รองช้ำ – โรคที่ใครก็นึกว่าแค่ปวดส้นเท้า แต่จริง ๆ คือสัญญาณจากร่างกายว่าคุณ “ใช้งานมันผิด” มานานเกินไป
รองช้ำ – โรคที่ใครก็นึกว่าแค่ปวดส้นเท้า แต่จริง ๆ คือสัญญาณจากร่างกายว่าคุณ “ใช้งานมันผิด” มานานเกินไป
คุณตื่นเช้ามาก้าวแรกแล้วรู้สึกเหมือนมีใครเอาตะปูตอกเข้าใต้ส้นเท้าไหม?
ยืนหรือเดินแค่แป๊บเดียวแล้วเหมือนส้นเท้าจะหลุด?
ถ้าใช่ — คุณอาจกำลังเผชิญกับ “โรครองช้ำ” โดยไม่รู้ตัว
รองช้ำ (Plantar Fasciitis) ไม่ใช่โรคไกลตัวอย่างที่คิด
และไม่ใช่เรื่องของ “คนแก่” เท่านั้น
มันคือโรคที่กำลังแพร่ระบาดเงียบ ๆ ในคนยุคใหม่
ที่ชีวิตผูกติดกับการ “เดินผิด วิ่งหนัก ยืนทั้งวัน” โดยไม่รู้ตัวเลยว่าร่างกายกำลังร้องไห้
รองช้ำคืออะไร? เกิดจากตรงไหนกันแน่?
ใต้ฝ่าเท้าของเรามีพังผืดเส้นใหญ่ที่ชื่อว่า “Plantar Fascia”
มันทำหน้าที่คล้ายสปริง รองรับน้ำหนัก กระจายแรงเวลายืน เดิน หรือวิ่ง
แต่เมื่อใช้งานพังผืดนี้หนักเกินไป ซ้ำ ๆ โดยไม่ให้พัก
หรือมีท่าทางที่ผิด เช่น ยืนลงน้ำหนักผิดจุด เดินเอาส้นเท้าลงแรงเกิน
มันจะเกิดการอักเสบเล็ก ๆ เรื่อย ๆ จนเรารู้สึกว่า
“ปวดจี๊ดที่ส้นเท้า” โดยเฉพาะเวลาตื่นนอน ก้าวแรก หรือหลังนั่งนาน
นั่นแหละ รองช้ำตัวจริงเสียงจริง
ใครบ้างที่เสี่ยงรองช้ำ? ไม่ใช่แค่อายุเยอะถึงจะเป็น
คนส่วนใหญ่คิดว่ารองช้ำต้องอายุ 50–60 ขึ้นไป
แต่ในความจริง คนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ก็มีโอกาสสูงมาก:
-
คนที่ “ใส่รองเท้าแบน” หรือรองเท้าไม่มีพื้นซัพพอร์ตนาน ๆ เช่น รองเท้าแตะแฟลต รองเท้าแฟชั่น
-
คนที่ “ยืนนาน” โดยไม่เปลี่ยนท่าทาง เช่น ครู พยาบาล พนักงานขาย
-
คนที่ “น้ำหนักตัวมาก” ทำให้ฝ่าเท้ารับแรงกดเกินตลอดเวลา
-
นักวิ่ง หรือคนออกกำลังกายที่ฝึกหนักแต่ไม่ได้วอร์ม/ยืดพังผืด
-
คนที่ “เท้าแบน” หรือ “อุ้งเท้าสูงผิดปกติ” โดยไม่รู้ตัว
-
กลุ่มอายุ 30 ขึ้นไปที่ไม่ออกกำลังกายแต่ใช้งานเท้าหนัก ๆ โดยไม่มีการดูแล
อาการแบบไหนที่บอกว่าใช่ “รองช้ำ” ไม่ใช่แค่เมื่อยเท้า
-
ปวดจี๊ดที่ “บริเวณกลางถึงด้านหน้าของส้นเท้า” โดยเฉพาะก้าวแรกหลังตื่นนอน
-
ยิ่งยืนนาน เดินเยอะ จะยิ่งปวด ไม่ใช่ดีขึ้น
-
บางรายรู้สึกเหมือนเหยียบก้อนหินเล็ก ๆ ทุกครั้งที่ลงน้ำหนัก
-
อาการจะดีขึ้นเมื่อได้พัก แต่พอกลับมายืนใหม่ จะกลับมาปวดอีก
-
ไม่ค่อยมีอาการบวมชัดเจน เพราะเป็นการอักเสบภายในพังผืด ไม่ใช่ข้อต่อ
วิธีป้องกันรองช้ำตั้งแต่ยังไม่ปวด
-
อย่าใส่รองเท้าแตะหรือแฟลตรองเท้าที่บางเกินไปนาน ๆ
รองเท้าควรมี “ซัพพอร์ตที่อุ้งเท้า” และ “พื้นนุ่มพอ” -
เลี่ยงการยืนนิ่ง ๆ เป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนท่า เปลี่ยนน้ำหนักเป็นระยะ
-
อย่ากลัวการยืดเหยียด — โดยเฉพาะกล้ามเนื้อน่อง เอ็นร้อยหวาย และฝ่าเท้า
-
หากออกกำลังกายหนัก ให้พักให้พอ และวอร์มทุกครั้ง
-
ควบคุมน้ำหนักตัว เพราะยิ่งหนักมาก ยิ่งกดฝ่าเท้าจนพังผืดแบกไม่ไหว
-
ตรวจเช็ค “รูปเท้า” กับนักกายภาพหรือหมอเฉพาะทาง หากสงสัยว่าเท้าแบนหรืออุ้งสูงผิดปกติ
ถ้าเริ่มปวดแล้ว ทำยังไงให้หายโดยไม่ต้องผ่าตัด?
-
พักการใช้งานหนัก เลี่ยงเดินไกล วิ่ง หรือยืนนาน ๆ จนกว่าจะดีขึ้น
-
แช่เท้าในน้ำอุ่น + ยืดพังผืด วันละ 1–2 รอบ
โดยเฉพาะก่อนลุกจากเตียงตอนเช้า -
ลูกกลิ้ง + ขวดน้ำแข็ง กลิ้งใต้ฝ่าเท้า 10–15 นาที ช่วยลดอักเสบ
-
แผ่นรองเท้าสำหรับรองช้ำ หาซื้อได้ตามร้านเวชภัณฑ์หรือสั่งตัดเฉพาะ
-
ใส่รองเท้าที่ Support ดี เลิกใช้แตะ แฟลต หรือรองเท้าพื้นแข็ง
-
กินยาแก้อักเสบเฉพาะช่วงที่ปวดหนัก (ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้)
-
นักกายภาพบำบัด สามารถช่วยออกแบบโปรแกรมยืดเหยียดและฟื้นฟูเฉพาะจุด
รองช้ำไม่ใช่โรคของคนสูงวัย
แต่มันคือ “ผลลัพธ์ของพฤติกรรมที่เราทำซ้ำทุกวัน” โดยไม่ฟังเท้า
เพราะเท้าไม่เคยบ่น
แต่วันที่มันทนไม่ไหว มันจะส่งสัญญาณแรงมาก
จนคุณ “ลุกจากเตียงไม่ได้โดยไม่เจ็บ”
อย่ารอให้เท้าเสียก่อน
ถึงค่อยคิดจะดูแล
แค่เปลี่ยนรองเท้า ยืดฝ่าเท้า และเลิกยืนนานผิดจังหวะ
ก็ช่วยให้คุณเดินสบายไปได้อีกหลายปี โดยไม่ต้องใช้เงินรักษาซ้ำซากในอนาคต.





















