ลงคลิปที่แพลตฟอร์มใด ได้รายได้มากที่สุด:Facebook,TikTokหรือ YouTube
ในยุคปัจจุบัน การสร้างรายได้จากการลงคลิปวิดีโอกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Facebook, TikTok และ YouTube ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มต่างมีรูปแบบการสร้างรายได้ที่แตกต่างกันออกไป หลายคนอาจสงสัยว่า หากต้องการหารายได้จากการลงคลิป ควรเลือกใช้แพลตฟอร์มใดจึงจะคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจน
1. YouTube
YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างรายได้จากโฆษณาผ่านโปรแกรม YouTube Partner Program (YPP) ซึ่งผู้สร้างเนื้อหาสามารถรับรายได้จากการโฆษณาที่แทรกในคลิป รวมถึงการสมัครสมาชิก (Membership) และการสนับสนุนจากผู้ชม (Super Chat) โดยทั่วไปแล้ว รายได้จาก YouTube ถือว่ามั่นคงและสามารถสร้างรายได้ระยะยาวได้ หากมีจำนวนผู้ติดตามและยอดชมที่มากพอ รายได้เฉลี่ยต่อการดู 1,000 ครั้ง (CPM) อยู่ระหว่าง 0.5 – 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรืออาจสูงกว่านั้นในบางกลุ่มเนื้อหาและพื้นที่
2. Facebook
Facebook เปิดโอกาสให้ผู้สร้างเนื้อหาทำรายได้จากโฆษณาที่แทรกในวิดีโอ (In-stream ads) และระบบ Stars ที่ผู้ชมส่งให้ผู้สร้างเป็นการสนับสนุน รายได้จาก Facebook นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประเภทของเนื้อหา, ความยาววิดีโอ, และกลุ่มผู้ชม อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน Facebook เริ่มมีการแข่งขันสูง และกฎเกณฑ์การเข้าร่วมสร้างรายได้มีความเข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ
3. TikTok
TikTok เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่กำลังมาแรง โดยมีโครงการ TikTok Creator Fund และการทำสปอนเซอร์หรือขายสินค้า (Affiliate Marketing) เป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้ อย่างไรก็ตาม รายได้จาก TikTok Creator Fund ยังถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น โดยมีรายงานว่ารายได้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 – 4 เซนต์สหรัฐฯ ต่อ 1,000 วิว
สรุป
- หากต้องการสร้างรายได้ระยะยาวและมั่นคง YouTube ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง
- หากมีฐานแฟนคลับใน Facebook และวิดีโอมีความยาวเหมาะสม Facebook ก็เป็นอีกทางเลือกที่ทำรายได้ดี
- สำหรับ TikTok แม้รายได้ตรงจากการดูจะไม่สูง แต่สามารถต่อยอดสร้างรายได้จากสปอนเซอร์หรือขายสินค้าได้ดี
การเลือกแพลตฟอร์มควรพิจารณาตามความถนัดของผู้สร้างเนื้อหา ประเภทของเนื้อหาที่นำเสนอ และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง เพื่อให้การสร้างรายได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

















