"มะระ vs มะระขี้นก – ใครคือราชาแห่งสมุนไพรลดเบาหวาน?"
มะระและมะระขี้นก ต่างเป็นผักสมุนไพรที่มีรสชาติขมโดดเด่น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ความขมของทั้งสองมีประโยชน์ทางยาแตกต่างกัน และต่างก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจในแบบของตัวเอง โดยเฉพาะในด้านการดูแลสุขภาพและการควบคุมน้ำตาลในเลือด
มะระ (Bitter Melon)
หรือที่หลายคนเรียกว่า "มะระจีน" เป็นผักที่มีผลขนาดใหญ่ ผิวเป็นร่องตื้น นิยมนำมาทำอาหาร เช่น แกงจืดมะระยัดไส้ หรือผัดไข่ มะระมีสารสำคัญอย่าง “ชาแรนติน” (Charantin) ซึ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และมีฤทธิ์ในการกระตุ้นอินซูลินตามธรรมชาติ จึงมักถูกแนะนำสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน นอกจากนี้ยังอุดมด้วยวิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
มะระขี้นก (Wild Bitter Melon)
เป็นมะระพันธุ์ป่า ขนาดเล็ก ผิวขรุขระมากกว่า และมีรสขมจัดกว่า มะระขี้นกถูกใช้ในแพทย์แผนไทยมายาวนาน โดยเฉพาะในการลดไข้ แก้ร้อนใน บำรุงตับ และที่สำคัญคือมีสารสำคัญ “โมโมรดิซีน” (Momordicin) ที่มีฤทธิ์ทางเภสัชคล้ายอินซูลินอย่างชัดเจน จึงมีประสิทธิภาพในการลดน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่ามะระทั่วไป นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าช่วยต้านเซลล์มะเร็งและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีอีกด้วย
ใครดีกว่ากัน?
หากพูดถึงด้านรสชาติ มะระจีนจะขมน้อย กินง่ายกว่า เหมาะสำหรับทำอาหารประจำวัน แต่หากมองเรื่องสรรพคุณทางยา มะระขี้นกถือว่ามีฤทธิ์แรงและโดดเด่น โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องการดูแลระดับน้ำตาลในเลือดอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคในปริมาณเหมาะสม เพราะการรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ปวดท้องหรือท้องเสียได้
》มะระ: กินง่าย สรรพคุณเด่นด้านลดน้ำตาลและเสริมภูมิคุ้มกัน
》มะระขี้นก: สรรพคุณแรงกว่า เหมาะเป็นสมุนไพรบำบัดเฉพาะโรค
เคล็ดลับ: ลองนำทั้งสองมาใช้ร่วมกันในอาหารหรือชงเป็นชาสมุนไพร ก็จะได้ทั้งรสชาติและประโยชน์ที่ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น!

















