รัสเซียสร้างสถิติโลกใหม่ ถูกคว่ำบาตรหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่เหตุใดสหรัฐฯ และชาติตะวันตกยังเดินหน้าเพิ่มแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง
ใช่วงที่ผ่านมา รัสเซียได้สร้างสถิติโลกครั้งใหม่ในฐานะประเทศที่ถูกมาตรการคว่ำบาตร (Sanction) หนักหน่วงและรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่สถิติที่ใครพึงปรารถนา อย่างไรก็ตาม แม้รัสเซียจะเผชิญกับการคว่ำบาตรจำนวนมหาศาลจากนานาประเทศแล้ว แต่สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรยังคงเดินหน้าเสริมมาตรการกดดันอย่างต่อเนื่อง
จุดที่น่าสนใจคือ เหตุใดมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ จึงยังไม่หยุดการคว่ำบาตร แม้ว่ามาตรการต่าง ๆ จะถูกใช้ไปแล้วในระดับที่สูงที่สุดก็ตาม
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัสเซียยังคงเป็นที่จับตามอง ได้แก่
ผู้นำที่มั่นใจและคลังอาวุธนิวเคลียร์
รัสเซียมีผู้นำที่ถือว่ามีความมั่นใจในแนวทางการเมืองและการทหารอย่างสูง รวมถึงมีคลังหัวรบนิวเคลียร์ที่นับเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญระดับโลก ซึ่งส่งผลต่อสมดุลของอำนาจในเวทีระหว่างประเทศ
ทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
รัสเซียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติมากที่สุด ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และแร่ธาตุต่าง ๆ ซึ่งยังคงมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจโลก
ความร่วมมือกับกลุ่ม BRICS
รัสเซียเป็นสมาชิกสำคัญของกลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้) ซึ่งมีบทบาททางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การคว่ำบาตรอาจไม่สามารถโดดเดี่ยวรัสเซียได้อย่างสมบูรณ์
เศรษฐกิจที่ยังคงเติบโต
แม้จะถูกกดดันอย่างหนัก แต่เศรษฐกิจรัสเซียยังคงแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวและการเติบโตในบางภาคส่วน ซึ่งสร้างความกังวลให้กับประเทศที่ต้องการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อกดดันให้รัสเซียเปลี่ยนท่าที
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะมีมาตรการกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยพื้นฐานของรัสเซียยังคงทำให้ชาติตะวันตกต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และเดินหน้าการคว่ำบาตรต่อไปเพื่อควบคุมอิทธิพลของรัสเซียในเวทีระหว่างประเทศ












