ความสัมพันธ์แบบ ‘คุกกี้ในโหล’ Cookie Jarring ตัวสำรองที่มีไว้แก้หิว ที่เขาจะหยิบตามสะดวก แต่ไม่ได้เป็น ‘ตัวจริง’
ความสัมพันธ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก จนในปี 2019 มีการให้คำจำกัดความว่า ‘cookie-jarring’ หรือ ‘โหลคุกกี้’ ขึ้น
The New York Times ให้คำจำกัดความคำว่า cookie-jarring ว่า “เมื่อใครคนหนึ่งสร้างความสัมพันธ์โดยให้คนอื่นเป็นเพียงตัวสำรอง” โดยที่ตัวสำรองคนนั้นจะถูก ‘เก็บ’ ไว้ในโหลไม่ต่างจากคุกกี้ ซึ่งจะถูกหยิบขึ้นมากินตอนที่สะดวกเท่านั้น (ที่สำคัญยังเป็นแค่ขนมรองท้อง ไม่ใช่มื้อหลัก)
Metro ให้คำจำกัดความของ cookie-jarring ว่า บุคคลที่กำลังคบหาดูใจกับคนอื่นอยู่แล้ว แต่เก็บใครบางคนไว้ในโหลคุกกี้ของตัวเอง เผื่อว่าความสัมพันธ์กับตัวหลักจะไม่ลงตัว
Cookie-Jarring มีคอนเซปต์ว่าด้วย เรื่องของความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน ทั้งคู่ดูเข้าขากันดี แต่ไม่มีวี่แววจะได้คบกันเปรียบเสมือน คุกกี้ที่ถูกเก็บไว้ในขวดโหล ที่รอว่าสักวันเขาจะมาเปิดโหลกิน มันไม่เหมือนการนอกใจเสียทีเดียว เพียงแต่เป็นเรื่องของความรู้สึกดี ๆ ที่คนสองคนมีให้กัน อาจจะแค่เป็นใครสักคนที่ชวนกันคุยเรื่องที่มีความสนใจคล้ายกันอย่างออกรส หรือแสดงความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจกันในบางเรื่องที่คนที่อยู่ในสถานะ ‘คนรัก’ อาจไม่เข้าใจเท่านั้นเอง ซึ่งเกิดขึ้นกับคนจำนวนมากในยุคปัจจุบัน
สาเหตุของการชอบมีความสัมพันธ์แบบ cookie-jarring
‘เฮลีย์ ควินน์’ โค้ชเรื่องการออกเดตให้สัมภาษณ์กับ Bustle กล่าวว่า
- ความสัมพันธ์แบบ cookie-jarring มักเกิดจากความรู้สึก ‘ไม่มั่นคง’มากกว่า ‘ความใคร่’ เป็นการทำให้ตนเองมั่นใจว่า จะไม่มีวันถูกทิ้งอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
- บางคนมีความคิดว่า‘การผูกมัด’ เป็นเรื่องน่ากลัว แต่การจะ ‘ปฏิเสธ’ ใครสักคนก็เป็นเรื่องยาก
- คนอีกไม่น้อยมองว่า“ความเหงาเป็นเรื่องที่ชวนหดหู่” พวกเขาจึงเลือกที่จะมีความสัมพันธ์กับใครสักคน (หรือหลายคน) ที่แอบชอบ แต่ไม่อยากจริงจังด้วย เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
- การเคยถูกนอกใจมาก่อน การหย่าร้างของพ่อแม่ ที่หล่อหลอมความเชื่อที่บุคคลนั้นมีต่อตนเอง อย่างเช่น ความเชื่อที่ว่า“ฉันไม่ดีพอ” หรือ “ฉันไม่คู่ควร” ทำให้รู้สึกว่าการมี ‘ตัวเลือก’ ช่วยบรรเทาความรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ
สัญญาณเตือนว่าเรากำลังเป็น ‘คุกกี้ในโหล’ ของใครอยู่?
‘ดร. ทีนา บี. เทสซินา’ นักจิตบำบัดและนักเขียน ให้สัมภาษณ์กับ Better by Today ว่า สัญญาณเตือนทั่วไปที่บ่งบอกว่า ใครบางคนอาจใช้คุณเป็นตัวสำรอง คือ
- คนที่นัดหมายคุณในนาทีสุดท้ายเท่านั้น เพราะนัดที่เขาให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกดันล่มไปนั่นเอง
- คนที่ไม่คุยเรื่องอนาคตกับคุณ ทั้งที่ได้ใช้เวลาร่วมกันมาพอสมควรด้วย
- ลองเชื่อในสัญชาตญาณตนเอง หากกำลังคบใครสักคน แต่กลับรู้สึกว่าสถานะระหว่างกันมีความไม่มั่นคง อย่างเช่น การตอบแชทช้า หรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้สนใจคุณมากนัก ก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจให้ความสำคัญกับคนอื่น ๆ มากกว่าคุณ
การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมักให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า หากอีกฝ่ายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเองได้ สิ่งที่ดีที่สุด คือ การตัดการติดต่อกับเขาไปเลย โดยพึงระลึกไว้เสมอว่า คุณมีคุณค่ามากพอที่จะเป็นความสำคัญลำดับแรกของใครสักคน ไม่ใช่ตัวเลือกที่ใครจะเก็บไว้ เผื่อว่าเขาไปไม่รอดกับอีกคน














