยร่องรอยประวัติศาสตร์และอารมณ์ของประชาชน การพูดคุยอย่างเป็นระบบคือทางออกเดียวที่เลี่ยงการปะทะได้อย่างยั่งยืน
ในโลกที่การรบไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ แต่ใช้คำพูด ภาพถ่าย และเอกสารเป็นเครื่องมือ
JBC ไม่ใช่แค่โต๊ะเจรจา — แต่เป็นสนามรบของนักการทูต นักกฎหมาย และนักประวัติศาสตร์ในคราวเดียวกัน
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
นี่คือเรื่องราวการเอาชีวิตรอด กลางท้องทะเลที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินเรือสมัยใหม่
ดราม่าข้ามพรมแดน! โซเชียลไทยตั้งคำถาม เหตุใดกัมพูชาจึงแสดงท่าทีรุนแรง ทั้งที่อดีตเคยมีกรณีทำลายศาสนสถานบนเกาะกง
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
เผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69
รมต.เขมร คุยโว! เหตุที่ "ไทย" ต้องใช้เครื่องบินรบ..เพื่อปกปิดความพ่ายแพ้ในสมรภูมิภาคพื้นดิน
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
เมียและลูกเล็ก 2 คนถูกฆ่ๅในชั่วข้ามคืน ผัวตกตะลึงเมื่อรู้ว่าคนร้ายคือใคร
เขมรยอมส่งจดหมายอ้อนไทย ขอเจรจาหยุดยิงด่วน หลังโดนรุกหนัก ยอมจัด GBC ที่จันทบุรี แต่พอโดนทัวร์ลงดันพลิกลิ้นบอก "ของปลอม"
รมต.เขมร คุยโว! เหตุที่ "ไทย" ต้องใช้เครื่องบินรบ..เพื่อปกปิดความพ่ายแพ้ในสมรภูมิภาคพื้นดิน
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัว
รถยนต์ที่ติดป้ายฮานุกกะห์ถูกวางเพลิงในเมลเบิร์น
นี่คือเรื่องราวการเอาชีวิตรอด กลางท้องทะเลที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินเรือสมัยใหม่
ดราม่าข้ามพรมแดน! โซเชียลไทยตั้งคำถาม เหตุใดกัมพูชาจึงแสดงท่าทีรุนแรง ทั้งที่อดีตเคยมีกรณีทำลายศาสนสถานบนเกาะกง
หนุ่มรัสเซียฉีดวาสลีน 6 ลิตรเข้าแขนเพื่อ "กล้ามใหญ่ไว" สุดท้ายกลายเป็นป๊อปอายเวอร์ชั่นสยองขวัญ แขนเน่า-แข็งเหมือนไม้!
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัว
ทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจีย
ทึ่งทั่วโลก : "โบโรบูดูร์" ศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การออกกำลังกายของผู้สูงวัย