“แสงอาทิตย์ กับแสงหลอดไฟ” ต่างกันไหมสำหรับพืช
หลายๆคนคงเคยเห็นบางที่ที่มีการปลูกต้นไม้ ดอกไม้หรือผักอะไรต่างๆ ในบางแห่ง จะมีการเปิดไฟให้กับพืชหรือดอกไม้ ในเวลากลางคืนหรือเวลาที่ไม่มีแสงแดด จึงเป็นคำถามว่า มันแตกต่างยังไงกับแสงแดดบ้างนะ มีผลกระทบอะไรหรือไม่
แสง เป็นสิ่งที่สำคัญในกระบวนการสร้างอาหารของพืช ที่เรียกว่า กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งเป็นกระบวนการที่นำพลังงานแสงมาเปลี่ยนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ ให้เป็นน้ำตาลและแก๊สออกซิเจน ซึ่งพืชจะนำไปใช้ในกระบวนการหายใจเพื่อสร้างพลังงานและสะสมน้ำตาลไว้ตามส่วนต่างๆ
นอกจากนี้น้ำตาลยังเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารประกอบอินทรีย์อื่นๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของพืช ดังนั้นแสงจึงส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น กระตุ้นการเจริญของปลายยอดและปลายราก กระตุ้นการออกดอก และความสุกแก่ของพืช พืชแต่ละชนิดต้องการแสงไม่เท่ากัน หากพืชได้รับแสงไม่เพียงพอพืชจะเจริญเติบโตช้าหรือผิดปกติ
ดวงอาทิตย์ แหล่งกำเนิดแสงที่ใหญ่ที่สุดของโลก แสงของดวงอาทิตย์ที่มนุษย์สามารถมองเห็นคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งซึ่งมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 380-750 นาโนเมตร แสงในช่วงคลื่นนี้ประกอบด้วยแสงสีต่างๆ กัน ซึ่งตาของมนุษย์ไม่สามารถแยกเป็นสีต่างๆ จึงมองรวมกันเป็นแสงสีขาว เมื่อมองแสงผ่านปริซึม หรือสิ่งที่มีคุณสมบัติแบบปริซึม เช่น สายฝนจะทำให้เกิดการหักเหของแสงเกิดสีต่างๆ
เวลาพืชได้รับแสงตามธรรมชาติหรือจากดวงอาทิตย์ พืชจะเลือกใช้ช่วงแสงที่พืชต้องการเท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดพืช ระยะการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งสีของแสงที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมากคือ สีน้ำเงินช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตทางใบ สีแดงช่วยกระตุ้นการงอกของเมล็ด การออกดอกและติดผล และสีเขียวทำให้ลำต้นของพืชยืดยาว ส่วนแสงสีส้มและสีเหลืองมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชเพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามการให้แสงเพียงสีใดสีหนึ่งแก่พืช นั้นสามารถชักนำให้เกิดการเจริญเติบโตได้ แต่อาจทำให้มีการเจริญเติบโตแตกต่างไปจากต้นที่เจริญในแสงตามธรรมชาติ เช่น ต้นมะเขือเทศที่ได้รับแสงสีส้ม สีแดง หรือสีเขียว จะมีลักษณะต้นยืดยาวและอ่อนแอ ในขณะที่ต้นมะเขือเทศที่ได้รับแสง ผสมระหว่างสีน้ำเงินกับสีแดง หรือแสงสีขาว ที่มีส่วนผสมของแสงทุกช่วงความยาวคลื่น มีลักษณะต้นใกล้เคียงกับการปลูกในแสงธรรมชาติและแข็งแรงกว่า
ข้อมูลดังกล่าวจึงมีการพัฒนาหลอดไฟสำหรับปลูกพืชเพื่อทดแทนแสงจากดวงอาทิตย์เมื่อปลูกพืชในสภาพแวดล้อมแบบปิดหรือในสภาพที่มีแสงแดดไม่เพียงพอ เช่น การปลูกพืชในฤดูฝนและฤดูหนาว และเพื่อผลิตสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อนำมาผลิตเป็นอาหารเสริมและใช้ในทางเวชภัณฑ์
โดยปกติจะพบเห็นหลอดไฟสำหรับปลูกพืชที่มีสีม่วงเกิดจากการใช้แสงสีแดงและแสงสีน้ำเงินในอัตราส่วนที่แตกต่างกันในแต่ละชนิดพืช ส่วนหลอดไฟสำหรับปลูกพืชที่มีสีขาวเกิดจากการใช้แสงสีแดง สีน้ำเงิน และแสงสีเขียว ซึ่งอัตราส่วนของแสงสีต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและระยะการเจริญเติบโตของพืช
ในการเลือกหลอดไฟที่ใช้สำหรับปลูกพืชขึ้นอยู่กับ ชนิดของพืช และวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ เพื่อให้ใช้แสงจากหลอดไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มกับต้นทุนค่าไฟที่ต้องเสียไป นั่นเอง















