แสงไฟใต้ซาก 'ตึก สตง.' ทำกู้ภัยชะงัก! ลุ้นเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ
ด่วน! พบสัญญาณชีวิตใต้อาคาร "ตึก สตง." กู้ภัยเจอแสงไฟและเสียงโทรศัพท์ลึก 3 เมตร จุดความหวังช่วยผู้รอดชีวิต
สถานการณ์วิกฤติที่กำลังเป็นที่จับตามองทั่วประเทศในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มลงมาอย่างกะทันหันจากอิทธิพลของแผ่นดินไหวรุนแรงในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้ (11 เมษายน 2568) มีความคืบหน้าที่สร้างความหวังให้กับประชาชนและครอบครัวของผู้ที่ยังคงสูญหายเป็นอย่างยิ่ง
โดยเพจเฟซบุ๊ก Fire & Rescue Thailand ซึ่งเป็นเพจที่รายงานสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด ได้โพสต์ข้อความสำคัญระบุว่า
"ด่วน!!! #ขอให้เจอคนรอด กู้ภัย ได้ยินเสียงเปิดปิดโทรศัพท์ ใต้ซากโซน B มีสัญญาณไฟลึกลงไป 3 เมตร"
จากรายงานล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น. ทีมกู้ภัยจาก มูลนิธิเพชรเกษม ที่ปฏิบัติการอย่างไม่ลดละ ได้ยินเสียงคล้ายการปิดเปิดโทรศัพท์มือถือบริเวณใต้ซากอาคารโซน B พร้อมทั้งตรวจพบสัญญาณไฟซึ่งอยู่ลึกลงไปประมาณ 3 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกนายต่างเร่งประสานงานและวางแผนเพื่อเข้าถึงจุดดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
จุดความหวังใหม่ ท่ามกลางความห่วงใยของคนไทยทั้งประเทศ
การพบสัญญาณชีวิตในครั้งนี้ ถือเป็นความหวังสำคัญที่จุดประกายความเชื่อว่าผู้สูญหายบางรายอาจยังคงมีชีวิตรอดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 15 วันนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ แต่ทีมกู้ภัยทุกคนยังคงไม่ย่อท้อ โดยเฉพาะทีม USAR (Urban Search and Rescue) ซึ่งได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบทันทีที่ได้รับรายงาน
นอกจากเสียงโทรศัพท์และแสงไฟ ทีม USAR ยังได้ใช้เครื่องสแกนอินฟาเรด ตรวจจับพลังงานความร้อนในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นเครื่องแสดงผลเป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าผู้ที่อยู่ใต้ซากอาคารยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่ เนื่องจากยังไม่พบสัญญาณเสียงหรือการเคลื่อนไหวเพิ่มเติม
ความท้าทายของภารกิจช่วยเหลือใต้ซากตึก
สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญของภารกิจนี้คือ ความเสียหายของโครงสร้างอาคารที่พังทลายลงมาอย่างหนัก ทับถมจนกลายเป็นภูเขาสูงเกือบ 25 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุดในการเคลียร์ซาก เนื่องจากหากดำเนินการผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้ซากปรักหักพังที่เหลืออยู่ถล่มลงมาเพิ่มเติมได้
ทีมงานกู้ภัยต้องทำงานแข่งกับเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว รวมถึงฝุ่นละอองและเศษวัสดุแหลมคมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายระหว่างการปฏิบัติงาน แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้และความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิต ทุกฝ่ายยังคงเดินหน้าค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณที่ตรวจพบสัญญาณล่าสุด
โลกออนไลน์ส่งกำลังใจล้นหลาม
ภายหลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวดีนี้ โลกโซเชียลมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวอย่างรวดเร็ว พร้อมติดแฮชแท็ก #ขอให้เจอคนรอด และ #ตึกสตงถล่ม เพื่อส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกนายที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ รวมถึงครอบครัวของผู้สูญหายที่กำลังเฝ้ารอฟังข่าวดีอย่างใจจดใจจ่อ
ข้อความจากชาวเน็ตหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เช่น
"ขอให้ปลอดภัยทุกคน ขอให้เจอคนรอดชีวิตนะคะ สู้ ๆ ทุกหน่วยงาน"
"ตามลุ้นตั้งแต่วันแรก ดีใจที่ยังมีสัญญาณชีวิต ขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง"
"ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ไม่ยอมแพ้ แม้จะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตาม"
บทสรุปที่ยังต้องติดตาม
แม้ยังไม่สามารถสรุปผลได้แน่ชัด แต่การพบสัญญาณในวันนี้ถือเป็นพัฒนาการสำคัญของภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทีมงานกู้ภัยทุกฝ่ายยังคงทำงานแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถเข้าถึงจุดที่พบสัญญาณภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ประชาชนชาวไทยยังคงจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด พร้อมภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์ และผู้ที่อยู่ใต้ซากอาคารจะสามารถรอดชีวิตออกมาได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน กำลังใจจากทุกมุมของสังคมก็ยังคงส่งตรงถึงเจ้าหน้าที่และผู้ที่รอการช่วยเหลืออย่างไม่ขาดสาย
สรุป
เหตุการณ์การถล่มของ "ตึก สตง." ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นโศกนาฏกรรมใหญ่ที่ไม่มีใครคาดคิด ยังกลายเป็นบทพิสูจน์หัวใจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยและประชาชนคนไทย ที่พร้อมจะไม่ทอดทิ้งกันในยามวิกฤติ ขอเพียงยังมีสัญญาณแห่งความหวัง ไม่ว่าลึกแค่ไหน ทีมกู้ภัยก็พร้อมจะฝ่าฟันทุกอุปสรรคเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ให้ได้มากที่สุด
อ้างอิงจาก: Crภาพ : กัปตัน ปิงค์
















