ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงไม่ซื้อบ้าน? สำรวจพฤติกรรมที่สะท้อนสภาพสังคม
แม้หลายคนจะเติบโตมากับความเชื่อว่า “โตขึ้นต้องมีบ้านเป็นของตัวเอง” แต่ในปัจจุบันเรากลับพบว่าคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเริ่มตั้งคำถามกับแนวคิดนี้ และเลือกที่จะ “ไม่ซื้อบ้าน” หรือ “ยังไม่รีบซื้อ” แม้จะมีรายได้ที่สามารถกู้สินเชื่อได้ก็ตาม
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดจากความไม่อยากมีบ้านเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนถึงโครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยสามารถสรุปออกมาเป็นเหตุผลหลัก ๆ ได้ดังนี้
1. ภาระหนี้-รายได้ไม่สัมพันธ์กับราคาบ้าน
ราคาบ้านในเมืองใหญ่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่รายได้เฉลี่ยของคนวัยทำงานกลับไม่ได้เติบโตตามทัน ทำให้คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญกับภาระหนี้ระยะยาว 30-40 ปี หากตัดสินใจซื้อบ้าน
จากข้อมูลหลายแหล่งพบว่า คนรุ่นใหม่จำนวนมากมีภาระหนี้การศึกษา หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้ส่วนบุคคลอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ความสามารถในการกู้ซื้อบ้านลดลง และเกิดความกังวลว่าจะรับภาระผ่อนบ้านระยะยาวไม่ไหว
2. วิถีชีวิตยืดหยุ่น ไม่ยึดติดกับที่อยู่ถาวร
คนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ที่เน้นความคล่องตัว ไม่ยึดติดกับสถานที่ใดที่หนึ่ง การเปลี่ยนงาน ย้ายเมือง หรือแม้แต่การทำงานแบบ Work from Anywhere กลายเป็นเรื่องปกติ
การซื้อบ้านจึงถูกมองว่าเป็น “ข้อผูกมัด” ที่ลดความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต บางคนมองว่าการเช่าคือคำตอบที่ดีกว่า เพราะสามารถโยกย้ายได้ตามสถานการณ์โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาระผ่อน
3. ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ และความกลัวอนาคต
ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนชีวิตที่เพิ่มขึ้น และรายได้ที่ผันผวน ล้วนทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกไม่มั่นคงพอจะตัดสินใจผูกพันกับหนี้ระยะยาว
หลายคนมีทัศนคติว่า “อนาคตไม่แน่นอน จะรีบซื้อบ้านทำไม?” ทำให้การตัดสินใจซื้อทรัพย์สินขนาดใหญ่ เช่น บ้าน กลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดหลายตลบ
4. เปลี่ยนค่านิยมจาก “เป็นเจ้าของ” เป็น “มีอิสระ”
ยุคก่อนอาจยึดถือว่าการมีบ้านเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง แต่ยุคนี้คนรุ่นใหม่เริ่มหันมาให้คุณค่ากับ “คุณภาพชีวิต” และ “อิสระทางการเงิน” มากกว่า
บางคนยอมใช้เงินไปกับการท่องเที่ยว ประสบการณ์ หรือการเรียนรู้ มากกว่าการผ่อนบ้าน เพราะเชื่อว่าการมีชีวิตที่ตอบโจทย์ตนเอง คือความมั่นคงในรูปแบบใหม่
5. มุมมองต่ออสังหาฯ ไม่ใช่เครื่องมือสร้างความมั่งคั่งเสมอไป
เมื่อก่อนการซื้อบ้านถือเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนจากการเพิ่มมูลค่าในอนาคต แต่ทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่เริ่มมองเห็นต้นทุนแฝง เช่น ดอกเบี้ย ค่าเสื่อม ค่าซ่อมบำรุง ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายจิปาถะที่ตามมา
หลายคนจึงเลือกที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่า หรือให้ผลตอบแทนเร็วกว่า เช่น หุ้น กองทุน หรือธุรกิจเล็ก ๆ ที่สร้างรายได้เสริม
การที่คนรุ่นใหม่ “ไม่ซื้อบ้าน” ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาขาดความรับผิดชอบ หรือไม่วางแผนอนาคต แต่เป็นการสะท้อนมุมมองใหม่ที่ต้องการชีวิตที่ยืดหยุ่น มีทางเลือก และสอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว
ในท้ายที่สุดแล้ว ความสำเร็จของชีวิตอาจไม่ได้วัดจาก “บ้านหลังใหญ่” แต่คือการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองพอใจ โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของค่านิยมที่ไม่ได้ตอบโจทย์เราอีกต่อไป
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
ชาวเน็ตฮือฮา!! พ่อแม่หน้าจีนแต่ลูกออกมากลับหน้าฝรั่ง
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย



