ทำไมเยอรมนีจึงเป็นประเทศแห่งวิศวกรรม ?
เยอรมนี” ประเทศที่เป็นสุดยอดแห่งความก้าวหน้าทางวิศวกรรม ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร ยานยนต์ ไปจนถึงระบบอาณัติสัญญาณรถไฟฟ้า
เครื่องมือเครื่องใช้สัญชาติเยอรมันถึงแม้จะมีราคาสูง แต่ก็แลกมากับประสิทธิภาพ ความคงทน และนวัตกรรมที่ล้ำหน้ากว่าใคร
หลายบริษัทที่แม้จะมีอายุมากกว่า 100 ปี แต่แบรนด์เยอรมันเหล่านี้ยังคงการันตีถึงคุณภาพ และความเชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้
แล้วความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของเยอรมนีมีจุดเริ่มต้นมาจากไหน ?
ขอพาทุกท่านย้อนไปในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมราวศตวรรษที่ 19
อย่างที่หลายคนทราบแล้วว่า อังกฤษเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ตั้งแต่ช่วง ค.ศ. 1780 ตามมาด้วยเบลเยียม และฝรั่งเศส
ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอื่น ๆ ในยุโรปกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ความก้าวหน้า เยอรมนีกลับเพิ่งรวมประเทศ โดยดินแดนที่เป็นประเทศเยอรมนีในปัจจุบันเพิ่งรวมกันอย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1871 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ของราชอาณาจักรสยาม จากการรวมดินแดนของชนเผ่าเยอรมัน นำโดยราชอาณาจักรปรัสเซียทางตอนเหนือ กับแคว้นน้อยใหญ่ทางตอนใต้ ภายใต้การนำของจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 และนายกรัฐมนตรี ออทโท ฟอน บิสมาร์ค
การปฏิวัติอุตสาหกรรมที่หลัง ทำให้ชาวเยอรมันไม่อยากเสียเวลาลองผิดลองถูก เพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า สิ่งสำคัญในเรื่องนี้ก็คือ การวาง
กระบวนการศึกษาและวิจัยอย่างเป็นระบบ ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการ “ปฏิรูปการศึกษา” เป็นอันดับแรก
แม้หลายประเทศในยุโรปจะมีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยมาตั้งแต่ยุคกลาง แต่วงการนักวิชาการของยุโรป จะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมมากนัก
นักวิชาการจะวางตัวเป็น “สุภาพบุรุษ” ไม่ทำธุรกิจ และไม่ยุ่งกับภาคอุตสาหกรรม ส่วนพวกช่างกล ช่างเทคนิค หรือใครก็ตามที่ทำงานเกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมก็จะถูกมองว่าต่ำต้อยกว่านักวิชาการ แต่การศึกษาของเยอรมนีไม่มองอย่างนั้น
ด้วยความที่เยอรมนีไม่มีอาณานิคม แถมยังปฏิวัติอุตสาหกรรมช้ากว่าหลายประเทศ สิ่งเดียวที่จะทำให้จักรวรรดิที่เพิ่งก่อตั้ง ก้าวหน้าไปไกลกว่าคนอื่นได้ คือความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะด้าน “วิทยาศาสตร์ประยุกต์”
ภายใต้การนำของบิสมาร์ค การทุ่มงบประมาณด้านการศึกษาอย่างมหาศาลจึงเกิดขึ้น ทั้งการให้สวัสดิการด้านการศึกษา มีการก่อตั้งมหาวิทยาลัย
ด้านเทคนิค ที่เน้นการศึกษาในสายช่าง และสายอาชีพวิศวกรรมโดยเฉพาะราชวิทยาลัยเทคนิคแห่งเบอร์ลิน ถูกจัดตั้งในปี ค.ศ. 1879 พัฒนามาจาก
วิทยาลัยด้านเหมืองแร่ที่ถูกก่อตั้งใน ค.ศ. 1770 ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้คือ มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเบอร์ลิน (Technische Universität Berlin) นอกจากที่เบอร์ลินแล้ว ยังมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคนิคที่รัฐอื่น ๆ ทั่วประเทศ
ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
- มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเมืองดาร์มสตัดท์ จัดตั้งในปี ค.ศ. 1877
- มหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเมืองมิวนิค จัดตั้งในปี ค.ศ. 1879
การมีมหาวิทยาลัยเฉพาะทางด้านช่างและวิศวกรรม ทำให้มีแรงงานเฉพาะทางและช่างเทคนิคจำนวนมาก เมื่อแรงงานเหล่านี้เรียนจบมา ก็สามารถเข้าทำงานในภาคอุตสาหกรรมได้ทันที
รัฐบาลยังสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยทำความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม มีงานวิจัยร่วมกันระหว่างนักวิชาการกับนักธุรกิจในแวดวงอุตสาหกรรม
งานวิจัยด้านวิศวกรรมจึงถูกนำไปใช้ในโลกธุรกิจได้ง่าย เมื่อธุรกิจสามารถทำกำไรได้ ก็ให้เงินกลับมาสนับสนุนงานวิจัยต่อไปเรื่อย ๆ ภายหลังบริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่ง ก็เริ่มมีสถาบันวิจัยและพัฒนาเป็นของตัวเองอีกด้วย
การพัฒนาด้านวิศวกรรมของเยอรมนีจึงเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า
ศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของจักรวรรดิเยอรมนีตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำรุว์ร หรือเรียกว่า รัวร์เกอเบียท (Ruhrgebiet) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ บริเวณนี้เป็นแหล่งแร่เหล็กและถ่านหินที่สำคัญ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเอสเซิน
แต่เดิมอุตสาหกรรมเหล็กส่วนใหญ่ใช้เหล็กอ่อน เหล็กเหล่านี้มีความเปราะ ทำให้ยังไม่สามารถประยุกต์เพื่อใช้งานได้มากนัก
เพื่อให้เหล็กแข็งแรงและทนทานมากยิ่งขึ้น จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมีของเหล็ก ด้วยการหลอมและเติมแร่ธาตุลงไป ให้กลายเป็นเหล็กกล้า แต่การหลอมให้เป็นเหล็กกล้า ต้องใช้อุณหภูมิที่สูงมาก ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีเตาที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าสำหรับการผลิต
วิธีการผลิตเหล็กกล้าแบบ Siemens-Martin ซึ่งคิดค้นในปี ค.ศ. 1865 โดยนักวิจัย 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นชาวเยอรมันชื่อ Sir Carl Wilhelm Siemens
ได้สร้างเตาถลุงเหล็กแบบเร่งไฟ ที่ทำความร้อนในระดับที่สูงได้ถึง 1,500องศาเซลเซียส เรียกกันว่า เตากระทะ หรือ Open hearth furnace ด้วยระบบการศึกษาที่เชื่อมงานวิจัยกับภาคอุตสาหกรรมอย่างแนบแน่น ไม่นาน บริษัทเหล็กกล้าสัญชาติเยอรมันก็ได้นำเตาถลุงแบบใหม่ เข้ามาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าอย่างรวดเร็ว นำโดยบริษัทเหล็กกล้า ชื่อว่า Krupp
บริษัท Krupp ก่อตั้งโดยตระกูล Krupp มีประวัติย้อนไปถึงกลางศตวรรษที่ 16 มีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองเอ็สเซ็น ในช่วงที่การรถไฟของเยอรมนีขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมืองเอ็สเซ็นกลายเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเหล็ก บริษัท Krupp ก็เป็นผู้นำในการผลิตสินค้าจากเหล็ก เช่น รางรถไฟและหัวรถจักร
Alfred Krupp ได้มอบเงินทุนสนับสนุนการวิจัย เพื่อค้นหาวิธีการผลิตเหล็กกล้าให้แก่เหล่านักวิชาการ จนเมื่อมีเตาถลุงแบบใหม่ออกมาเป็นผลสำเร็จ บริษัท Krupp ก็ได้กลายเป็นผู้นำในการผลิตเหล็กกล้าส่งออกไปทั่วโลก จากรางรถไฟพัฒนาสู่เครื่องจักร และยุทธปัจจัย
แม้อุตสาหกรรมเหล็กกล้าจะลดบทบาทลง แต่ Thyssenkrupp ก็ได้ต่อยอดมาเป็นผู้นำในด้านเครื่องจักร ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ส่วนประกอบเครื่องบิน ลิฟต์และบันไดเลื่อน นอกจากอุตสาหกรรมเหล็กกล้าแล้ว อีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่องค์ความรู้
ด้านวิศวกรรมของเยอรมนีก้าวหน้ากว่าหลายประเทศในช่วงเวลาเดียวกัน คืออุตสาหกรรมไฟฟ้า
นำโดยบริษัทที่ชื่อว่า “Siemens
ไม่นาน เยอรมนีก็ขึ้นแท่นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ของยุโรปแซงหน้าอังกฤษปัจจุบัน บริษัท Krupp ได้ควบรวมกับบริษัทเหล็กกล้า Thyssen กลายเป็นบริษัท "Thyssenkrupp”
ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ คือ Werner von Siemens วิศวกรไฟฟ้าชาวเบอร์ลิน ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของ Sir Carl Withetrn Siemens ผู้คิดค้นวิธีการผลิตเหล็กกล้า
Werner von Siemens ได้คิดค้นระบบโทรเลขชนิดที่พิมพ์เป็นตัวอักษรโดยอัตโนมัติ แทนการเคาะใช้รหัสมอร์ส หลังจากนั้นจึงได้ก่อตั้งบริษัท Siemensขึ้นในปี ค.ศ. 1847
ไม่นาน บริษัท Siemens ก็ขยายกิจการไปทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา Werner von Siemens ยังเป็นผู้พัฒนาลิฟต์ไฟฟ้าตัวแรกของโลกในปี ค.ศ. 1880
เป็นผู้ประดิษฐ์ไดนาโม เครื่องกลที่เปลี่ยนพลังงานกลให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและสร้างรถเมล์ไฟฟ้า หรือ Trolley Bus ในปี ค.ศ. 1882
ปัจจุบัน Siemens คือบริษัทด้านวิศวกรรมไฟฟ้าชั้นแนวหน้าของโลกมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า รถไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟฟ้า ไปจนถึงเทคโนโลยีกังหันลมนอกจาก Thyssenkrupp และ Siemens ซึ่งมีอายุแบรนด์ไม่ต่ำกว่า 100 ปีแล้ว เยอรมนียังมีบริษัทด้านวิศวกรรมอีกมากมายที่ล้วนมีอายุใกล้เคียงกัน
- ทั้งบริษัท Leica ที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1869 เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตเลนส์สายตา อุปกรณ์การแพทย์ และกล้องถ่ายรูป
- บริษัท AEG ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1883 ผู้ผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่และระบบรถรางไฟฟ้า
- บริษัท Osram ซึ่งแยกมาจาก Siemens ในปี ค.ศ. 1909 เป็นผู้นำในเทคโนโลยีหลอดไฟ
การทุ่มเทพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และเชื่อมโยงเข้ากับภาคธุรกิจอย่างเหนียวแน่น เปิดความก้าวหน้าใหม่ทางด้านวิศวกรรม และพาให้เยอรมนีก้าวขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก แต่ไม่ใช่เพียงความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แลอุตสาหกรรมไฟฟ้าเท่านั้น มหาวิทยาลัยเทคนิคที่ก่อตั้งขึ้นมา จะผลิตบุคคลสำคัญในวงการวิทยาศาสตร์ ที่จะพาเยอรมนีเปิดโลกเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม อุตสาหกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนไปตลอดกาล......“อุตสาหกรรมเคมี”..
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป


