การร้องไห้ส่งผลดีอย่างไรต่อร่างกาย
เมื่อก่อนใครร้องไห้ ก็มักจะโดนบอกว่า "เข้มแข็งหน่อยสิ อย่าอ่อนแอ" โดยเฉพาะผู้ใหญ่ ที่มักจะต้องแบกรับทุกอย่างเอาไว้เงียบ ๆ ทั้งเรื่องลูก เรื่องหลาน เรื่องงาน หรือแม้กระทั่งเรื่องสุขภาพใจของตัวเอง
แต่รู้ไหมคะว่า การร้องไห้ นั้น ไม่ใช่เรื่องน่าอาย และ ไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอเสมอไป ตรงกันข้ามเลยค่ะ การร้องไห้ยังมีข้อดีต่อร่างกายและจิตใจมากกว่าที่คิดอีกนะคะ
1. การร้องไห้ช่วยระบายความเครียด ในน้ำตาของเรามีฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอลเจือปนอยู่ด้วยค่ะ เวลาร้องไห้ เราจึงเหมือนได้ปล่อยความเครียดออกมาทางน้ำตา เป็นการระบายความอัดอั้นได้อย่างปลอดภัย และไม่ต้องใช้คำพูดให้ใครเข้าใจด้วย
2. น้ำตาช่วยบำรุงดวงตา ในน้ำตาประกอบไปด้วยสารที่ช่วยหล่อเลี้ยงและปกป้องดวงตา เช่น ไลโซไซม์ ซึ่งมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ทำให้ดวงตาไม่แห้ง ไม่ติดเชื้อง่าย ยิ่งวัยเราที่บางคนเริ่มตาแห้งจากอายุ การร้องไห้บ้างจึงอาจช่วยได้มากเลยค่ะ
3. ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น หลังร้องไห้ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนบางตัวที่ช่วยให้เราผ่อนคลาย เหมือนเป็นการปลอบประโลมตัวเองโดยธรรมชาติ หลายคนพอร้องไห้เสร็จก็นอนหลับง่ายขึ้น และตื่นมาอย่างเบาสบายกว่าเดิม
4. ทำให้จิตใจสงบขึ้น หลายครั้งที่เราร้องไห้ เราได้ปล่อยสิ่งที่เรากดไว้ในใจมานานออกมา พอได้ร้องออกมา ก็เหมือนหัวใจได้คลายปม รู้สึกปลอดโปร่งขึ้น ทั้ง ๆ ที่อาจจะยังไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลยด้วยซ้ำ
5. สื่อสารกับคนรอบข้างโดยไม่ต้องพูด บางครั้งการร้องไห้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่เราสื่อสารออกไปว่า “เราไม่ไหวแล้วนะ” หรือ “ช่วยเข้าใจเราหน่อย” สำหรับคนวัยเราที่ไม่ค่อยพูดมาก การร้องไห้ก็คือภาษาทางใจอย่างหนึ่ง
สรุปคือ... หากวันไหนใจมันหนัก น้ำตามันจะไหลออกมาเองโดยไม่ต้องฝืนค่ะ และนั่นแหละคือสัญญาณว่าเราเป็นมนุษย์ เป็นคนที่มีความรู้สึก ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ต้องเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว
ร้องไห้ได้ค่ะ ไม่ผิด ไม่อ่อนแอ
มันคือการดูแลตัวเองในรูปแบบที่ง่ายที่สุดที่ร่างกายมอบให้เรา
ใครอ่านกระทู้นี้แล้วเคยร้องไห้เงียบ ๆ คนเดียว ลองมาแชร์กันได้นะคะว่า หลังจากร้องแล้วรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม
วัยเราไม่ได้ต้องเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้นี่นา จริงไหมคะ











