12 พฤติกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำ อาจทำให้สุขภาพจิตเสียโดยไม่รู้ตัว
1.เดินตัวงอ จากวารสารที่ศึกษาพฤติกรรมและกายภาพของมนุษย์ พบว่า คนที่เดินหลังงอ ห่อไหล่ ก้าวเท้าถี่ ๆ จะอารมณ์เสียง่ายกว่าคนที่เดินอกผายไหล่ผึ่ง ก้าวเท้ายาว นอกจากนี้คนเดินตัวงอยังมักจดจำเรื่องราวที่ไม่ดี ชอบพูดจาในเรื่องซีเรียส
2.ถ่ายรูปทุกอย่าง มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จิตวิทยาออกมาบอกว่า การถ่ายรูปสิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้เราจดจำสิ่งเหล่านั้นได้น้อยลง ถ้าเทียบกับคนที่โฟกัสสิ่งที่กำลังมอง ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านั้น (ไม่ได้ห้ามถ่ายรูป) และสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมเพื่อดื่มด่ำความสุข ณ ขณะนั้นมากกว่าถ่ายรูปเสร็จแล้วจากไป
3.ประเมินตัวเองต่ำไป จากการศึกษาพบว่า 35% ของลูกจ้างชาวอเมริกัน ถูกกดขี่ข่มเหงจากเพื่อนร่วมงาน ซึ่งทำให้หมดความภาคภูมิใจ และ ขาดความเคารพในตัวเอง ส่งผลให้ไม่อยากไปทำงาน ทำให้ผลของงานมีประสิทธิภาพน้อยลง วิธีการแก้ไขในระยะยาวควรปรึกษาจิตแพทย์ เปลี่ยนทัศนคติให้เคารพตัวเองมากขึ้น
4.ไม่ออกกำลังกาย ข้อมูลจากสถาบันจิตเวชศาสตร์ JAMA Psychiatry เผยว่า คนที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ จะมีความเสี่ยงเครียดน้อยลง 19% อาจเริ่มจากสิ่งง่าย ๆ เช่น การเดินขึ้นลงบันได การเดินระยะสั้น ก็จะทำให้ชีวิตแอ็กทีฟ ความหดหู่จะลดน้อยลง
5.ผัดวันประกันพรุ่ง หลายคนคงเคยเป็นทั้งนั้นการผัดวันประกันพรุ่ง แต่หากไม่อยากทำงานทันทีเพราะงานนั้นทำให้กังวลใจ หรือ กลัวที่จะทำได้ไม่ดีพอ การผัดวันประกันพรุ่งจะยิ่งทำให้สุขภาพจิตเสีย ดังนั้นจึงควรลบความเครียดนั้นออกโดยการฟังเพลง ออกไปเล่น ทำกิจกรรมที่ทำให้มีเสียงหัวเราะ เมื่อกังวลน้อยลงจะได้มีใจอยากทำงานมากขึ้น
6.ความสัมพันธ์เป็นพิษ บางครั้งความเครียด ความวิตกกังวลต่าง ๆ อาจเกิดเพราะความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ จะทำให้กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว คิดว่าตัวเองถูกต้องเสมอ ดังนั้นควรหมั่นสอบถามคนใกล้ชิดว่า ตัวคุณเปลี่ยนไปไหม? เปลี่ยนไปอย่างไร? เพื่อที่จะแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดี
7.เครียดเกินไป มีการวิจัยมากมายชี้ว่า การหัวเราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต เป็นยาที่รักษาความเครียดได้เร็วที่สุด จึงสำคัญอย่างยิ่งที่คนเราควรมีอารมณ์ขัน หรือ อยู่กับคนที่ทำให้ยิ้มได้ ไม่ก็ควรหาโอกาสเป็นอาสาสมัครกับเด็ก ๆ เพราะรอยยิ้มและการกระทำของเด็กน้อยจะทำให้ยิ้มได้เสมอ
8.นอนหลับไม่สนิท นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยบาสเตีย (Bastyr University) สหรัฐ กล่าวว่า การนอนหลับส่งผลต่อทุกอย่างเพราะการนอนเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ฟื้นฟูและพักผ่อนได้ดีที่สุด ดังนั้นถ้ากำลังประสบปัญหานอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ต้องหาสาเหตุแล้วแก้ไขมัน อีกทั้งสภาพแวดล้อมที่ดีย่อมมีผลต่อประสิทธิภาพในการนอน
9.ไม่เคยอยู่คนเดียว หากในหนึ่งวันคุณใช้ชีวิตอยู่กับผู้อื่นตลอดไม่ว่าจะเป็น เพื่อนร่วมงาน ลูก ๆ คู่ชีวิต คุณอาจมีความสุขที่ได้อยู่กับพวกเขา แต่อย่างไรก็ควรหาเวลาอยู่กับตัวเองบ้างสัก 10 นาที หรือ 1 วัน เพื่อคุยกับตัวเอง ซึ่งจะทำให้ได้อยู่กับตัวเอง ทำความเข้าใจกับจุดมุ่งหมายในชีวิตของตัว และ ทำเพื่อตัวเองบ้าง
10.แชตไม่ใช่การคุย “การคุยผ่านเฟซบุ๊กเป็นเพียงความบันเทิงเท่านั้น” เคลย์ (DiedraL. Clay) นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยบาสเตียกล่าวไว้ และกล่าวเพิ่มด้วยว่า บนโซเชียลมีเดียไม่มีบทสนทนาที่แท้จริง แต่มันคือ การติดต่อสื่อสารเทียมที่ไม่สามารถสร้างประสบการณ์ร่วม หรือ ความรู้สึกร่วมกันได้ “ในที่สุดแล้วตัวเลขคนติดตามในเฟซบุ๊กไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่เพื่อนในชีวิตจริงต่างหากที่สำคัญ” เธอจึงแนะให้ทุกคนพูดคุยกับคนอื่นแบบเห็นหน้ากัน ไม่เพียงจะได้สนทนาโดยตรง แต่ยังสร้างช่วงเวลาดี ๆ ด้วยกัน
11.ติดมือถือ จำได้หรือไม่ว่าคุณอยู่โดยไม่มีมือถือครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ไม่แปลกที่จะจำไม่ได้ เพราะสมัยนี้มันคือส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน แต่นั่นคือสัญญาณที่ทำให้คุณเครียดโดยไม่รู้ตัว เพราะข่าวสารจากสมาร์ทโฟนทำให้คุณต้องคิดตลอดเวลา ซึ่งทำให้สมองและจิตใจไม่ได้พักผ่อน แม้ว่าตอนนั้นคุณจะว่างอยู่ก็ตาม
12.ทำหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ขณะที่กำลังกินข้าว อีกมือก็เลื่อนดูเฟซบุ๊ก ตอบไลน์เพื่อนในเวลาเดียวกัน การที่มักจะทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน บางคนอาจคิดว่าดี แต่มีการศึกษาทางจิตวิทยาออกมาแล้วว่า การทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันทำให้ทำสิ่งเหล่านั้นไม่ดีเลยสักอย่าง และยังทำให้เครียดวิตกกังวล อาจทำให้เกิดการสื่อสารผิดพลาดบ่อย ๆ ดังนั้นควรตั้งใจทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด เพื่อประสิทธิภาพของงานและสุขภาพจิตที่ดีของตัวเอง














