พันธบัตรรัฐบาล สินทรัพย์ที่หลายคน คิดว่าไม่เสี่ยง
พันธบัตรรัฐบาล เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมาก
เมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน หรือการลงในตลาดหุ้น ที่มีความผันผวนสูงกว่า
ในบางครั้งหลายคนจึงมักเรียกพันธบัตรว่า
“สินทรัพย์ปลอดความเสี่ยง” เลยด้วยซ้ำ
แต่ความจริงแล้ว ในโลกนี้ไม่มีสินทรัพย์อะไรที่ไม่มีความเสี่ยง
ความเสี่ยงของพันธบัตรรัฐบาลที่น่ากังวลคืออะไร และในอดีตเคยมีรัฐบาลไหน ที่ออกพันธบัตรรัฐบาลแล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้หรือไม่ ?
พันธบัตรรัฐบาล เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐบาล
ซึ่งเงินที่ได้จากการออกพันธบัตร จะถูกนำไปใช้ตามแผนของรัฐบาล เช่น
- ชดเชยการขาดดุลงบประมาณหรือเมื่อมีรายจ่ายของประเทศสูงกว่ารายได้ของประเทศ
- พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
- ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ
นักลงทุนที่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลมีฐานะเป็นเจ้าหนี้
ขณะที่รัฐบาลมีฐานะเป็นลูกหนี้ โดยผู้ที่ถือพันธบัตรรัฐบาล จะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย และจะได้เงินต้นคืนเมื่อถือพันธบัตรครบกำหนดอายุ
ในทางทฤษฎี ผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรนั้นจะสูงกว่าเงินฝากระยะสั้นในธนาคารพาณิชย์ เมื่อรวมกับการที่รัฐบาลหรือหน่วยงานภาครัฐในฐานะผู้ออกพันธบัตร ซึ่งมีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในประเทศ
จึงทำให้พันธบัตรรัฐบาล ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ทางการเงินที่ได้รับความนิยมในการลงทุนอย่างมาก
ข้อมูลจาก Securities Industry and Financial Markets Association ระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก มีมูลค่ารวมกันกว่า 3,700 ล้านล้านบาท
โดยเป็นตราสารหนี้ที่มาจากภาครัฐและหน่วยงานของรัฐ (พันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ) ประมาณ 70% และภาคเอกชนประมาณ 30%
และมูลค่าตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกนั้นใหญ่กว่ามูลค่า GDP ของทั้งโลกที่ประมาณ 2,900 ล้านล้านบาท เสียอีก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพันธบัตรรัฐบาลจะเหมาะกับคนที่ต้องการความแน่นอนในเรื่องผลตอบแทน และไม่ชอบความเสี่ยง แต่ในโลกของการลงทุนนั้น ไม่มีการลงทุนใดที่ปราศจากความเสี่ยงอย่างแท้จริง ซึ่งรวมถึงการลงทุนในพันธบัตรด้วยเช่นกัน
ความเสี่ยงที่ติดตัวกับพันธบัตรรัฐบาลเสมอมา ไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน และเป็นความเสี่ยงที่เราไม่อาจมองข้ามได้นั่นคือ “ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย” (Interest Rate Risk) โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยกำลังมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นแบบในปัจจุบัน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวันนี้เรานำเงินไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ที่ให้ดอกเบี้ย 3% ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี หมายความว่า เงินก้อนนี้จะถูกผูกอยู่ที่อัตราผลตอบแทน 3% ตลอดระยะเวลา 5 ปี
แต่ในระหว่างนี้ ถ้าอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินมีการปรับขึ้น นั่นหมายความว่า เรากำลังเสียโอกาสที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น หรือแม้แต่ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่ ที่ได้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 3% ต่อปี
แม้บางคนอาจบอกว่า เราก็สามารถขายพันธบัตรรัฐบาลที่ถืออยู่ได้ในตลาดรองตราสารหนี้ เพื่อไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่เพื่อรับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเดิม
แต่ถ้าทุกคนที่ถือตราสารรุ่นเก่านี้คิดเหมือน ๆ กัน แล้วเทขายพันธบัตรที่ได้ดอกเบี้ยน้อย เพื่อไปซื้อพันธบัตรรุ่นใหม่ที่ได้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า สุดท้ายราคาตราสารหนี้นั้นจะลดลง จนสุทธิแล้ว เราอาจขาดทุนจากการขายพันธบัตรรัฐบาลได้
ความเสี่ยงอีกประเภทก็คือ ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk)
โดยทั่วไปแล้ว พันธบัตรรัฐบาลจะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำมาก เพราะขึ้นชื่อว่าออกโดยรัฐบาล ก็คงการันตีว่าเป็นองค์กรที่มั่นคง ที่จะหาเงินมาคืนผู้ถือได้ค่อนข้างแน่นอนอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่ได้เสมอไป..
ที่ผ่านมาก็เคยมีเหตุการณ์ที่รัฐบาลไม่สามารถชำระหนี้ผู้ถือพันธบัตรของรัฐบาลมาแล้ว
อย่างวิกฤติหนี้ที่อาร์เจนตินาที่ลงทุนแมนเคยเขียนถึง
จนทำให้รัฐบาลอาร์เจนตินาผิดนัดชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ที่ถือพันธบัตรรัฐบาล
รู้ไหมว่า นับตั้งแต่ที่ประเทศได้รับเอกราชจากสเปนในปี 1816 อาร์เจนตินาเคยผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศมาแล้วถึง 9 ครั้ง
ทั้งที่ครั้งหนึ่งในอดีต กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ถึงขนาดเคยยกให้ อาร์เจนตินาเป็นตัวอย่างของประเทศที่เป็นลูกหนี้ที่ดีและเป็นแบบอย่างที่ประเทศอื่น ๆ ควรดำเนินนโยบายตาม
แต่ปัญหาที่สะสมมานานของอาร์เจนตินา การคอร์รัปชันของนักการเมือง การใช้นโยบายประชานิยม การขาดดุลงบประมาณที่เรื้อรังและยาวนาน
ทำให้รัฐบาลจึงเลือกวิธีพิมพ์เงินมาแก้ปัญหา จนนำไปสู่ปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ทำให้ค่าเงินเปโซอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งวงจรเหล่านี้จึงทำให้อาร์เจนตินาประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและไม่สามารถชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้
เวเนซุเอลา ก็เป็นอีกประเทศ ที่สร้างความช้ำใจ
ให้กับนักลงทุนที่เข้ามาซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศ
ในปี 2017 รัฐบาลเวเนซุเอลาและบริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศที่ชื่อว่า PDVSA ผิดนัดชำระหนี้ ที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 2.1 ล้านล้านบาท
ปัญหาใหญ่ของเวเนซุเอลาคือ
การใช้งบประมาณขาดดุลผ่านการกู้ยืมจำนวนมหาศาล ทั้งยังนำรายได้จากการขายน้ำมัน เพื่อมาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยผ่านการใช้นโยบายประชานิยมหลายอย่าง
ทั้งการอุดหนุนราคาพลังงาน การแจกเงินอย่างไร้ประสิทธิภาพ เพื่อหวังคะแนนเสียงของประชาชน รวมไปถึงการยึดธุรกิจพลังงานของเอกชนกลับมาเป็นของรัฐ แต่กลับไม่ได้พัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ
จนเมื่อถึงคราวที่ราคาน้ำมันโลกลดต่ำลง
ก็ทำให้รายได้จากการส่งออกน้ำมัน ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 90% ของรายได้การส่งออกทั้งหมดของเวเนซุเอลาลดลงไปมาก ทำให้แหล่งรายได้หลักของรัฐบาลหายไป จนก่อให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่ถือพันธบัตรในที่สุด
อ่านมาถึงตรงนี้ เราน่าจะสรุปได้ว่า
ในโลกนี้ไม่มีการลงทุนไหนที่ปราศจากความเสี่ยงอย่างแท้จริง
แม้แต่การลงทุนในสินทรัพย์ที่ดูจะปลอดภัยที่สุดในโลกแล้ว อย่างพันธบัตรรัฐบาล
มันก็อาจมีความเสี่ยงเมื่ออัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น หรือรัฐบาลผิดนัดชำระหนี้ได้ เช่นกัน..
เขมรหลอกเขมร! สายทหารเขมรหลุดแผนลับ "หักหลังฮุนเซน" รบในจอ รอรับตังค์ โกยเงินหลักล้าน อัดฉีดคลังแสงไม่อั้น
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
ปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
เลขเด็ด "ปฏิทินท้าวเวสสุวรรณโณ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..รีบส่องเลย ก่อนหวยหมดแผง!!
จีนสวนกลับสหรัฐฯ หลังโดนกล่าวหาสะสมนิวเคลียร์ ยํ้ามีไว้ป้องกันประเทศ
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
เพื่อนสนิทวัย 30 ชวนกันทุ่มเงินมหาศาล เพื่อซื้อหมู่บ้านมาบูรณะใหม่
จีนสวนกลับสหรัฐฯ หลังโดนกล่าวหาสะสมนิวเคลียร์ ยํ้ามีไว้ป้องกันประเทศ
เขมรแตกอีกหนึ่ง ทัพไทยบุกตีฐานแนวหน้าเขมรราบคาบ ยึดอาวุธ-ของใช้เพียบ
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ปิดตำนานตลกรุ่นใหญ่ "สีแดง" แห่งตระกูล ด.เด็ก ผู้สร้างรอยยิ้มเคียงข้างปรมาจารย์คาเฟ่
สุขสันต์วันคริสต์มาส...



