พามาดู นโยบาย “หมาจรจัดล้นเมือง” แต่ละประเทศ
เมื่อพูดถึงหมาจร คงไม่พ้นที่เราจะนึกถึง น้องที่นอนตากแอร์อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งแหละเนอะ พูดได้ว่าเราจะพบแทบทุกที่เลยก็ว่าได้ บางตัวก็จร บางตัวก็มีเจ้าของแล้ว (แค่มานอนเฉยๆ) และบางครั้งก็พบเจอในสถานที่ต่างๆ ซึ่งบางตัวก็น่าสงสารมากจริงๆ ซึ่งถ้าหากมากไปอาจจะเกิดปัญหาได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละประเทศมีวิธีการจัดการปัญหานี้กันยังไงบ้าง
ในปัจจุบันประเทศไทยมีหมาจรจัดอยู่ประมาณ 758,000 ตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี โดยสาเหตุหลักที่เป็นต้นกำเนิดของหมาจรจัดก็คือ การที่ผู้เลี้ยงแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว การนำมาปล่อย และประเทศไทยยังขาดนโยบายป้องกันและปราบปรามปัญหาหมาจรจัดที่มีประสิทธิภาพ
มาดูนโยบายหมาจรของแต่ละประเทศไปพร้อม ๆ กัน
ประเทศเนเธอร์แลนด์ (หมาจร 0 ตัว) เป็นประเทศแรกที่ถูกประกาศว่าเป็นประเทศไร้สุนัขจรจัดอย่างเป็นทางการ มาดูนโยบายกัน
• สุนัขทุกตัวต้องลงทะเบียนเพื่อรับไมโครชิพจาก Dutch Pet Database
• ผู้เลี้ยงต้องเสียภาษีสุนัขโดยเฉลี่ยประมาณ 4,500 บาท ต่อตัวต่อปี
• ผู้เลี้ยงต้องใส่ใจในการดูแลและเลี้ยงดูสุนัข หากไม่ดูแลหรือทอดทิ้งสุนัขจะถูกปรับเงินสูงสุด 59,000บาท
• รัฐมีโครงการ CNVR ได้แก่ รวบรวม (Collect) ทำหมัน (Neuter) วัคซีน (Vaccinate) และปล่อยคืน (Release) เพื่อช่วยเหลือและควบคุมสุนัขจรจัด
ประเทศเยอรมนี (หมาจร 0 ตัว) มีนโยบาย ดังนี้
• ผู้เลี้ยงต้องเสียภาษีสุนัขที่เรียกว่า Hundesteuer โดยในเขตเมืองอัตราภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 5,400-6,200 บาท ส่วนในชนบทจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,300 บาท ต่อตัวต่อปี
• บางรัฐผู้เลี้ยงต้องสอบข้อเขียน Hundeführerschein เพื่อขออนุญาตเลี้ยงสุนัข
• สุนัขต้องผ่านการทดสอบพฤติกรรมจากสัตวแพทย์
ประเทศญี่ปุ่น (หมาจรประมาณ 6,000 ตัว) โดยมีนโยบาย
• ประกาศใช้ มาตรการกำหนดเงื่อนไขการซื้อขายสัตว์เลี้ยง
• กำหนดเวลาซื้อขายสัตว์เลี้ยงเพื่อดูแลสุขภาพสัตว์ โดยห้ามซื้อขายสัตว์เลี้ยงก่อน 08.00 และหลัง 20.00 น.
• รัฐมีโครงการ TNR คือ ดักจับ (Trap) ทำหมัน (Neuter) และปล่อยคืน (Release) เพื่อช่วยเหลือและควบคุมสุนัขจรจัด
ประเทศสิงคโปร์ (หมาจรประมาณ 10,000 ตัว) มีนโยบาย
• ผู้เลี้ยงต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป
• เก็บค่าธรรมเนียมการเลี้ยงแปรผันตามอายุสัตว์
• รัฐมีโครงการ TNRM ได้แก่ ดักจับ (Trap) ทำหมัน (Neuter) ปล่อยคืน (Release) และจัดการ (Manage) เพื่อช่วยเหลือและควบคุมสุนัขจรจัด
ประเทศไทย (หมาจรประมาณ 758,000 ตัว) สำหรับนโยบายของประเทศเรานั้น
• ไม่มีนโยบายบังคับขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงหรือเก็บภาษีสัตว์เลี้ยง
• สถานสงเคราะห์ส่วนใหญ่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของเอกชน
• ดำเนินมาตรการทำหมันและฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขจรจัดในเขตต่าง ๆ
ปัญหาหมาจร ไม่ได้เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของน้องหมาเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบเมือง และความเป็นอยู่ที่ดี (Well Being) ของคนในสังคมด้วยเช่นกัน เช่น ผลกระทบด้านความสวยงามและสุขอนามัยของบริเวณที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ผลกระทบด้านสภาพจิตใจ (คนที่รักสัตว์คงสงสารแน่นอน) และปัญหาด้านความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเสียงเห่า หอน การขับถ่าย รวมไปถึงการคุ้ยขยะ อีกด้วย
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
"เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" แฉผัวตัวดีแอบกินกิ๊กเด็กในร้าน
พุทธศิลป์แนวใหม่หรือวัตถุนิยม? กระแสวิจารณ์ "หัวใจพระพุทธเจ้า" ทรงอนาโตมี
ทำไมการเล่าเรื่องของตัวเองให้คนที่ไม่สนิทฟัง ถึงสบายใจกว่า การเล่าให้คนสนิทฟัง เมื่อคนแปลกหน้าอาจเป็นเซฟโซนมากกว่าคนใกล้ตัว
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
Trip “พม่า ท่าขี้เหล็ก” ฉบับคนไปทำงาน
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
ปรับทัศนคติให้ถูกทาง
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568









