วัดเจ็งฮุนเต็ง (Cheng Hoon Teng Temple) วัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย
วัดเจ็งฮุนเต็ง (จีน: 青云亭; สำเนียงฮกเกี้ยน: Chheng-hûn-tîng) หรือเรียกอีกชื่อว่า "วัดเมฆเขียว" (Temple of Green Cloud) เป็นวัดจีนที่ยึดถือแนวปฏิบัติตามหลักคำสอนสามศาสนา ได้แก่ พุทธศาสนา ขงจื๊อ และเต๋า ตั้งอยู่ที่เลขที่ 25 ถนนต๊กก๋ง (Jalan Tokong) ในเมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นวัดจีนที่ยังเปิดทำการอยู่ซึ่งเก่าแก่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย
ประวัติ
วัดแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นในยุคมะละกา อยู่ภายใต้การปกครองของดัตช์ โดยกัปตันชาวจีนชื่อ Tay Kie Ki (ต๊าย เคียะ กี่) และ Tay Hong Yong (ต๊าย หง ยง) ในปี ค.ศ. 1645 อย่างไรก็ตาม มีข้อถกเถียงบางประการเกี่ยวกับช่วงเวลาที่แท้จริงของการสร้างวัด เพราะมีจารึกภายในวัดระบุถึงรัชศกว่านลี่ (Wanli) ปีที่ 28 ของราชวงศ์หมิง ซึ่งตรงกับปี ค.ศ. 1600 จึงอาจเป็นไปได้ว่าวัดแห่งนี้มีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว หรืออาจมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15
ต่อมาในปี ค.ศ. 1673 ได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมภายใต้การนำของกัปตัน Li Wei King Koon Chang โดยวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างได้ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน วัดนี้ทำหน้าที่เป็นสถานที่สักการะหลักของชุมชนชาวฮกล่อ (ฮกเกี้ยน) ในท้องถิ่น
ในปี ค.ศ. 1704 กัปตัน Chan Ki Lock ได้ก่อสร้างศาลาหลักของวัดขึ้น ต่อมาในปี ค.ศ. 1801 วัดได้รับการบูรณะอีกครั้งภายใต้การนำของกัปตัน Chua Su Cheong Tok Ping ซึ่งเป็นบิดาของ Choa Chong Long กัปตันคนแรกของสิงคโปร์ โดยมีการเพิ่มเติมโครงสร้างของวัดอีกหลายส่วน
ในปี ค.ศ. 1962 พระอธิการ Seck Kim Seng ได้บวชพระภิกษุณี Houn Jiyu-Kennett ซึ่งเป็นพระนิกายเซนชาวอังกฤษ และต่อมากลายเป็นผู้ก่อตั้งองค์กร Order of Buddhist Contemplatives ที่วัดแห่งนี้
ต่อมาในปี ค.ศ. 2003 วัดเจ็งฮุนเต็งได้รับรางวัลจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) สำหรับการบูรณะสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยม
ลักษณะของวัด
วัดตั้งอยู่ใกล้กับถนน Jalan Tukang Emas ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ถนนแห่งความกลมเกลียว” (Harmony Street) เนื่องจากอยู่ใกล้กับมัสยิดกัมปงก์กลิง (Kampung Kling Mosque) และวัดฮินดูศรีโพยะฐะมูรธี (Sri Poyatha Moorthi Temple) วัดครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4,600 ตารางเมตร
วัดมีประตูทางเข้าหลักที่งดงาม หันหน้าไปทางถนนต๊กก๋ง และภายใน เป็นกลุ่มอาคารศาลาสวดมนต์หลายหลัง โดยมีศาลาหลักขนาดใหญ่ ที่อุทิศให้แก่เจ้าแม่กวนอิม (เทพีแห่งความเมตตา)
ต่อมา ได้มีการสร้างศาลาสวดมนต์ขนาดเล็ก เพิ่มเติมอีกหลายหลัง หนึ่งในนั้น อุทิศให้กับเทพเจ้าจีนด้านโชคลาภ อายุยืน และการสืบเผ่าพันธุ์ อีกแห่งหนึ่ง ใช้สำหรับวางแผ่นจารึกบรรพบุรุษ
หนึ่งในจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของวัดแห่งนี้คือ เสาธงสีแดง สูงเจ็ดเมตรสองต้น ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลาหลักของวัด ซึ่งพบเห็นได้ไม่บ่อย ในสถาปัตยกรรมวัดจีน
อีกฝั่งหนึ่งของถนนตรงข้ามวัด มีโรงละครงิ้วแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของวัดเจ็งฮุนเต็งเช่นกัน อาคารทั้งหมดของวัดถูกออกแบบตามหลักฮวงจุ้ย โดยจัดวางให้สามารถมองเห็นแม่น้ำ และที่สูงทั้งสองด้านอย่างเหมาะสม
















