CPR หลักสูตรที่ควรมี เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในภาวะฉุกเฉิน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความชื่นชมไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อเด็กนักเรียนชายชั้น ม.6 คนหนึ่งในโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศไทย ได้ลงมือช่วยชีวิตรุ่นน้อง ม.3 ซึ่งเกิดอาการช็อกและหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ด้วยการทำ CPR (การฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน) อย่างถูกวิธี จนสามารถช่วยให้รุ่นน้องกลับมามีสัญญาณชีพได้อีกครั้ง ก่อนที่ทีมแพทย์จะมาถึง
เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “เรื่องดี ๆ” ในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง “ความสำคัญของทักษะการปฐมพยาบาล” ที่ควรมีการปลูกฝังตั้งแต่ในโรงเรียนอย่างจริงจัง
CPR คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญขนาดนี้
CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) คือกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพผู้ที่หัวใจหยุดเต้นและหยุดหายใจแบบฉับพลัน โดยการกดหน้าอกและเป่าปาก เพื่อให้เลือดและออกซิเจนยังคงไหลเวียนไปยังสมองและอวัยวะสำคัญ
🕒 การช่วยเหลือใน “4 นาทีแรก” คือหัวใจของความรอด
●หากไม่มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองเกิน 4-6 นาที อาจทำให้สมองเสียหายถาวรหรือเสียชีวิตได้
ขั้นตอนการทำ CPR เบื้องต้น (สำหรับบุคคลทั่วไป)
1.ตรวจสอบความปลอดภัย และเรียกขอความช่วยเหลือ
●ตรวจสอบว่าพื้นที่ปลอดภัย
●เรียกขอความช่วยเหลือหรือโทร 1669 (สายด่วนฉุกเฉิน)
2.เช็กการตอบสนองของผู้ป่วย
เขย่าตัวเบา ๆ และเรียกชื่อ ถ้าไม่ตอบสนอง ให้ดำเนินการขั้นต่อไป
3. เช็กการหายใจ
▪︎ดูหน้าอกว่ามีการขยับหรือไม่
▪︎ใช้เวลาไม่เกิน 10 วินาที
4.เริ่มทำ CPR
วางส้นมือข้างหนึ่งบนกลางอก (ตรงกระดูกหน้าอก) อีกมือซ้อนทับ กดลึก 5-6 ซม. ด้วยความเร็ว 100-120 ครั้ง/นาที
สำหรับผู้ไม่ชำนาญ ไม่จำเป็นต้องเป่าปาก ให้เน้นการกดอกต่อเนื่องจนกว่าจะมีผู้ช่วยหรือเครื่อง AED
5.ใช้ AED หากมี
AED (เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ) ช่วยเพิ่มโอกาสรอดได้สูงมาก
ทำไมควรสอนการทำ CPR ตั้งแต่ในโรงเรียน?
เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในภาวะฉุกเฉิน
เด็กนักเรียนอาจพบเจอเหตุการณ์ที่คนรอบข้างหมดสติ เช่น อุบัติเหตุ, โรคประจำตัว หรือภาวะหัวใจวาย การมี “มือช่วยชีวิต” อยู่ใกล้ตัวคือปัจจัยสำคัญ
สร้างจิตสำนึกและความกล้าในการช่วยเหลือ
เมื่อเด็กได้เรียนรู้และฝึกฝนจริง จะกล้าช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่กลัวผิดพลาด และสร้างทัศนคติที่ดีต่อสังคม
ทักษะติดตัวตลอดชีวิต
CPR ไม่ใช่แค่บทเรียนหนึ่งในห้องเรียน แต่คือ “ทักษะชีวิต” ที่อาจกลายเป็นอาวุธสำคัญในการช่วยชีวิตใครสักคนในอนาคต
เสนอแนะแนวทางที่ควรมีในโรงเรียน
●บรรจุในวิชาสุขศึกษา/กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
●ฝึกปฏิบัติกับหุ่น CPR จริง
●จัดอบรมจากเจ้าหน้าที่หรือโรงพยาบาลในพื้นที่
●มี AED ติดตั้งไว้ในโรงเรียนทุกแห่ง
ฮีโร่มีได้ทุกวัย หากได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสม
เหตุการณ์นี้พิสูจน์ว่า “เด็ก ม.6 คนหนึ่ง” ก็สามารถเป็นผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตให้คนอีกคนได้ เพียงเพราะเขาเคยผ่านการเรียนรู้และกล้าที่จะลงมือช่วยทันที
อย่ารอให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นใกล้ตัวแล้วค่อยคิดจะเรียนรู้
การสอน CPR อาจดูเล็กน้อยในสายตาบางคน แต่สำหรับผู้ที่รอดชีวิต มันคือ "ปาฏิหาริย์ที่เกิดจากมือคนธรรมดา"
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ภาพวาดแผ่นเดียว ครูต้องรีบแจ้งแม่ให้พาไปหาหมอ ด่วน!!!
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย



