“ซื้อหวย 1 ใบ” เงินไปถึงไหน ใครได้เท่าไหร่บ้าง
ว่าด้วยเรื่องของหวย วันนี้เรามาดูกันว่าหวย หรือลอตเตอรี่ ที่เราซื้อกันอยู่ทุกงวดเนี่ย เงินจากที่เราซื้อจะไปอยู่ที่ไหน ใครได้บ้าง ไปดูกัน
หวย ออกครั้งแรกในปี 2417 โดยได้อิทธิพลจากทางยุโรป ออกเป็นลักษณะกู้เงินจากประชาชนพร้อมการลุ้นรางวัล หลังจากนั้นปรับเป็นการ เชิญชวนให้ลุ้นโชค เป็นครั้งๆ เพื่อหาเงินเข้าโครงการต่าง ๆ โดยมีกรมสรรพากรและกระทรวงการคลังดูแล จนกระทั่งปี 2482 มีการก่อตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เพื่อดูแลการจัดจำหน่ายหวยโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีการพิมพ์จำหน่ายสลากกินแบ่งกว่า 2,400 ล้านฉบับต่อปี
รายได้จากการขายสลากใบละ 80 บาท ถูกแบ่งออกเป็น
• เงินรางวัล 48 บาท (60%) เป็นส่วนที่เยอะที่สุด โดยกักไว้ให้กับผู้ที่ถูกรางวัล โอกาสถูกรางวัลที่หนึ่งจากสลากกินแบ่งรัฐบาลก็มีแค่ 0.0001% โอกาสที่จะถูกนั้นน้อยมาก
• นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน 18.4 บาท (23%) โดยยอดเงินนำส่งรายได้แผ่นดินของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
• ส่วนลดให้ผู้แทนจำหน่าย 9.6 บาท (12%) ส่วนลดนี้ มีไว้เพื่อให้ผู้แทนจำหน่ายสลากได้กำไรในการนำสลากไปขายต่อ โดยจะขายผ่าน 2 ระบบคือตัวแทนจำหน่าย 31 ล้านฉบับ/งวด และระบบซื้อ-จองล่วงหน้าไม่เกิน 69 ล้านฉบับ/งวด ซึ่งคนขายหวยรายย่อยจะได้โควตาคนละ 500 ฉบับ โดยสำนักงาน ไม่รับคืน ถ้าขายไม่หมดพ่อค้าแม่ค้าต้องเก็บไว้ลุ้นรางวัลเอาเอง ซึ่งราคาทุนสลากต่อใบอยู่ที่ 70.40 บาท เพื่อขายราคา 80 บาท และได้กำไรฉบับละ 9.60 บาท แต่ในความเป็นจริง สลากกินแบ่งนั้น ถูกแบ่งโควตาให้รายใหญ่ ส่งต่อพ่อค้าคนกลาง แล้วส่งต่อให้ผู้ขายรายย่อย ทำให้คนที่แบกรับความเสี่ยงจริงๆ คนผู้ขายรายย่อย ที่ต้องขายราคาสูงผิดกฎหมาย เพราะกว่าจะมาถึงมือก็บวกไปเยอะพอสมควร และยังต้องรับความเสี่ยงขายไม่หมดอีกต่างหาก
• บริหารจัดการ 4 บาท (5%) เป็นค่าการบริหารจัดการของสำนักงานฯ และองค์กรย่อยในระดับสมาคมและจังหวัด
จะเห็นได้ว่า รายได้และกำไรส่วนใหญ่ของการขายหวย นอกจากจะเป็นเงินรางวัลแล้ว ก็จะอยู่ที่รัฐบาลตามเป้าหมายของการตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และตัวกลาง ตัวแทนจำหน่าย และปัจจุบันการขายสลากเกินราคาก็ยังมีให้เห็นทั่วไป (เกือบทุกที่) เพราะปัญหาอยู่ที่การกระจายสลากขาดความโปร่งใสและไม่เป็นธรรมกับพ่อค้า แม่ค้ารายย่อยสักเท่าไหร่ เอาล่ะ.. ว่าแล้วก็ซื้อต่อไปอยู่ดีสินะ ต้องมีสักวันหนึ่งที่เป็นของเรา เราทุกคนมีความหวัง -_-
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
ทำไมการเล่าเรื่องของตัวเองให้คนที่ไม่สนิทฟัง ถึงสบายใจกว่า การเล่าให้คนสนิทฟัง เมื่อคนแปลกหน้าอาจเป็นเซฟโซนมากกว่าคนใกล้ตัว
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
พุทธศิลป์แนวใหม่หรือวัตถุนิยม? กระแสวิจารณ์ "หัวใจพระพุทธเจ้า" ทรงอนาโตมี
Trip “พม่า ท่าขี้เหล็ก” ฉบับคนไปทำงาน
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
ปรับทัศนคติให้ถูกทาง
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
เปิดตำนานคุณลุงซานต้า: จากนักบุญใจบุญยุคโบราณ สู่ชายชุดแดงพุงพลุ้ยที่โคคา-โคล่าช่วยปั้น! 🎅🦌
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัว
ทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจีย

