รีวิวหนังสือ mini habit นิสัยจิ๋วของคนที่ประสบความสำเร็จ
เนื้อหาโดย machete007
ความสำเร็จเล็กๆน้อยๆที่สะสมทุกวันแบบไม่มีเว้น เชื่อหรือไม่ว่าจะนำพาไปสู่ความสำเร็จที่ต้องการได้จริง อย่างน้อยก็เป็นการเพิ่มแนวโน้มของความสำเร็จในเรื่องนั้นให้เพิ่มมากขึ้น
ซาโต้ เด็น จะมาขยายความเรื่องนี้ในแบบฉบับสไตล์ของคนญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องของการพัฒนาตัวเองท่ามกลางการแข่งขันสูงและสังคมที่ไม่เอื้อให้กับความคิดและการกระทำของคนรุ่นใหม่
ความรู้ความประทับใจในมุมมองของครีเอเตอร์
- ได้เรียนรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต คือ การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”แม้จะมีบ้านพักตากอากาศหลายหลัง แต่หากเราเครียด จนอารมณ์ขุ่นมัวทุกวันก็ไร้ความหมาย ในทางกลับกัน ถึงจะมีบ้านเล็กๆ แต่หากอารมณ์ดีทุกวันคงมีความสุขมากกว่า
- ได้เรียนรู้ว่าพอเราเริ่มคิดแง่ลบสักครั้ง ความคิดแง่ลบก็จะดึงดูด ความคิดแง่ลบเข้าอีก ทำให้ความคิดแบบนี้เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ได้เรียนรู้ว่าการอ่านหนังสือช่วยให้เรารู้เคล็ดลับการฟันฝ่าอุปสรรคของคนที่ประสบความสำเร็จและได้เรียนวิธีคิดแบบต่างจากวิถีชีวิต ของผู้คนในพื้นที่ห่างไกล ทำให้วิสัยทัศน์ในการใช้ชีวิตที่กว้างขึ้น อีกทั้งช่วยให้จิตใจผ่อนคลายอีกด้วย แค่อ่านหนังสือก็สามารถสัมผัสชีวิตได้หลากหลายรูปแบบแล้ว เราจึงพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
- ได้เรียนรู้ว่าถ้าเราตื่นนอนตอนเช้าด้วยความยากลำบาก เราก็จะเริ่มวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีในทางกลับกัน ถ้าเราตื่นเช้า ด้วยความรู้สึกสดชื่นเราก็จะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความรู้สึกว่าเป็นวันที่ดีที่สุด
- ได้เรียนรู้ว่าหากเรากินมื้อดึก เลือดก็จะไหลเวียนไปรวมกันที่กระเพาะอาหาร ทำให้เลือดที่ควรไปเลี้ยงสมอง มีไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะสมองขาดภาวะออกซิเจนได้ สาเหตุที่เรากินดึกเป็นเพราะเรานอนดึกแต่ถ้าเราตระหนักว่า ต้อง “เข้านอนก่อนเที่ยงคืนก็จะหลีกเลี่ยงการกินมื้อดึกได้
- ได้เรียนรู้ว่าช่วงเวลาสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืนถือเป็น “เวลาทองของการนอน เพราะช่วงเวลาของการนอน เพราะช่วงเวลาดังกล่าว เซลล์จะซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกทั้งฮอร์โมนที่ช่วยฟื้นฟูความเหนื่อยล้าจะถูกหลั่งออกมาปริมาณมาก
- ได้เรียนรู้ว่าระหว่างการเข้านอน ตอนสี่ทุ่มแล้วตื่นตอนตีห้ากับการเข้านอนตอนตีสอง คุณภาพการนอนต่างกันลิบลับ สี่ทุ่มเป็นเวลานอนที่เหมาะสมที่สุด ในกรณีที่งานยุ่ง ขอแค่นอนไม่เกินเที่ยงคืน วันรุ่งขึ้น คุณก็สามารถตื่นนอน ด้วยความรู้สึกสดชื่นได้แล้ว จำไว้ว่าคติ คือ “นอนวันนี้ ตื่นพรุ่งนี้"
- ได้เรียนรู้ว่าการคิดว่าตัวเองจะตายก่อนนอนทุกวันจะทำให้เราใช้ชีวิตแต่ละวันด้วยความรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ยังมีชีวิตอยู่
- ได้เรียนรู้ว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด หรือ แย่ที่สุด พอหมดวัน เราก็ต้องเข้านอน ซึ่งข้อควรระวังก่อนนอน คือ “สิ่งที่เรานึกถึงในตอนเคลิ้มๆใกล้หลับ นั้น จะซึมซับเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึก”การนึกถึงวันที่ดีแล้วนอนหลับ ด้วยอารมณ์แง่บวกเป็นเรื่องดี แต่ในวันที่เราเจอกับเรื่องที่ไม่ดีมา ถ้าเรานึกย้อนถึงเรื่องราวแง่ลบ ภาพแง่ลบก็จะซึมซับเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึก
- ได้เรียนรู้ว่ายิ่งงานยุ่งมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งตัดสินใจทำสิ่งต่างๆตามความเร่งด่วน” ปัญหาคือ เรามักจะหลงลืม“สิ่งที่ไม่เร่งด่วนแต่สำคัญ” ไป ทั้งที่ความจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จและมีความสุข
- ได้เรียนรู้ว่าเวลากลับบ้าน หลังจากทำงานมาทั้งวัน เรามักจะอยู่ในสภาพที่เหนื่อยล้า ซึ่งถ้าเรานำความเหนื่อยล้าเข้าไปในบ้านด้วย บ้านที่ควรมีไว้เพื่อเติมพลัง ก็จะกลายเป็นสถานที่สั่งสมความเหนื่อยล้าแทน การปรับเปลี่ยนอารมณ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญถ้าเรากระโดดโลดเต้นก่อนถึง ประตูบ้านสัก 3 เมตร จิตใจของเราจะคึกคักขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะร่างกายกับจิตใจเชื่อมโยงถึงกัน ถึงจะอยู่คนเดียวก็ให้พูดว่า“กลับมาแล้ว” อย่างร่าเริง แล้วห้องของคุณจะกลายเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
- ได้เรียนรู้ว่าหากเรายืนพูดพึมพำไปด้วยสมองก็จะตื่นตัว เพราะความดันเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เราจดจำได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย และถ้าเราเคลื่อนไหวแบบง่ายๆ ระหว่างการจำ เช่น เดินไปเดินมาในห้อง ทำท่าสควอตเบาๆ หรือ ออกกำลังกายตามสเตป ก็จะช่วยให้จดจำได้ดียิ่งขึ้น
- ได้เรียนรู้ว่าหากเรายึดกล้ามเนื้อก่อนอ่านหนังสือแบบเดียวกับตอนเล่นกีฬา เลือดจะไหลเวียนได้ดีส่งผลให้ผลการเรียนดีขึ้นตามไปด้วย
- ได้เรียนรู้ว่าเมื่อเราฝึกสมองซีกขวา ความถนัดด้านความคิดสร้างสรรค์ และศิลปะ ของเราจะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเราฝึกสมองซีกซ้าย ความถนัดด้าน ความมีเหตุผลและภาษาของเราก็จะเพิ่มสูงขึ้น
- ได้เรียนรู้ว่าสมองซีกขวาและสมองซีกซ้ายจะเชื่อมโยงกับร่างกายที่อยู่ด้านตรงข้าม โดย สมองซีกขวาจะเชื่อมโยงร่างกายท่อนบน ด้านซ้าย และ สมองซีกซ้ายจะเชื่อมโยงร่างกายท่อนบนด้านขวานั่นหมายความว่า ถ้าเราใช้มือขวาก็จะได้ฝึกสมองซีกซ้าย ถ้าเราใช้มือซ้าย ก็จะได้ฝึกสมองซีกขวา
- ได้เรียนรู้ว่าหากคุณใช้มือขวาเขียนหนังสือแล้ว มือซ้ายไม่ได้ใช้งานก็ให้ลองใช้มือซ้ายไล่ตามประโยคคำถามหรือเคาะโต๊ะดู เมื่อใช้มือซ้ายแบบนี้ สมองซีกขวาก็จะถูกกระตุ้นทำให้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้จะเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแต่ก็เป็นสิ่งที่ย้ำเตือนกิจวัตรของเราให้ปรับเปลี่ยนทีละนิดเพื่อเป้าหมายอย่างที่เราต้องการ หนังสือรูปเล่มเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก ในรูปแบบที่น่าถือครอง ลองหาอ่านเพิ่มเติมจากเนื้อหาทั้งเล่มได้เลยครับ
เนื้อหาโดย: machete007
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
บทวิเคราะห์ความสำเร็จซีรีส์ไทยปี 68 เมื่อ 'สงครามส่งด่วน' และ 'สาธุ 2' ทลายกรอบการเล่าเรื่องเดิมสู่ระดับสากล
หลังหยุดยิงได้ไม่กี่ชั่วโมง พบเครื่องบินปริศนา บินเข้าสู่กรุงพนมเปญ
กกต.ไฟเขียวยูทูปเบอร์,อินฟลูเอนเซอร์ ลงสนามการเมืองได้Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หากขนมปังมีส่วนที่ขึ้นรา ฉีกออกแล้วกินต่อได้ไหม ?
กกต.ไฟเขียวยูทูปเบอร์,อินฟลูเอนเซอร์ ลงสนามการเมืองได้
หลังหยุดยิงได้ไม่กี่ชั่วโมง พบเครื่องบินปริศนา บินเข้าสู่กรุงพนมเปญ
บทวิเคราะห์ความสำเร็จซีรีส์ไทยปี 68 เมื่อ 'สงครามส่งด่วน' และ 'สาธุ 2' ทลายกรอบการเล่าเรื่องเดิมสู่ระดับสากล
โจรวิ่งชนกระจกดับเพราะเสียเลือดมากเกินไป ที่ฉะเชิงเทรา
บุรีรัมย์เดือด! ศึกชิงเก้าอี้ สส. วันแรกคึกคัก 'ไหม ศิริกัญญา' บุกถิ่นพรรคสีน้ำเงิน ท้าชนกลุ่มอำนาจเดิม







