Radiesse สารกระตุ้นคอลลาเจน CaHA ย้อนวัยผิว คืออะไร?
Radiesse สารกระตุ้นคอลลาเจน CaHA ย้อนวัยผิว คืออะไร?
เมื่ออายุมากขึ้น การดูแลผิวด้วยสกินแคร์อาจไม่เพียงพอ “Radiesse” เป็นทางเลือกใหม่ในการเติมคอลลาเจนให้ผิวหน้า ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า ดูสดใสจากภายในสู่ภายนอก ในบทความนี้ รมย์รวินท์คลินิก จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Radiesse ว่าคืออะไร และช่วยได้อย่างไรค่ะ
Radiesse คืออะไร?
Radiesse คือ สารฉีดที่มีส่วนประกอบของ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว โดยทำให้ผิวหน้ากระชับ โครงหน้าชัดเจน และเพิ่มความอ่อนเยาว์ ช่วยฟื้นฟูผิวในระยะยาว
จุดเด่นของ Radiesse
จุดเด่นของ Radiesse คือ การช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ซึ่งจะช่วยลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิวหน้า โดยมีสารไฮยาลูรอน (Hyaluronic acid) ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นให้กับผิว Radiesse เป็นนวัตกรรมการฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม ซึ่งเน้นการเสริมความอิ่มฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น พร้อมเพิ่มความมั่นใจจากภายใน
Radiesse มีกี่รุ่น?
Radiesse มี 2 รุ่น คือ Radiesse Filler และ Radiesse Filler Lidocaine (+) โดยรุ่นแรกไม่มีส่วนผสมของยาชา ส่วนรุ่น Lidocaine (+) จะมียาชาผสมเพื่อช่วยลดความเจ็บระหว่างการรักษาค่ะ
Radiesse มีหลักการทำงานอย่างไร?
หลักการทำงานของ Radiesse คือ การใช้สาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ในการกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจนในบริเวณที่ฉีด โดยการกระตุ้นนี้จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิวชั้นลึกและเติมเต็มคอลลาเจนให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น นอกจากนี้ CaHA ยังช่วยเพิ่มการสร้างอีลาสตินใต้ผิวหนัง ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นถึง 250% ทำให้ผิวดูมีวอลลุ่มและลดร่องลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์
CaHA ใน Radiesse คืออะไร?
CaHA หรือ Calcium Hydroxylapatite Microsphere คือ สารธรรมชาติที่พบในกระดูกและฟันของเรา ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและเป็นส่วนประกอบหลักของ Radiesse เมื่อใช้ในงานฟื้นฟูผิว มีลักษณะเป็นอนุภาคขนาดเล็กประมาณ 25-45 ไมครอน ในกระบวนการฉีด Radiesse, CaHA จะกระตุ้นไฟโบรบลาสต์ให้ผลิตคอลลาเจน ช่วยให้ผิวฟื้นฟูและดูอิ่มฟูขึ้น โดยไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกันและสามารถสลายไปเองตามธรรมชาติ
ประโยชน์ของ Radiesse
- กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูสุขภาพดี
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยกระตุ้นการสร้างสารน้ำเลี้ยงผิว
- เสริมสร้างอีลาสติน ทำให้ผิวยืดหยุ่นขึ้น 260%
- กระตุ้นการผลิตไฟโบรบลาสต์ และโปรตีนในร่างกาย ส่งผลให้คอลลาเจนเพิ่มขึ้น
- เพิ่มคอลลาเจนประเภท I ขึ้น 150% ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว
- เพิ่มคอลลาเจนประเภท III ขึ้น 130% ทำให้ผิวดูมีวอลลุ่ม และริ้วรอยตื้นขึ้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.romrawinclinic.com/filler/radiesse-filler
Radiesse ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง?
ตำแหน่งที่สามารถฉีด Radiesse:
- ร่องแก้ม: เติมคอลลาเจนเพื่อลดร่องลึกและทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์
- ขมับตอบ: แก้ปัญหาขมับตอบและทำให้โครงหน้าชัดเจน
- กรอบหน้า: เพิ่มความชัดเจนให้กรอบหน้าและทำให้ผิวดูสุขภาพดี
- หลังมือ: ลดริ้วรอยจากการสูญเสียไขมัน
- เนินอก: เติมคอลลาเจนเพื่อทำให้เนินอกดูเต่งตึง
- ร่องน้ำหมาก: ลดริ้วรอยที่มุมปากด้วยการเติมคอลลาเจน
การฉีด Radiesse ไม่เหมาะกับจุดที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น คาง ปาก หรือใต้ตา ควรเลือกฟิลเลอร์แทน
Radiesse เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป หรือมีริ้วรอยตามวัย
- ผู้ที่ต้องการผิวหน้าอ่อนเยาว์และกระชับ
- ผู้ที่มีกรอบหน้าหรือโครงหน้าไม่ชัดเจน
- ผู้ที่มีผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น
- ผู้ที่มีร่องลึกและรอยย่นบนใบหน้า
- ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยและรูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่ต้องการเติมคอลลาเจนให้ผิวหน้า
Radiesse ไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบใน Radiesse
- ผู้ที่มีอาการอักเสบบริเวณผิวหนัง
- ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเริม
- ผู้ที่เสี่ยงเกิดคีลอยด์หรือรอยแผลเป็นนูน
- ผู้ที่มีโรคเลือดออกง่าย
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชาอย่างรุนแรง
Radiesse ต่างจากหัตถการอื่นอย่างไร?
- Radiesse กับ Sculptra ต่างกันอย่างไร?
Radiesse และ Sculptra เป็นการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังที่มีหลักการทำงานคล้ายกัน แต่ต่างกันที่ตัวยา โดย Sculptra ใช้สาร PLLA (Poly-L-Lactic acid) ซึ่งเป็นสารแปลกปลอมที่เมื่อร่างกายได้รับเข้าไป ระบบภูมิคุ้มกันจะกระตุ้นให้ไฟโบรบลาสต์ผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ในขณะที่ Radiesse ใช้ CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย เมื่อฉีดเข้าสู่ผิว จะไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบจากระบบภูมิคุ้มกัน แต่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากการสร้างโครงข่าย 3 มิติของ CaHA ทำให้ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกันในด้านสารที่ใช้และวิธีการกระตุ้นคอลลาเจน
- Radiesse กับ Rejuran ต่างกันอย่างไร?
Radiesse และ Rejuran & Rejuran I ต่างเป็นหัตถการที่กระตุ้นคอลลาเจนในผิว แต่มีจุดเน้นที่แตกต่างกัน โดย Rejuran เน้นการบำรุงผิวให้แข็งแรง ฟื้นฟูริ้วรอยและลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและมีความยืดหยุ่น ลดโอกาสการเกิดริ้วรอย ส่วน Radiesse มุ่งเน้นในการลดเลือนริ้วรอยและเติมคอลลาเจนให้กับผิวให้ดูอิ่มฟู ซึ่ง Rejuran เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิว ขณะที่ Radiesse เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเฉพาะเจาะจงและเติมเต็มคอลลาเจนค่ะ
- Radiesse กับ Skin Booster ต่างกันอย่างไร?
Radiesse และ Skin Booster เป็นหัตถการที่ช่วยดูแลผิวหน้าแต่มีวิธีการและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน โดย Skin Booster เน้นการเติมสาร Hyaluronic Acid และสารบำรุงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะป้องกันการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนเดิมและลดริ้วรอยในอนาคต ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหน้าและยี่ห้อของสกินบูสเตอร์ ขณะที่ Radiesse จะช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยลึกได้ดีกว่า เพราะการทำงานของ Radiesse กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์โดยตรง ทำให้สร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงกว่าในการฟื้นฟูโครงสร้างผิว
- Radiesse กับ ฉีดหน้าใส ต่างกันอย่างไร?
การฉีดหน้าใสและการทำ Radiesse เป็นการดูแลผิวหน้าแต่มีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน ฉีดหน้าใสเน้นการฉีดวิตามินและสารสกัดต่าง ๆ เพื่อบำรุงผิวหน้าโดยตรง ช่วยให้ผิวดูใสขึ้นและลดปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำในระยะเวลา 7-14 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็วและไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ขณะที่ Radiesse ใช้สาร CaHA เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยและลดริ้วรอยแห่งวัย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาผิวที่เกิดจากการขาดคอลลาเจน เช่น ริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อย
- Radiesse กับ ฉีดชาแนล ต่างกันอย่างไร?
การฉีดชาแนล (New Cell Treatment Factor) และ Radiesse ต่างก็เป็นการดูแลผิวหน้า แต่มีหลักการทำงานที่แตกต่างกัน ชาแนลเป็นการฉีดสารอาหารสำคัญกว่า 55 ชนิดเข้าสู่ผิว เพื่อฟื้นฟูผิวให้มีความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยผลลัพธ์จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 2-6 สัปดาห์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวขาดน้ำและริ้วรอยลึก ขณะที่ Radiesse ใช้สาร CaHA เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว โดยกระตุ้นองค์ประกอบหลัก 5 ตัว ได้แก่ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin, Proteoglycan และ Angiogenesis ซึ่งช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและกระชับ ทำให้การใช้ Radiesse เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยลึกและการกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
ก่อนฉีด Radiesse เตรียมตัวอย่างไร?
- แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
- งดยากลุ่มต้านการอักเสบ
- งดวิตามิน อาหารเสริม และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนฉีด
- งดสครับผิวและครีมบำรุงที่มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว
หลังฉีด Radiesse ดูแลตัวเองอย่างไร?
- งดดื่มแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดออกกำลังกายและหลีกเลี่ยงความร้อน
- ไม่จับหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด
- งดแต่งหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- หากมีอาการบวมแดง ให้ประคบเย็นช่วยลดอาการช้ำ
Radiesse คือ การเติมคอลลาเจนให้ผิวหน้าผ่านการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยปรับโครงสร้างผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือเหี่ยวย่นจากวัยชรา ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและเครื่องมือที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หากสนใจ Radiesse หรือฟิลเลอร์ สามารถขอคำปรึกษา และดูแลจากแพทย์ที่รมย์รวินท์คลินิก พร้อมบริการด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย และประสบการณ์ที่มีคุณภาพ

















